เอกชนท่องเที่ยวใต้สะเทือน หลังบริษัททัวร์เยอรมนีล้ม โรงแรมกระทบ 500 ล้าน

17 ก.ค. 2567 | 06:11 น.
อัพเดตล่าสุด :17 ก.ค. 2567 | 06:29 น.

หลังยักษ์ใหญ่ท่องเที่ยวเยอรมนียื่นล้มละลาย กระทบบริษัทลูก-ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคใต้ฝั่งอันดามันไทยหวั่นถูกเบี้ยว โรงแรมในพังงากระทบกว่า 100 ล้านบาท ขณะสมาคมโรงแรมไทยเสียหายไม่ต่ำกว่า 500 ล้าน ร้องรัฐเร่งแก้ปัญหา

จากกรณีที่บริษัท FTI Touristik GmbH ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มบริษัท FTI GROUP ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว บริษัททัวร์ใหญ่อันดับ 3 ในยุโรป ของประเทศเยอรมนี ได้ยื่นล้มละลาย เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อโรงแรมในไทยอย่างหนัก รวมทั้งพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันของไทย อาทิ ภูเก็ต พังงา กระบี่  เนื่องจากไม่ได้รับการชำระเงินหลังจากที่ลูกค้าของเอเย่นต์เข้ามาใช้บริการ 

นอกจากนี้คาดว่ามีบริษัทลูกอีกหลายบริษัทที่อาจจะล้มละลายตามไปด้วย  ซึ่งจะส่งผลกระทบกับภาคการท่องเที่ยวของไทย เพราะยังมีภาระหนี้อีกจำนวนมากที่เอเยนต์และบริษัทลูก  ยังไม่ชำระเงินค่าบริการให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวของไทยภาคใต้ไทยฝั่งทะเลอันดามัน  เช่น ค่าใช้บริการ โรงแรม รถยนต์ เรือ เรือนำเที่ยว และบริการอื่น ๆ 

 

นายเลิศศักดิ์  ปนกลิ่น นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวพังงา  เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการนำเที่ยวในภาคใต้ ฝั่งตะวันตกหรือทะเลอันดามัน กังวลต่อกรณีบริษัท FTI  Touristik และบริษัทลูกยื่นล้มละลาย โดยเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา  Thomas Cook (โทมัส คุก) ยักษ์ใหญ่ในวงการท่องเที่ยวโลก ก็ล้มละลายไปแล้ว  ซึ่งการยื่นล้มละลายเป็นสัญญาณเตือนให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทย ต้องคำนึงถึงความมั่นคงทางการเงินของบริษัทและต้องระมัดระวังคู่ค้าที่เข้ามาทำธุรกิจด้วย เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเข้า แต่เก็บเงินไม่ได้ก็จะได้รับผลกระทบทันที 

เอกชนท่องเที่ยวใต้สะเทือน หลังบริษัททัวร์เยอรมนีล้ม โรงแรมกระทบ 500 ล้าน

ขณะนี้สมาคมโรงแรมไทยได้ประเมินในส่วนของโรงแรมอย่างเดียวมูลค่าที่คิดว่าความเสียหายที่ยังไม่ได้จ่ายเงินกว่า100 ล้านบาท ขณะนี้สมาคมโรงแรมไทยอยู่ระหว่างการสำรวจตัวเลขคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย
 

จากปัญหาดังกล่าวภาครัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การท่องเที่ยวประเทศไทย (ททท.) กระทรวงต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด ต้องเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการ  เนื่องจากผู้ประกอบการไม่มีความพร้อมที่ไปฟ้องเรียกเงินกลับมาได้เลย กลายเป็นหนี้เสียแน่นอน จะส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวของไทย ผู้ประกอบการต้องการให้ รัฐบาลช่วยแก้ปัญหาระหว่างประเทศให้เพื่อติดตามทวงหนี้

