KEY
POINTS
"กาสิโนถูกกฎหมาย " ถูก “จุดพลุ” ขึ้นอีกครั้ง หลังจากคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ สภาผู้แทนราษฎร สรุปรายงานผลการศึกษาฯ ฉบับสมบูรณ์ และเตรียมเสนอให้สภารับรองผลการศึกษารายงานในวันที่ 28 มีนาคม 2567 ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
รายงานผลการพิจารณาศึกษาการเปิด “กาสิโนถูกกฎหมาย” ในสถานบันเทิงครบวงจรดังกล่าว ได้จำแนก "ผลกระทบ" ทั้งเชิงบวก-เชิงลบ รวมถึงมาตรการป้องกันจากการตั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน ดังนี้
ผลกระทบในเชิงบวก
ด้านนโยบายทางการเมือง ทำให้สามารถควบคุมหรือกำกับดูแลการประกอบธุรกิจบางประเภทที่มีผลกระทบต่อประชาชนในภาพรวมได้ดีขึ้น เช่น ธุรกิจกาสิโน หรือการเล่นพนันถูกกฎหมาย
ทำให้ประชาชนหันไปพึ่งพาการพนันที่ผิดกฎหมายน้อยลง เป็นการลดภาระของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองในการที่จะป้องกันและปราบปรามตามกฎหมาย
การช่วยลดปัญหาผู้มีอิทธิพล ลดปัญหาเงินตรารั่วไหลจากการที่ประชาชนนำเงินออกไปเล่นพนันนอกประเทศ ลดภาระด้านงบประมาณของประเทศที่ใช้ในการป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย
ด้านเศรษฐกิจ กระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศ ทำให้อัตราการว่างงานของคนในพื้นที่ลดน้อยลง มีการเพิ่มอัตราการจ้างงาน ส่งผลให้ในภาพรวมประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีความสามารถในการใช้จ่ายมากขึ้นทั้งในด้านการอุปโภค บริโภค
เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อรองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยว ทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากทรัพยากรในพื้นที่อันเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก
ส่งผลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและรัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น ทั้งจากค่าธรรมเนียม ค่าการอนุมัติ อนุญาต และภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตได้ต่อไป
ทั้งนี้ จากการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังกระทรวงการคลัง โดยอ้างอิงกรณีการเปิดกาสิโนในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจากการคำนวณเบื้องต้นพบว่า
ก่อนปี 2009 นักท่องเที่ยวต่างชาติมีการใช้จ่ายในการเยี่ยมชมสถานที่และความบันเทิงต่อคนประมาณ 51 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 1,340 บาท) แต่เมื่อมีการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย นักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายในหมวดนี้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3 ปีแรก 841 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 22,300 บาท) หรือ อาจอนุมานได้จากนักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 22,300 บาทต่อคน
เมื่อคำนวณรวมกับค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวปี 2566 ที่อยู่ที่ 42,750บาท/คน/ทริป ทำให้คาดว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะมีการใช้จ่ายประมาณ 65,050 บาท/คน/ทริป
ด้านสังคม ประชาชนกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ที่มีการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร ได้แก่ กลุ่มเด็กและเยาวชน ในแง่ของผลดีจะเกิดการจ้างงานชั่วคราว (Part-time) ให้กับเด็กและเยาวชนในครอบครัวยากจนและขาดโอกาสให้มีงานทำ กลุ่มผู้สูงอายุและคนพิการ
ในกรณีเป็นสถานบันเทิงขนาดใหญ่สามารถเกิดการจ้างงานคนพิการตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมอาชีพให้กับกลุ่มเปราะบางดังกล่าวได้ ตลอดจนเกิดการสร้างงานสร้างอาชีพในพื้นที่ซึ่งย่อมส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ของบุคคลในครอบครัวที่สมาชิกไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายออกไปหางานทำในพื้นที่อื่น ๆ ช่วยให้ลดปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งและการใช้ความรุนแรงในครอบครัวลงได้ในระดับหนึ่ง
