จากกรณีที่บริษัท FTI Touristik GmbH ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มบริษัท FTI GROUP ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว บริษัททัวร์ใหญ่อันดับ 3 ในยุโรป ของประเทศเยอรมนี ได้ยื่นล้มละลาย เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อโรงแรมในไทยอย่างหนัก รวมทั้งพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันของไทย อาทิ ภูเก็ต พังงา กระบี่ เนื่องจากไม่ได้รับการชำระเงินหลังจากที่ลูกค้าของเอเย่นต์เข้ามาใช้บริการ
นอกจากนี้คาดว่ามีบริษัทลูกอีกหลายบริษัทที่อาจจะล้มละลายตามไปด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบกับภาคการท่องเที่ยวของไทย เพราะยังมีภาระหนี้อีกจำนวนมากที่เอเยนต์และบริษัทลูก ยังไม่ชำระเงินค่าบริการให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวของไทยภาคใต้ไทยฝั่งทะเลอันดามัน เช่น ค่าใช้บริการ โรงแรม รถยนต์ เรือ เรือนำเที่ยว และบริการอื่น ๆ
นายเลิศศักดิ์ ปนกลิ่น นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวพังงา เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการนำเที่ยวในภาคใต้ ฝั่งตะวันตกหรือทะเลอันดามัน กังวลต่อกรณีบริษัท FTI Touristik และบริษัทลูกยื่นล้มละลาย โดยเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา Thomas Cook (โทมัส คุก) ยักษ์ใหญ่ในวงการท่องเที่ยวโลก ก็ล้มละลายไปแล้ว ซึ่งการยื่นล้มละลายเป็นสัญญาณเตือนให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทย ต้องคำนึงถึงความมั่นคงทางการเงินของบริษัทและต้องระมัดระวังคู่ค้าที่เข้ามาทำธุรกิจด้วย เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเข้า แต่เก็บเงินไม่ได้ก็จะได้รับผลกระทบทันที
ขณะนี้สมาคมโรงแรมไทยได้ประเมินในส่วนของโรงแรมอย่างเดียวมูลค่าที่คิดว่าความเสียหายที่ยังไม่ได้จ่ายเงินกว่า100 ล้านบาท ขณะนี้สมาคมโรงแรมไทยอยู่ระหว่างการสำรวจตัวเลขคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย
จากปัญหาดังกล่าวภาครัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การท่องเที่ยวประเทศไทย (ททท.) กระทรวงต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด ต้องเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการ เนื่องจากผู้ประกอบการไม่มีความพร้อมที่ไปฟ้องเรียกเงินกลับมาได้เลย กลายเป็นหนี้เสียแน่นอน จะส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวของไทย ผู้ประกอบการต้องการให้ รัฐบาลช่วยแก้ปัญหาระหว่างประเทศให้เพื่อติดตามทวงหนี้
หน่วยงานของรัฐบาลไทยในต่างประเทศ เช่นทูตพาณิชย์ สถานกงสุล ต้องส่งสัญญาณคอยเตือนผู้ประกอบการในประเทศไทย ถึงสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจประเทศนั้น ๆ บริษัทที่จะล้มละลายหรือสถานการณ์ไม่ดี ที่ผ่านมาผู้ประกอบการไทยจะรู้วันที่ยื่นล้มละลายแล้ว ทำให้ขณะนี้ผู้ประกอบการคนไทยไม่กล้ารับลูกค้าต่างชาติจากเยอรมนี แม้ผู้ประกอบการอยากได้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ แต่ยังความกังวลเพราะเอเย่นต์มีความเสี่ยง ขณะนี้ผู้ประกอบการในพื้นที่พังงา ไม่มีเจ้าภาพที่จะมาดูหรือรับร้องเรียนหรือรับไกล่เกลี่ยเลย
หากผู้ประกอบการตั้งทนายฟ้อง บริษัทในประเทศหรือบริษัทต่างประเทศที่เป็นหนี้ในตอนนี้ เรื่องก็จะยืดยาวออกไปอีก หากจะไม่ให้ลูกค้าจองผ่านเอเย่นต์ ก็ทำได้ให้ลูกค้าจองผ่าน เว็บไซต์ออนไลน์ เช่น Agoda , Booking.com ได้ในระดับหนึ่ง เอเย่นต์ส่วนมากจะมีลูกค้าอยู่ในมืออยู่แล้ว มีบริษัทลูกของ FTI พยายามเข้ามาพูดคุยว่าให้รอแต่ยังไม่มีความชัดเจน ทางสมาคมโรงแรมไทยก็ได้ทำแบบสำรวจแต่ไม่ใช่แค่โรงแรมอย่างเดียว มีทั้งบริษัทนำเที่ยว บริษัทรถยนต์รับส่งนักท่องเที่ยวอีกด้วย
นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการกังวลคือ บริษัทที่ล้มละลายไป กลับมาตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ หนี้ในบริษัทเก่าที่ยื่นล้มละลายก็ไม่จ่ายหนี้ หากเป็นเช่นนี้ ย่อมส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสมาคมฯต่าง ๆ ต้องผนึกกำลังที่จะวางมาตรการเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และจะต้องติดตามหนี้ในครั้งนี้มาให้ผู้ปริบการท่องเที่ยวด้วย
นางศรีสุนันท์ เลิศทรรศิน ผู้บริหารเขาหลักทริปเปิ้ล ประกอบการนำเที่ยวและรถยนต์รับส่งนักท่องเที่ยว เปิดเผย ว่า บริษัทของตนเองได้ทำสัญญาไว้กับบริษัทลูกของ FTI Touristik จากเยอรมนีที่ประกาศยื่นล้มละลาย บริษัทลูกดังกล่าวก็ประสบปัญหาด้านการเงิน ไม่ชำระเงินให้ตนตามสัญญา มีการเลื่อนนัดชำระเงินมา 3 ครั้งแล้ว ขณะนี้ก็ยังไม่มีคำตอบจากบริษัทจะชำระเงิน 3ล้านกว่าบาทแต่อย่างใด
นายชัยภัทร วสุนธรา นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสมาคมฯ อยู่ในระหว่างการสำรวจความเสียหายดังกล่าวเช่นกัน เอเย่นต์ที่มีปัญหายังไม่พบว่าเข้ามาทำธุรกิจกับผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวในพื้นที่กระบี่หรือไม่ เท่าที่ทราบเอเย่นต์รายนี้และกลุ่มนี้น่าจะส่งลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่พังงา ภูเก็ตมาก หากพบว่ามีความเสียหายก็จะแจ้งให้ทราบและเรียมแผนแก้ปัญหากันต่อไป