ลงนามแล้ว “วีซ่าฟรีไทย-คาซัคสถาน" ปลุกการค้า-ท่องเที่ยวเอเชียกลาง

23 เม.ย. 2567 | 06:24 น.

ข่าวดี “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” นำทีมกระทรวงการต่างประเทศ ลงนามยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา หรือ วีซ่าฟรีไทย-คาซัคสถาน ส่งเสริมการค้า-ท่องเที่ยวเอเชียกลาง

วันที่ 23 เม.ย. 67 นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายมูรัท นูร์ตลิว รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคาซัคสถาน ร่วมกันลงนามในความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา หรือ วีซ่าฟรี เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ตธรรมดาของทั้ง 2 ฝ่าย

ซึ่งผู้ที่ถือพาสปอร์ต ที่มีอายุการใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 6 เดือนนับจากวันที่เดินทางเข้าประเทศไทย และคาซัคสถาน จะได้รับการยกเว้นวีซ่า โดยสามารถพำนักอยู่ชั่วคราวในประเทศระหว่าง 2 ฝ่ายได้ไม่เกิน 30 วัน นับจากวันที่เดินทางเข้า

ลงนามแล้ว “วีซ่าฟรีไทย-คาซัคสถาน\" ปลุกการค้า-ท่องเที่ยวเอเชียกลาง

โดยระยะเวลาพำนักสะสมรวมกัน จะต้องไม่เกิน 90 วัน ภายในช่วงเวลา 180 วัน แต่หากมีความประสงค์จะพำนักเกินกว่า 30 วัน จะต้องได้รับการตรวจลงตราตามที่กำหนดไว้ตามกฎหมายของไทย และคาซัคสถาน 

ทั้งนี้ การจัดทำความตกลงฯ วีซ่าฟรีระหว่างไทย-คาซัคสถาน จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตของ ทั้ง 2 ฝ่าย ส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ในระดับประชาชน และเสริมสร้างศักยภาพและรายได้ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยในภาพรวม

รวมถึงเป็นการช่วยยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในด้านอื่น ๆ เช่น การเมือง เศรษฐกิจ วิชาการ วัฒนธรรมด้วย เป็นต้น

ลงนามแล้ว “วีซ่าฟรีไทย-คาซัคสถาน\" ปลุกการค้า-ท่องเที่ยวเอเชียกลาง  

สำหรับ คาซัคสถาน เป็นประเทศคู่ค้าที่มีศักยภาพมากที่สุดของไทยในภูมิภาคเอเชียกลาง เมื่อปี 2566 มีการค้าทวิภาคี มูลค่า 172 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6,300 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับปี 2565 โดยฝ่ายไทยส่งออก 76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,800 ล้านบาท และนำเข้า 96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,500 ล้านบาท โดยไทยขาดดุล 19.50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

ลงนามแล้ว “วีซ่าฟรีไทย-คาซัคสถาน\" ปลุกการค้า-ท่องเที่ยวเอเชียกลาง

ส่วนด้านการท่องเที่ยวนั้น ในปี 2566 ทั้งปีมีนักท่องเที่ยวจากคาซัคสถานกว่า 170,000 คน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า จากเดิมที่ปี 2565 มีอยู่ประมาณ 59,000 คน

 

ย้อนรอยที่มาวีซ่าไทย-คาซัคฯ

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของทั้งสองฝ่าย

สาระสำคัญของร่างความตกลงฯ ผู้ถือหนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 6 เดือนนับจากวันที่เดินทางเข้าของรัฐภาคี (ไทยและคาซัคสถาน) จะได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางเข้า เดินทางออกจากเดินทางผ่าน และพำนักอยู่ชั่วคราวในดินแดนของรัฐภาคีอีกฝ่ายหนึ่งเป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วันนับจากวันที่เดินทางเข้า

โดยระยะเวลาพำนักสะสมรวมกันจะต้องไม่เกิน 90 วันภายในแต่ละช่วงเวลา 180 วัน และในกรณีที่มีความประสงค์จะพำนักเกินกว่า 30 วัน จะต้องได้รับการตรวจลงตราตามที่กำหนดไว้ตามกฎหมายและข้อบังคับของรัฐภาคีนั้นๆ

ผลบังคับใช้ ความตกลงฉบับนี้มีผลบังคับใช้โดยไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด และจะมีผลบังคับใช้ใน 30 วันหลังจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งสุดท้าย ผ่านช่องทางการทูตว่าได้ดำเนินกระบวนการทางกฎหมายภายในที่จำเป็นต่อการบังคับความตกลงฉบับนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว 

การจัดทำความตกลงฯ จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของทั้งสองฝ่าย ส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ในระดับประชาชน และเสริมสร้างศักยภาพและรายได้ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยในภาพรวม รวมถึงเป็นการช่วยยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในด้านอื่นๆ เช่น การเมือง เศรษฐกิจ วิชาการ วัฒนธรรม