ด้านการศึกษาและการพัฒนาฝีมือแรงงาน ทำให้เกิดการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะเฉพาะด้านในโรงเรียนหรือสถานศึกษา เพื่อรองรับตลาดแรงงานฝีมือที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจในสถานบันเทิงครบวงจร อาทิ หลักสูตรการบริหารจัดการในธุรกิจเฉพาะด้าน หลักสูตรการเป็นผู้ปฏิบัติงานในธุรกิจกาสิโน หรือในธุรกิจบริการด้านอื่น ๆ ในสถานบันเทิงนั้น
โดยปัจจุบันกรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้จัดเตรียมหลักสูตรการเรียนการสอนเกี่ยวกับการทำงานในสถานกาสิโนไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดให้จัดการเรียนการสอนได้ เพราะกฎหมายยังไม่อนุญาตให้มีกาสิโน
ในอนาคตหากมีการเปิดกาสิโนในประเทศไทย อาจทำให้มีปัญหาด้านการขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือและทักษะด้านนี้ ซึ่งอาจต้องมีนโยบายในการคุ้มครองแรงงานที่เป็นคนไทยไว้ด้วย โดยอาจระบุในเงื่อนไขใบอนุญาตให้มีคนไทยทำงานในสถานที่ดังกล่าว ไว้ในสัดส่วนร้อยละ 60 - 70 ก็ได้
ทั้งนี้ ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต้องใช้แรงงานจำนวนมาก ทั้งแรงงานภาคบริการปกติทั่วไป เช่น พนักงานโรงแรม พนักงานร้านอาหาร และแรงงานเฉพาะทางในธุรกิจกาสิโน เช่น ดีลเลอร์ พนักงานรักษาความปลอดภัย
ในระยะแรกประเทศไทยมีจำนวนแรงงานภาคบริการปกติทั่วไป เพียงพอกับความต้องการของธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ในขณะที่แรงงานเฉพาะทางในธุรกิจกาสิโนของประเทศไทยอาจไม่เพียงพอ
ดังนั้นจึงอาจต้องอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถทำงานเฉพาะทางในธุรกิจกาสิโนได้ในอัตราส่วนที่เหมาะสม แต่ก็ต้องมีแผนการเพิ่มสัดส่วนแรงงานไทย รวมถึงการฝึกฝนแรงงานไทยให้มีทักษะเพียงพอกับความต้องการแรงงานเฉพาะทางในธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรและธุรกิจกาสิโนต่อไปอนาคต
ผลกระทบในด้านลบ (ข้อควรระวัง)
ด้านนโยบายทางการเมือง อาจเป็นแหล่งฟอกเงินของธุรกิจที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมเงินนอกระบบ การค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์ทั้งทางแรงงานและทางเพศ ตลอดจนการค้าสินค้าหนีภาษี และเป็นบ่อเกิดของการคอร์รัปชั่น
รวมถึงทำให้สุขภาพกาย สุขภาพจิตของประชาชนเสื่อมโทรม ทำให้รัฐต้องเสียประโยชน์ในการจัดเก็บรายได้จากการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว รวมถึงสูญเสียงบประมาณจำนวนมากในการแก้ไขฟื้นฟูและเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น
ด้านเศรษฐกิจ หากประชาชนคนไทยเข้าไปใช้บริการในสถานบันเทิงแบบครบวงจรจนติดเป็นนิสัย อาจทำให้ไม่มีเงินหลงเหลือพอที่จะเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต หรือทรัพย์สินร่อยหลอลงจนเกิดเป็นปัญหาทางการเงินและการประกอบอาชีพ ซึ่งส่งผลสะท้อนกลับมายังภาครัฐในการแสวงหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา หรือกำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
ด้านสังคม หากรัฐไม่มีมาตรการควบคุมการเข้าใช้สถานบันเทิงครบวงจร และสถานกาสิโนอย่างเข้มงวดรัดกุมพอ อาจจะก่อให้เกิดปัญหาผลกระทบต่อสังคมได้ เช่น ปัญหาการฉ้อโกง ปล้น ลักทรัพย์ รวมถึงการก่ออาชญากรรมประเภทต่าง ๆ ตลอดจนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาความรุนแรงในสถาบันครอบครัว และความเสื่อมทรามทางศีลธรรมตามมาได้
ด้านสิ่งแวดล้อม การสร้างสถานบันเทิงแบบครบวงจรและหรือกาสิโน จะต้องมีการใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ เพราะต้องประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ จึงอาจมีผลกระทบต่อระบบนิเวศน์จากการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่จะก่อสร้าง เช่น การตัดไม้ทำลายป่า มลภาวะจากฝุ่นละออง รวมถึงมลพิษตามแหล่งน้ำจากสิ่งปฏิกูลมูลฝอย และสารเคมีที่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนในแหล่งน้ำสำหรับใช้อุปโภคและบริโภค
ส่วนการเปิดใช้สถานบันเทิงครบวงจรหรือกาสิโนดังกล่าว อาจมีปัญหาเรื่องมลภาวะทางเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือนจากการแสดงดนตรี การเปิดเพลงเสียงดังของสถานบันเทิง การรวมกลุ่มมั่วสุม การดื่มสุรา ซึ่งเหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบต่อการพักผ่อนและความปลอดภัยของประชาชนหรือผู้สูงอายุและกลุ่มผู้เปราะบาง เช่น ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ที่ต่างอาศัยในเขตพื้นที่ใกล้เคียงกับสถานบันเทิงครบวงจร
