สมาคมโรงแรมชี้ฆาตกรรม 6 รายโรงแรมหรู กระทบท่องเที่ยวไม่มาก

17 ก.ค. 2567 | 10:07 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.ค. 2567 | 01:25 น.

สมาคมโรงแรมไทย เผยฆาตกรรม 6 รายในโรงแรมหรู กระทบท่องเที่ยวภาพรวมไม่มาก เนื่องจากเป็นการกระทำส่วนบุคคล ไม่ได้เกิดจากการปฏิบัติการผิดพลาดของโรงแรม หรือพนักงาน จี้รัฐเร่งดึงโรงแรมเข้าระบบ หวั่นหากเกิดเหตุซ้ำในโรงแรมเถื่อนเจ้าหน้าที่จะแก้ไขปัญหาได้ช้า

นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า จากกรณีพบผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติ 6 ราย ในโรงแรมย่านราชประสงค์ โดยสันนิษฐานเบื้องต้นเกิดจากการถูกวางยาเพื่อให้เสียชีวิตนั้น เบื้องต้นประเมินผลกระทบในภาพรวมการท่องเที่ยวไทยน่าจะไม่สูงมาก

เทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์

เนื่องจากเป็นการก่อเหตุอาชญากรรมที่เกิดจากการกระทำส่วนบุคคล ไม่ได้เกิดจากการปฏิบัติการผิดพลาดของโรงแรม หรือพนักงาน แต่เป็นเรื่องของบุคคลภายนอกที่ลักลอบเข้ามาก่อเหตุ ทำให้ในภาพรวมนักท่องเที่ยวน่าจะเข้าใจได้ แต่จะมีผลกระทบต่อโรงแรมที่เกิดเหตุการณ์นี้ เพราะอาจส่งผลต่อความรู้สึกของลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการต่อจากนี้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นโรงแรมที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย มีมาตรฐานในระดับดาว 5 ดาวขึ้นไป จึงมีระบบการจัดเก็บข้อมูลชัดเจน อาทิ การเดินทางเข้าออก ข้อมูลการเช็กอิน ประตูห้องพักมีการบันทึกข้อมูลการเข้าออกของลูกค้าตามเวลาจริงผ่านระบบอิเลกทรอนิกส์อย่างครบถ้วนแล้ว 

แต่ต้องยอมรับว่าหากผู้ก่อเหตุต้องการจะกระทำความผิดจริงก็จะแอบหาช่องทางทำให้เกิดขึ้นอยู่ดี ซึ่งส่วนนี้เรากังวลการเกิดกรณีลักษณะเดียวกันในโรงแรมที่พักที่ไม่ได้มีมาตรฐานแบบนี้มากกว่า ว่าจะมีข้อมูลหลักฐานไม่ครบถ้วน ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานไม่ง่ายเหมือนกรณีนี้ 

โดยสิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือ รีบดำเนินการสรุปสำนวนคดี เปิดเผยความกระจ่างต่อสาธารณะชนให้เร็วที่สุด ว่าแรงจูงใจคืออะไร เพราะเป็นการวางยาพิษ ไม่ได้มาจากการปนเปื้อนขณะพนักงานโรงแรมปฏิบัติงาน เพราะกรณีแบบนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นยากทั้งในตอนนี้และในอนาคตด้วย

นายเทียนประสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อโรงแรมมีระบบติดตามและบันทึกข้อมูลที่ดี อาทิ การเข้ามาพักในโรงแรมที่ถูกกฎหมาย มีในอนุญาต จะเก็บข้อมูลได้ชัดเจน ทำให้เมื่อเกิดเหตุอะไรขึ้น จะมีข้อมูลให้ใช้ได้

อย่างกรณีครึ่งปีแรกมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา สะสมจำนวน 17.5 ล้านคน มีผู้ประกอบการส่งรายชื่อว่านักท่องเที่ยวเดินทางไปพักที่ใดบ้างคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นของทั้งหมด เพราะมีบางส่วนที่ไม่ได้อยู่ในระบบที่ไม่ทำอยู่แล้ว แต่โรงแรมในระบบต้องทำทุกวัน ไม่งั้นถือว่าผิดกฎหมาย จึงอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการนำโรงแรมเข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น 

ขณะนี้โรงแรมที่มีใบอนุญาต มีประมาณ 16,000 แห่งทั่วประเทศ จากภาพรวมที่ขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ (โอทีเอ) อยู่ประมาณ 40,000 แห่ง ซึ่งที่ผ่านมาต้องบอกว่ารัฐบาลออกระเบียบผ่อนผันให้ผู้ประกอบการนำอาคารเก่ามาจดทะเบียน เป็นการเอื้อความสะดวกให้มากแล้ว ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการที่จะเข้ามาหรือไม่เข้ามามากกว่า

โรงแรมที่ไม่ได้เข้ามาอยู่ในระบบ อยากจะพัฒนาคุณภาพก็ไม่ได้ เพราะต้นทุนสูงขึ้น แข่งขันไม่ได้ เพราะโรงแรมนอกระบบมีต้นทุนน้อยกว่า ทำให้ความปลอดภัยต่างๆ ก็ไม่ได้มาตรฐาน จึงอยากให้ภาครัฐบังคับใช้กฎหมายด้วยเรื่องการดึงโรงแรมเข้าระบบ จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย

เพราะต่างประเทศไม่มีโรงแรมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายเหมือนประเทศไทย ซึ่งโรงแรมที่ไม่ได้เข้าระบบ มีหลายสถานที่ที่ไม่สามารถจดทะเบียนได้ เพราะอาคารเก่ามีการดัดแปลงแบบผิดกฎหมาย ทำให้ยื่นขอใบอนุญาตไม่ได้ ซึ่งส่วนนี้เป็นเรื่องของความปลอดภัยที่ต้องทำให้ได้ตามมาตรฐาน