Klook จัดว่าเป็นแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวชั้นนำระดับเอเชีย ที่รวบรวมกิจกรรมและบริการท่องเที่ยวครอบคลุมมากกว่า 2,300 เมืองทั่วโลกรวมถึงไทย ซึ่งหลังโควิด-19 การเติบโตของบริษัท และเทรนด์การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเป็นเช่นไร นางสาวมิเชล โฮ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Klook ประจำประเทศไทย และฟิลิปปินส์ มีคำตอบ
ปัจจุบันจำนวนสถานที่ และกิจกรรมท่องเที่ยวที่เราขายพบว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการเติบโต 1.4 - 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด เมื่อเทียบนักท่องเที่ยวไทยบนแพลตฟอร์ม Klook ระหว่างปี 2565 กับ 2566 ยอดการจองกิจกรรมท่องเที่ยวของคนไทยเติบโต 270% ไม่เพียงจำนวนซื้อกิจกรรมท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น แต่ยังรวมถึงมูลค่าการใช้จ่ายต่อกิจกรรม เพิ่มขึ้น 30%
เช่นเดียวกับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวเอเชีย ดูได้จากไฟลท์ในสนามบินต่างๆ ที่กลับมา Recovery ได้เฉลี่ยมากกว่า 75% ในปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนโควิด-19 แพร่ระบาด เช่น สนามบินสิงคโปร์ Recovery กลับมาได้ 90% ไทย (สุวรรณภูมิและดอนเมือง) 75% ญี่ปุ่น (นาริตะ) 70% ฮ่องกง 60% ปักกิ่ง 40% และคาดการณ์ว่า ปี 2567 ไฟล์ทบินทั้งหมดจะ Recovery ได้ถึง 99.5%
ส่วนเทรนด์ที่น่าสนใจหลังจากพ้นช่วงโควิด-19 คือ นักท่องเที่ยวมีการใช้จ่ายมากขึ้นในการท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ และสนใจลองกิจกรรมใหม่ๆ 64% พร้อมจะจ่ายมากขึ้นในปี 2567 โดยเราสำรวจการท่องเที่ยวทั่วเอเชีย พบ 3 เทรนด์ที่นักท่องเที่ยวสนใจ ได้แก่
ขณะเดียวกันกลยุทธ์ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการแพลตฟอร์ม Klook จะสร้างความแตกต่างด้วยกิจกรรมที่เอ็กคลูซีฟ เช่น การจองบัตรชมคอนเสิร์ต เทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่สิงคโปร์ สามารถดึงดูดลูกค้าไทยเข้ามาในแพลตฟอร์มจองเพื่อจองตั๋วคอนเสิร์ต และกิจกรรม อื่นๆ เพิ่มเติมจากการดูคอนเสิร์ตเพิ่มขึ้น
รวมถึงการโปรโมทแบรนด์ผ่านกิจกรรมการตลาดเพื่อเข้าถึงลูกค้า เช่น แคมเปญออนไลน์ Klook สนุกฉํ่าไม่ซํ้าใคร ผ่านส่วนลดกิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วโลก จนถึงปลายเมษายน 2567 และใช้ Music Marketing นำเพลงติดฝนของ PiXXiE มาปรับเปลี่ยนเนื้อร้องเป็นเพลง ติด Klook และนำเสนอผ่านภาพยนตร์โฆษณา มีพรีเซนเตอร์ส้ม มารี และกิจกรรมชาเลนจ์เต้นใน TikTok เพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่
รวมไปถึงสร้างการรับรู้ผ่านแคมเปญ Klook Summer Fest อีเวนต์มอบส่วนลดการ ท่องเที่ยว ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นต้น และการจัดทำ Klook Lounge ที่เซ็นทรัลเวิลด์ในรูปแบบ Pop-Up ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ พร้อมสร้างยอดผู้ใช้ใหม่ด้วยการให้ผู้มาใช้บริการใน Klook Lounge โชว์แอปพลิเคชัน Klook เพื่อแลกไอศกรีมรสชาติเฉพาะฟรี
สำหรับเป้าหมายยอดขายและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้เราต้องการสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางท่องเที่ยว ตอนนี้เราดำเนินกิจการเข้าสู่ปีที่ 10 และได้มีการจองกิจกรรมมากกว่า 100 ล้านกิจกรรมแล้ว โดยมีกิจกรรมที่หลากหลายให้เลือกช้อปกันมากกว่า 530,000 กิจกรรมจากทั่วโลก ครอบคลุมมากกว่า 2,700 เมืองทั่วโลก และมีนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาค้นหาและจองกิจกรรมบน Klook มากกว่า 40,000 ล้านครั้งต่อเดือน