ด้านการศึกษา สถานบันเทิงครบวงจรอาจกลายเป็นศูนย์รวมอบายมุข และแหล่งอาชญากรรม โดยเฉพาะผลกระทบที่จะเกิดกับเด็กและเยาวชนที่อยู่ในวัยของการศึกษาเล่าเรียน เช่น ทำให้ไม่สนใจการเรียน ขาดเรียนบ่อย และผลการเรียนตกต่ำ รวมถึงปัญหาเรื่องสุขภาพของเด็กวัยเรียนที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งเสพติด เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น
อาจทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพจิตตามมา รวมถึงผลกระทบทางอ้อมอันเนื่องจากพ่อแม่ผู้ปกครองไม่มีเวลาเอาใจใส่หรือส่งเสริมสนับสนุนด้านการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็ก สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการด้านความคิดอารมณ์ และการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนได้
ด้านศาสนา จริยธรรม และจารีตประเพณี อาจเป็นการสร้างค่านิยมที่ผิดให้กับประชาชน จากการเห็นคนที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขในสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เล่นการพนันในกาสิโนได้มีเงินใช้จ่ายใช้สอยอย่างฟุ่มเฟือย จนเกิดการเอาอย่างขึ้น รวมถึงสร้างนิสัยเกียจคร้านในกิจการงานอย่างอื่น ไม่สนใจจะประกอบอาชีพตามอย่างที่สุจริตชนทั่วไปพึงทำ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ถือเป็นอบายมุขอย่างหนึ่งตามหลักธรรมทางศาสนา
จากศึกษาพบว่า แม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านที่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เช่น ประเทศสิงคโปร์ หรือประเทศที่กฎหมายและจารีตทางศาสนาเข้มงวดอย่างประเทศมาเลเซีย รวมถึงประเทศฟิลิปปินส์ ต่างมีการออกใบอนุญาตให้มีการเล่นการพนัน โดยมีเป้าหมายหลัก คือ รายได้จากนักท่องเที่ยว ซึ่งหากเป็นพลเมืองของประเทศตนเองเข้ามาเล่นพนันจะมีการกำหนดกฎเกณฑ์ และกลไกมาตรการข้อจำกัดที่เคร่งครัด เพื่อคัดกรองบุคคลเข้าเล่นการพนัน
โดยจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนและจะต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่ประเทศไทยควรจะนำแบบอย่างจากประเทศเพื่อนบ้านเหล่านั้นมาใช้เป็นตัวอย่าง หากจะมีการเปิดให้เล่นการพนันถูกกฎหมายในสถานบันเทิงครบวงจรดังกล่าว ซึ่งจะต้องมีกฎหมายที่เข้มแข็ง การตรวจสอบต้องเข้มงวด หลักเกณฑ์ต้องชัดเจน
โดยจะมีข้อดี คือ ทำให้มีนักท่องเที่ยวมากขึ้น คนในประเทศไทยซึ่งมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเล่นการพนันได้ ก็จะได้เล่นภายในประเทศ ทำให้สามารถป้องกันเงินตรารั่วไหลออกนอกประเทศได้
ทั้งนี้ ในบรรดามาตรการต่าง ๆ ที่จะนำมาใช้บังคับเพื่อลดผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับการเล่นพนันถูกกฎหมายนั้น สิ่งสำคัญที่ควรจะต้องมี คือ
โดยมีคณะกรรมการเป็นผู้ดูแลและบริหารจัดการกองทุนดังกล่าว ซึ่งเป็นตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐและผู้เชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วนรวม ที่จะพิจารณาใช้เงินกองทุนเพื่อการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรและการพนันถูกกฎหมาย
ในกรณีการจัดเก็บภาษีสถานบันเทิงแบบครบวงจร แล้วประสงค์จะกันเงินรายได้ส่วนหนึ่ง เพื่อให้หน่วยงานของรัฐนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ (ตั้งกองทุน) นั้น สามารถดำเนินการได้ตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 โดยต้องอาศัยอำนาจตามกฎหมาย (ต้องออกกฎหมายเป็นการเฉพาะ)
ทั้งนี้ จากผลการศึกษาในเชิงสถิติสามารถยืนยันได้ว่า บ่อนการพนันแบบออฟไลน์ในสถานกาสิโน ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้คนติดการพนัน แต่การเล่นพนันแบบออนไลน์มากกว่าที่ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการติดพนันของบุคคล (ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2566 )
ดังนั้น จึงควรอนุญาตเฉพาะธุรกิจการพนันที่อยู่ในรูปแบบของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจรเท่านั้น ไม่ควรอนุญาตให้มีการเล่นพนันในรูปแบบออนไลน์