นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังลงพื้นที่ติดตามการให้บริการและแผนพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติสมุย รองรับการให้บริการผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวโดยกล่าวว่า เกาะสมุย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติทั่วโลกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการเดินทางทางอากาศผ่านสนามบินสมุย
เนื่องจากมีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย จากข้อมูลสถิติการเดินทางเข้า - ออกท่าอากาศยานนานาชาติสมุยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 มีจำนวนผู้โดยสารสูงถึง 1,406,226 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 คิดเป็น 22% โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19
สำหรับท่าอากาศยานนานาชาติสมุย ดำเนินการโดยบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดวันละประมาณ 16,000 คน/วัน หรือ 6,000,000 คน/ปี
ปัจจุบันให้บริการรองรับ 11 เส้นทางบิน ทั้งภายในและระหว่างประเทศโดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส สายการบิน SCOOT สายการบิน TIBET AIRLANES สายการบิน WEST AIR และสายการบิน CHENGDU AIRLANE
ท่าอากาศยานนานาชาติสมุยมีแผนพัฒนาท่าอากาศยานเพื่อเพิ่มศักยภาพรองรับนักท่องเที่ยว ได้แก่ แผนเพิ่มเที่ยวบินเข้า - ออกท่าอากาศยาน จาก 50 เที่ยวบินต่อวัน เป็น 73 เที่ยวบินต่อวัน ขณะนี้ผ่านการเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
ทั้งมีแผนการปรับปรุงในส่วนพื้นที่อาคารและสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ เพิ่มจำนวน Boarding Gate เพิ่มจำนวนสายพานรับสัมภาระเป็น 4 สายพาน เพิ่มพื้นที่เชิงพาณิชย์เป็น 4,000 ตารางเมตร เพิ่มจำนวนเคาน์เตอร์เช็กอินอีก 10 เคาน์เตอร์
พร้อมติดตั้งระบบการให้บริการด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service: CUSS) ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารและการให้บริการ ระยะเวลา 1 - 3 ปี
"การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานนานาชาติสมุยในครั้งนี้ เนื่องจาก รัฐบาลมีนโยบายผลักดันเรื่องการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพรองรับการให้บริการผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว เชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชน ซึ่งมีการหารือและจะเริ่มดำเนินการต่อไป" นายสุริยะ กล่าว