จากกรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องรัฐบาล เร่งแก้ปัญหา "ตั๋วเครื่องบินโลว์คอสต์"ไปจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันราคาแพง แม้ต่อมา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เรียกสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) มาหารือ แต่คำตอบที่ได้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะราคาตั๋วยังแพง เป็นอุปสรรคต่อการจูงใจนักท่องเที่ยว
สอดคล้องกับความเห็นของ นายสรรเพ็ชญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกระบี่ กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่าช่วงปลายปีที่ผ่านมาจนถึงต้นปีนี้ คือตั๋วเครื่องบินสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) ในประเทศมีราคาแพงมาก ทำให้นักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่นได้รับผลกระทบซึ่งสายการบินต้นทุนต่ำ ไม่ควรขึ้นราคาไปสูงถึง 6,000 - 7,000 บาท บางเที่ยวบินสูงถึง10,000 บาท หากใช้ชื่อว่าโลว์คอสต์แอร์ จะขายราคาสูงเหมือนกับสายการบินฟูลเซอร์วิส ที่ให้บริการแบบเต็มรูปแบบได้อย่างไร
นายสรรเพ็ชญ กล่าวว่า จากปัญหาราคา"ตั๋วโลว์คอสต์"แพงเกินจริง ขอให้รัฐบาลและกพท. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดราคาให้ชัดเจนไม่เอาเปรียบผู้บริโภคและจะต้องมีกฎหมายและบทลงโทษที่สูง เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบจากสายการบินที่มีต่อผู้โดยสาร สิ่งเหล่านี้จะทำให้นักท่องเที่ยวในประเทศ เลือกที่จะเดินทางไปเที่ยวยังประเทศเพื่อนบ้านเช่น ฮ่องกง เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย และจีน เพราะตั๋วเครื่องบินมีราคาถูกกว่า เดินทางมาเที่ยว กระบี่หรือภูเก็ต ดังนั้นอย่าให้เกิดปัญหาที่นักท่องเที่ยวในประเทศ เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ เพราะตั๋วเครื่องบินในประเทศราคาแพง รัฐควรจะให้ความเป็นธรรมกับผู้โดยสารในประเทศ เพราะนี้คือสายการบินต้นทุนต่ำหรือราคาตั๋วถูก แต่บางเที่ยวบินเฉียดหมื่นบาท
นายนัทที อดิสราลักษณ์ ประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากการศึกษาข้อมูลพบว่าตั๋วเครื่องบินโลว์คอสต์ เส้นกระบี่ ภูเก็ต ระดับราคา 6,000 - 7,000 บาท สาเหตุหลักน่าจะมาจาก 1.เครื่องบินไม่เพียงพอ 2. ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย มีปัญหาขาดแคลนนักบิน เมื่อกลับมาบินต้องเทรนนิ่งใหม่ และต้องมีไลเซนส์ของกัปตันที่ได้รับการอนุญาตให้ทำการบินได้
และ 3.มาจากขั้นตอน การตลาดที่มีนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก ทำให้สายการบินขึ้นราคาตั๋วเครื่องบินในแต่ละเที่ยวบิน ซึ่งเรื่องนี้ทางสายการบินและรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรพูดคุยกันเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
ส่วนผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวที่ซื้อตั๋วไว้ล่วงหน้าไม่น่าจะมีปัญหา แต่ผู้โดยสารที่เป็นคนท้องถิ่น หรือนักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยว กระบี่ ภูเก็ต มีเสียงบ่นออกมาเป็นระยะจริง ๆ จึงอยากให้รัฐบาลพูดุยกับทางสายการบินเพื่อแก้ปัญหาในเรื่องนี้
นางจงกลณี อุตสาหะ นายกสมาคมการท่องเที่ยวและโรงแรมจังหวัดตรัง กล่าวว่า ตั๋วเครื่องบินโลว์คอสต์ ราคาสูงมาก ขณะนี้พบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาภูเก็ต กระบี่ นั่งรถยนต์มาขึ้นเครื่องบินที่สนามบินตรังเพื่อ เข้าไปยังกรุงเทพจำนวนมาก โดยพบว่าตั๋วเครื่องบินในพื้นที่จังหวัดตรังโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3,500 - 4,000 บาท ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงมีนาคมนี้ แต่ละเที่ยวบินมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 60- 65% เริ่มทยอยเดินทางกลับประเทศ
ส่วนนักท่องเที่ยวในประเทศ จะเริ่มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดตรังตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม -พฤษภาคมของทุกปี หากราคาตั๋วเครื่องบินมีราคาสูง อาจจะหันไปท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีราคาตั๋วเครื่องบินที่ถูกกว่า
เรื่องนี้ผู้ประกอบการธุรกิจสายการบินต้องพิจารณาให้ราคาเหมาะสม ในส่วนของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดตรังยังมีการเคลื่อนไหวเรื่องของตัวเครื่องบินที่มีราคาสูงแต่เท่าที่ตนเองทราบนั้นที่จังหวัดภูเก็ต กระบี่ ก็มีการออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องของตั๋วเครื่องบินโลว์คอสที่มีราคาสูงระดับ 7,000 ถึง 9,000 บาท ที่ผ่านมาและในขณะนี้พบว่านักท่องเที่ยว ผู้โดยสารในประเทศ นั่งรถยนต์ หรือนั่งเรือ มาขึ้นเรื่องบินที่สนามบินตรังเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพ เพราะราคาตั๋วที่ตรังมีราคาที่ถูกกว่า ภูเก็ตและกระบี่
นายบุญชู ศัยศักดิ์พงษ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ กล่าวว่า ราคาตั๋วเครื่องบินโลว์คอสต์แพง เช่นนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางของผู้โดยสาร ซึ่งในช่วงหน้าร้อน นักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวทะเลภาคใต้และจังหวัดตรัง อาจเปลี่ยนใจ หันไปเที่ยวต่างประเทศแทน หรือหากจะมาเที่ยวทะเลจริงๆ ก็จะขับรถยนต์ส่วนตัวมาเที่ยวมากกว่านั่งเครื่องบิน ทำให้สายการบินก็เสียลูกค้าไป และส่งผลกระทบทุกกลุ่มที่โดยสารเครื่องบิน ทั้งนักท่องเที่ยว กลุ่มการค้า อุตสาหกรรมและอื่น ๆ