โดย Klook จะจับมือกับพาร์ทเนอร์ท้องถิ่นในการนำเสนอกิจกรรมและประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยให้กับลูกค้า วันนี้บนแพลตฟอร์ม Klook มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรีวิวกิจกรรมบน Klook มากกว่า 1 ล้านรีวิว โดยเฉลี่ยให้ 4.7 เต็ม 5 คะแนน และนักท่องเที่ยวต่างชาติจองกิจกรรมและบริการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยโต 40% เทียบกับปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 อันดับแรกที่เดินทางมาไทยจากการจองบน Klook ได้แก่ ฮ่องกง,ไต้หวัน, สิงคโปร์, เกาหลี และฟิลิปินส์ ส่วนสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในปี 2566 ได้แก่ ทัวร์เกาะ ทะเลใต้, ซื้อบัตรเข้าชมสถานที่ยอดฮิต เช่ารถ และล่องเรือล่องแม่นํ้าเจ้าพระยา
นางสาวมิเชล ยังกล่าวต่อว่า การดำเนินธุรกิจในไทย วันนี้เราจับโฟกัสเรื่องเฟสติวัลและคอนเสิร์ตในไทยมากขึ้น สอดรับกับนโยบายผลักดันด้านซอฟต์พาวเวอร์ 5F ของรัฐบาล ด้วยการทำงานร่วมกับผู้จัดงาน (Organizer) เฟสติวัลและคอนเสิร์ตในไทยเพื่อโปรโมตไปทั่วโลก ให้มาสัมผัสไม่เพียง แค่เทศกาลหรืองานอีเวนต์แต่สนับสนุนให้นักท่องเที่ยวสัมผัสกับประสบการณ์การท่องเที่ยวไทย ไม่ว่าจะเป็นอาหาร มวยไทย วัฒนธรรม ทะเลไทย เป็นต้น โดยมั่นใจว่าประเทศไทยสามารถใช้ 5F เป็นจุดแข็งในการเอาชนะประเทศ อื่นๆ ด้านการท่องเที่ยวได้
อีกทั้งเพื่อเป็นการสนับ สนุนนโยบายของรัฐบาล “World Songkran Festival : ประเพณีสงกรานต์ไทย หมุดหมายนักท่องเที่ยวทั่วโลก” ดำเนินงานผ่านเครือข่ายวัฒนธรรม 76 จังหวัดทั่วประเทศ และ 50 เขตในกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 1-21 เมษายน 2567 นี้ ทางบริษัทฯ จึงมีแผนในการกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวเมืองไทยในช่วงเทศกาล และในขณะเดียวกันพร้อมสนับสนุนคนไทยให้ออกเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวได้อย่างสะดวกและคุ้มค่า ผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวและงานอีเวนต์ ต่างๆ โดยทำการทำการตลาด โปรโมชัน และดีลพิเศษที่มอบให้นักท่องเที่ยว
Klook ร่วมมือกับผู้ประกอบการไทยนำเสนอกิจกรรมท่องเที่ยวพิเศษที่มอบความสนุกให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อาทิ การเป็นพันธมิตรสุดพิเศษระหว่างร้านอาหารเจ๊โอว ร้านอาหารชื่อดังที่ได้รับรางวัลมิชลิน บิบกูร์มองต์ และเรือเจ้าพระยาปริ๊นเซส ที่รังสรรค์แพ็คเกจรับประทานอาหารเมนูมาม่าเจ๊โอวบนเรือ ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินไปกับการล่องเรือชมแม่นํ้าเจ้าพระยาไปพร้อมๆ กับการได้ลิ้มรสอาหารไทยแสนอร่อยแบบไม่ต้องต่อคิว
การจำหน่ายบัตรเข้างาน Siam Songkran Music Festival 2024 รวมถึงได้จัดทำแคมเปญกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทย พร้อมแจกโค้ดส่วนลดพิเศษสำหรับกิจกรรมเที่ยวไทย ที่ Klook Lounge เซ็นทรัลเวิลด์ ในเดือนเมษายน
นอกจากนี้ในเดือนเมษายน เราจัดกิจกรรมท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาคที่คาดว่าเป็นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพร้อมจัดดีลพิเศษ เพื่อจะได้เข้ามาร่วมฉลองเทศกาลสงกรานต์กันได้ยาวๆ และใช้เวลาอยู่ในเมืองไทยนานยิ่งขึ้น เช่น คอร์สเรียนดำนํ้า ภาคใต้
ทั้งหมดล้วนเป็นภาพ รวมการดำเนินธุรกิจของ Klook ที่เกิดขึ้น