Klook หนุน ททท. ผนึกแบรนด์ยักษ์สร้างแลนด์มาร์คใหม่ดูดนักท่องเที่ยว

12 ก.ย. 2566 | 11:53 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.ย. 2566 | 11:53 น.

Klook หนุน ททท. ผนึกแบรนด์ยักษ์สร้างแลนด์มาร์คใหม่ดูดนักท่องเที่ยว ชูจุดแข็งพร้อมร่วมลุยตลาดจีน พร้อมเผยผลประกอบการ 3 พันล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ โตมากกว่า 3 เท่าตัวเมื่อเปรียบเทียบกับปี 62

นายวิลเฟร็ด ฟาน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท Klook เปิดเผยว่า แหล่งท่องเที่ยวประเภทธีมพาร์คแบรนด์ระดับโลกสามารถยกระดับการท่องเที่ยว ทั้งด้านการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและค่าใช้จ่ายต่อทริป ดังนั้นหากหน่วยงานภาครัฐของไทย เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทสไทย (ททท.) สามารถจับมือเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ระดับโลกเพื่อสร้างธีมพาร์คระดับโลกขึ้น จะช่วยเสริมศักยภาพของเมืองไทยได้เป็นอย่างมาก 

ทั้งนี้ บริษัทฯดำเนินการร่วมกับ ททท. อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอประสบการณ์และกิจกรรมท่องเที่ยวในเมืองไทยออกสู่สายตาของกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ เช่น สุขภาพและความงาม สปา เป็นต้น 

และในปี 2567 บริษัทฯ มีแผนการทำงานกับ ททท. แบบเจาะลึกมากยิ่งขึ้น โดยจะใช้จุดแข็งของบริษัทฯเพื่อสนับสนุนการขยายตลาดนักท่องเที่ยวตามเป้าหมายของ ททท. เช่น ตลาดจีน ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯเป็นพันธมิตรหลักอย่างเป็นทางการกับแอปพลิเคชัน Little Red Book โซเชียลแพลตฟอร์มชั้นนำของจีนที่มีฐานลูกค้ากว่า 300 ล้านคน  
 

อย่างไรก็ดี บริษัทฯมีการพัฒนาการให้บริการเพื่อตอบรับความต้องการของนักท่องเที่ยวในแต่ละกลุ่ม เช่น การเดินทางเชื่อมต่อจากสนามบิน ด่านแรกที่ทำให้ชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยรู้จักบริษัทฯ โดยจะให้ความสำคัญต่อการอำนวยความสะดวกต่อเดินทางได้อย่างราบรื่น มีการจัดทำข้อมูลผ่านช่องทางที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว อาทิ การใช้แอปพลิเคชัน KakaoTalk กับชาวเกาหลี การสื่อสารผ่าน Line กับคนไทย

Klook หนุน ททท. ผนึกแบรนด์ยักษ์สร้างแลนด์มาร์คใหม่ดูดนักท่องเที่ยว
    
“รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ จากสนามบินสุวรรณภูมิ ถือว่ามีคุณภาพ สะอาด และตรงเวลา แต่สาเหตุที่นักท่องเที่ยวยังเลือกใช้บริการไม่มากนัก เนื่องจากขาดความสะดวกในการเชื่อมต่อ เป็นอุปสรรคในการเดินทาง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระมาก ดังนั้นจึงมีแผนการเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าที่จองโรงแรมผ่าน Klook ด้วยบริการรถรับส่งถึงสถานี”

นายวิลเฟร็ด กล่าวอีกว่า บริษัทได้นำเสนอเทศกาลท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ นำเสนอดีลด้านการท่องเที่ยวจากทั่วโลกรวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท รวมทั้งปีนี้ได้ปรับโครงสร้างการใช้งบประมาณด้านการโฆษณาเกือบทั้งหมดไปสู่กลุ่มผู้สร้างเนื้อหารูปแบบดิจิทัล แทนช่องทางสื่อทั่วไป เน้นให้ผู้ใช้งานจริงเป็นผู้สร้างเนื้อหา และสร้างแบรนด์ผ่านแคมเปญด้านการขายออนไลน์ต่าง ๆ 

นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดตัว Klook Kreator ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของธุรกิจท่องเที่ยวที่พัฒนาระบบให้นักท่องเที่ยวและบล็อกเกอร์ได้ใช้โซเชียลมีเดียของตนในการสร้างรายได้จากโปรแกรม affiliate เมื่อทำคอนเทนต์ท่องเที่ยว โดยปัจจุบันมีจำนวนครีเอเตอร์ที่มีชื่อเสียงมากกว่า 1,000 คนทั่วเอเชีย

“บริษัทฯยังเริ่มต้นพัฒนาแผนงานเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยปัจจุบันมีทีมที่ดูแลด้าน Sustainability โดยเฉพาะ โดยมี 2 ส่วนหลักที่ได้ดำเนินงานแล้ว คือ การตรวจสอบกิจกรรมต่าง ๆ ที่ขายบน Klook ว่ามีความคล้องกับแนวทางการปฏิบัติงานของบริษัท เป็นกิจกรรมที่อยู่ภายใต้มาตรฐานสากลและไม่ผิดศีลธรรม โดยได้ทำการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้วทั้งหมดกว่า 500,000  กิจกรรมที่อยู่บน Klook อีกส่วนหนึ่งคือการให้ความสำคัญต่อหลักสวัสดิภาพของสัตว์ (Animal Welfare) ตามมาตรฐานสากล”  

Klook หนุน ททท. ผนึกแบรนด์ยักษ์สร้างแลนด์มาร์คใหม่ดูดนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม ปี 66 ถือเป็นปีที่ดีเนื่องจากภาพรวมการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีผลประกอบการเติบโตมากกว่า 3 เท่าตัวเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 คิดเป็นมูลค่า 3 พันล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ โดยการเติบโตดังกล่าวนี้มาจากการขยายบริการและกิจกรรมการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ตั้งแต่รถไฟ, รถเช่า, โรงแรมที่พัก และกิจกรรมพิเศษอื่น ๆ 

สำหรับประเทศไทย กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมทำหลังสถานการณ์โควิดผ่านไป คือ การกลับมาหาประสบการณ์ที่เคยประทับใจและขาดหายไปหลายปี เช่น การกินข้าวเหนียวมะม่วง ใช้บริการสปา ล่องเรือเจ้าพระยา เที่ยวตลาดน้ำ เป็นต้น