วันนี้ (24 ก.พ.67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาตอกย้ำ นโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนนตรี และ รมว.คลัง ในการปาฐกถาพิเศษ "IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยเป็นที่หนึ่ง" โดยย้ำถึงการพัฒนาด้านเศรษฐกิจต้องทำควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านสังคม และ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ
พร้อมประกาศเจตนารมณ์ ผลักดันไทยเป็นเจ้าภาพ World Pride 2028 แสดงให้เห็นถึงการผลักดันนโยบายเรื่องความเท่าเทียมทางเพศที่รัฐบาลมองว่า หากไทยได้รับการสนับสนุนให้ เจ้าภาพ World Pride 2028 งานดังกล่าวจะทั้งสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศและนำรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาล
“ขอชวนให้มองว่าเรื่องความเท่าเทียมทางเพศนั้นเป็นอีกปัจจัยที่สามารถเสริมความแกร่งให้เศรษฐกิจไทยได้ ตัวอย่างเช่นใน อุตสาหกรรมท่องเที่ยว อุตสหากรรมบรรเทิง และ อุตสาหกรรมทางการแพทย์ เป็นต้น ซึ่งเมื่อ 22 พฤศจิกายน ปี 2566 ที่ผ่านมา ครม. ก็ได้อนุมัติ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... (สมรสเท่าเทียม) แล้ว และไม่นานหลังจากนั้น สภาผู้แทนราษฎร ก็ได้มีมติรับหลักการร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม 4 ฉบับในวาระที่ 1 ไปเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2566 แล้ว ณ ตอนนี้ การพิจารณาของกรรมาธิการมีความเข้มข้นมากในช่วงโค้งสุดท้าย ล่าสุด ได้มีการดำเนินการพิจารณาถึง 62 มาตราแล้ว จากทั้งสิ้น 68 มาตรา นับว่ามีการดำเนินการไปกว่าร้อยละ 90 และคาดว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการในสัปดาห์หน้า”
สำหรับเทศกาล WorldPride นั้นเป็นงานไพรด์นานาชาติ หรืออาจเรียกว่าเป็นโอลิมปิกของกลุ่ม LGBTQIAN+ จัดขึ้นโดยองค์กร Interpride เริ่มขึ้นครั้งแรกในปี 2000 ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี และจัดขึ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2023 ที่ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ก่อนจะโยนไม้ต่อให้ วอชิงตัน ดี.ซี. (สหรัฐอเมริกา 2025) ที่เสนอชื่อเข้าชิงพร้อมกับไต้หวัน ที่ผ่านกฏหมายสมรสเพศเดียวกันเป็นที่แรกในเอเชีย แต่ต้องถูกยกเลิกการจัดงานเนื่องจากคณะกรรมการจาก InterPride แสดงความกังวลด้านการเมืองระหว่างไต้หวันกับจีน
จากนั้นตามด้วย อัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์ 2026) ทำให้ กรุงเทพมหานคร ที่เตรียมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในปี 2028 ซึ่งจะเป็นประเทศแรกในเอเชีย ที่ได้จัด WorldPride หากผ่านคุณสมบัติ โดยประเทศสมาชิก InterPride เป็นผู้คัดเลือกตามความเหมาะสม