นายเลิศศักดิ์ ปนกลิ่น นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา และที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผย " ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ขณะนี้จังหวัดพังงาเป็นจังหวัดหนึ่งที่ติดขัดเรื่องกฎหมายผังเมืองไม่สามารถพัฒนาเมืองรองรับการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวได้
โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลโคกกลอย อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา รัฐบาลมีนโยบายที่จะสร้าง"สนามบินภูเก็ต 2" หรือ "สนามบินอันดามัน" หากไม่มีการปรับแก้ผังเมืองพื้นที่บริเวณโดยรอบของสนามบินก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆ การพัฒนาและเจริญเติบโตจะอยู่เฉพาะตัวสนามบินเท่านั้น ขณะที่พื้นที่สร้างสนามบินอยู่ทางทิศใต้ของจังหวัดพังงา ไม่สามารถสร้างโรงแรม โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้าได้เลย
ส่วนด้านทิศเหนือของพังงาติดกับจังหวัดระนอง จะพัฒนาเป็นพื้นที่โครงการแลนด์บริดจ์ หากติดกฎหมายผังเมืองก็ไม่สามารถพัฒนาอะไรได้ ดังนั้นรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ ต้องแก้กฎหมายผังเมืองรอไว้ก่อนสร้างสนามบินและแลนด์บริดจ์ หากยังติดกฎหมายผังเมืองทั้งหมดเมกะโปรเจกต์ที่รัฐบาลวาดฝันไว้ ทั้งสนามบินอันดามัน และแลนด์บริดจ์จะเป็นปัญหาในการพัฒนาเมืองทันที
นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า ปัญหาผังเมืองพังงา ภาคเอกชนเคยพูดคุยในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.)จังหวัดหลายครั้ง และเคยยื่นเรื่องดังกล่าวให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ช่วงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดพังงา ให้มีการแก้ผังเมืองแล้ว
โดยพื้นที่เป็นปัญหา จุดแรก คือ ตำบลโคกกลอย ที่จะสร้างสนามบิน เป็นสีขาว เขียว จุดที่2 อำเภอเกาะยาว พื้นที่ติดสิ่งแวดล้อมจะพัฒนาอะไรไม่ได้ พื้นที่บริเวณนี้สามารถพัฒนาร่วมกับจังหวัดภูเก็ตได้
และจุดที่3 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญคือ บ้านเขาหลัก เกาะคอเขา ต้องการนำเสนอเป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษ การแก้กฎหมายผังเมือง รัฐบาลต้องมองภาพรวม ต้องแก้ผังเมืองจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน 6 จังหวัด(กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล)ทั้งหมด เพราะกลุ่มอันดามันที่ติดทะเลจะอยู่ในพื้นที่เป็นอุทยานแห่งชาติ พื้นที่ป่า พื้นที่อนุรักษ์ และติดผังเมือง จะพัฒนาการท่องเที่ยวไม่ได้ อีกทั้งจังหวัดพังงาสร้างตึกได้ไม่เกินความสูง 3ชั้น
ทั้งนี้ จังหวัดพังงามีเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดิน นส.3 ก และนส.3 จะเห็นว่าพื้นที่หรือสถานที่ท่องเที่ยวในฝั่งอันดามัน 6 จังหวัดจะอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าและพื้นที่อนุรักษ์ ทั้งสิ้น หากต้องการได้เงินจากการท่องเที่ยวที่มีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเป็นผู้ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไปยังประเทศไทยและสร้างเม็ดเงินปีละล้านล้านบาท
แต่ในทางกลับกันกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำการกวดขันปราบปรามจับกุมผู้ที่เข้าไปใช้ทรัพยากรธรรมชาติโดยผิดกฎหมาย ทั้งที่เจตนาและไม่เจตนา สองนี้เป็นเรื่องที่ขัดแย้งกัน ซึ่งในหลายประเทศถึงแม้จะเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ แต่สามารถเข้าไปทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยวได้ จึงอยากให้ประเทศไทยนำตัวอย่างที่ดีของต่างชาติ มาประยุกต์ให้เข้ากับพื้นที่ของประเทศไทย
นอกจากนั้นในกรณีนักท่องเที่ยวต่างชาติประสบอุบัติเหตุในจังหวัดพังงา ก็ไม่มีโรงพยาบาลเอกชนที่ได้มาตรฐานและทันสมัยมารองรับ ต้องนำนักท่องเที่ยวมารักษาในโรงพยาบาลของจังหวัดภูเก็ตหรือเข้ารักษาในกรุงเทพฯ เพราะพื้นที่จังหวัดพังงามีเฉพาะโรงพยาบาลของรัฐเท่านั้นซึ่งไม่สะดวกที่เรื่องการเคลมประกันชีวิต จึงเชิญชวนให้นักลงทุนกลุ่มแพทย์ มาลงทุนก่อสร้างโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่จังหวัดพังงารองรับนักท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
หากมองถึงศักยภาพของสนามบินอันดามัน ใช้พื้นที่ก่อสร้างบนเนื้อที่ประมาณ 7,000 ไร่ มีทั้งที่ดินกรมธนารักษ์และเอกชน ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 6-7 ปี มีทางวิ่งเครื่องบินรันเวย์ 2 เส้น รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 40 ล้านคนต่อปี ก่อนการสร้างสนามบิน ภาครัฐควรจะมีโครงสร้างพื้นฐานให้ครบ โดยเฉพาะรถไฟไฟฟ้ามวลเบา ที่วิ่งเชื่อมระหว่างพื้นที่โคกกลอย สนามบินอันดามัน และเข้าไปยังตัวเมืองภูเก็ต รัฐควรสร้างเครือข่ายการคมนาคม เชื่อมสนามบิน 2 แห่ง สถานที่ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ท่าเรือ ทั้งพังงาและภูเก็ต ให้นักท่องเที่ยวและประชาชนเดินทางได้ง่าย
นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา กล่าวถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวพังงาว่า ช่วงเดือนมกราคม ถึง ธันวาคม 2566 อัตราการเข้าพัก มีการเข้าพักเฉลี่ย 61.99% จำนวนห้องพัก 13,935 ห้อง วันพักเฉลี่ย 9.84วัน 2,910,157คน เป็นคนไทย 1,065,590 คน เป็นชาวต่างชาติ 1,844,567คน สัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 63.38% คนไทย 36.62%
ขณะที่รายได้จากผู้มาเยือน 28,494,4.55ล้านบาท เป็นชาวไทย 4,610.6ล้านบาท เป็นชาวต่างชาติ 23,884.0ล้านบาท ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนต่อวัน 6,119.28 นักท่องเที่ยว 7,333.63 นักทัศนาจร 2,513.97
นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในจังหวัดพังงา 5 อันดับ ได้แก่ เยอรมัน บริติช รัสเซีย ออสเตรเลีย และฝรั่งเศส มีบริษัทนำเที่ยวทั้งในและต่างประเทศรวม 342 แห่ง สิ้นปี 2567 คาดหวังรายได้จากการท่องเที่ยว 60,000อล้านบาท และ สิ้นปี 2568 คาดหวังรายได้จากการท่องเที่ยว 80,000 ล้านบาท
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3975 วันที่ 17 – 20 มีนาคม พ.ศ. 2567