หน่วยงานของรัฐบาลไทยในต่างประเทศ เช่นทูตพาณิชย์ สถานกงสุล ต้องส่งสัญญาณคอยเตือนผู้ประกอบการในประเทศไทย ถึงสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจประเทศนั้น ๆ  บริษัทที่จะล้มละลายหรือสถานการณ์ไม่ดี ที่ผ่านมาผู้ประกอบการไทยจะรู้วันที่ยื่นล้มละลายแล้ว  ทำให้ขณะนี้ผู้ประกอบการคนไทยไม่กล้ารับลูกค้าต่างชาติจากเยอรมนี  แม้ผู้ประกอบการอยากได้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ แต่ยังความกังวลเพราะเอเย่นต์มีความเสี่ยง  ขณะนี้ผู้ประกอบการในพื้นที่พังงา ไม่มีเจ้าภาพที่จะมาดูหรือรับร้องเรียนหรือรับไกล่เกลี่ยเลย

นายเลิศศักดิ์  ปนกลิ่น นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวพังงา

หากผู้ประกอบการตั้งทนายฟ้อง บริษัทในประเทศหรือบริษัทต่างประเทศที่เป็นหนี้ในตอนนี้ เรื่องก็จะยืดยาวออกไปอีก หากจะไม่ให้ลูกค้าจองผ่านเอเย่นต์ ก็ทำได้ให้ลูกค้าจองผ่าน เว็บไซต์ออนไลน์  เช่น Agoda , Booking.com ได้ในระดับหนึ่ง เอเย่นต์ส่วนมากจะมีลูกค้าอยู่ในมืออยู่แล้ว  มีบริษัทลูกของ FTI พยายามเข้ามาพูดคุยว่าให้รอแต่ยังไม่มีความชัดเจน ทางสมาคมโรงแรมไทยก็ได้ทำแบบสำรวจแต่ไม่ใช่แค่โรงแรมอย่างเดียว   มีทั้งบริษัทนำเที่ยว   บริษัทรถยนต์รับส่งนักท่องเที่ยวอีกด้วย 

นายเลิศศักดิ์  กล่าวว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการกังวลคือ บริษัทที่ล้มละลายไป กลับมาตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ หนี้ในบริษัทเก่าที่ยื่นล้มละลายก็ไม่จ่ายหนี้ หากเป็นเช่นนี้ ย่อมส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสมาคมฯต่าง ๆ ต้องผนึกกำลังที่จะวางมาตรการเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และจะต้องติดตามหนี้ในครั้งนี้มาให้ผู้ปริบการท่องเที่ยวด้วย 

นางศรีสุนันท์  เลิศทรรศิน  ผู้บริหารเขาหลักทริปเปิ้ล ประกอบการนำเที่ยวและรถยนต์รับส่งนักท่องเที่ยว เปิดเผย ว่า บริษัทของตนเองได้ทำสัญญาไว้กับบริษัทลูกของ FTI Touristik จากเยอรมนีที่ประกาศยื่นล้มละลาย  บริษัทลูกดังกล่าวก็ประสบปัญหาด้านการเงิน  ไม่ชำระเงินให้ตนตามสัญญา มีการเลื่อนนัดชำระเงินมา 3 ครั้งแล้ว  ขณะนี้ก็ยังไม่มีคำตอบจากบริษัทจะชำระเงิน 3ล้านกว่าบาทแต่อย่างใด

นายชัยภัทร วสุนธรา นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่

นายชัยภัทร วสุนธรา นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสมาคมฯ อยู่ในระหว่างการสำรวจความเสียหายดังกล่าวเช่นกัน เอเย่นต์ที่มีปัญหายังไม่พบว่าเข้ามาทำธุรกิจกับผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวในพื้นที่กระบี่หรือไม่ เท่าที่ทราบเอเย่นต์รายนี้และกลุ่มนี้น่าจะส่งลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่พังงา ภูเก็ตมาก  หากพบว่ามีความเสียหายก็จะแจ้งให้ทราบและเรียมแผนแก้ปัญหากันต่อไป