วันนี้ (วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567) แหล่งข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า สหภาพแรงงานการบินไทย ได้แจ้งสมาชิกและพนักงานการบินไทย นัดรวมพลคนรักการบินไทย ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ หน้าอาคาร 1 สำนักงานใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เวลา 8.00 น.เพื่อแสดงจุดยืนปกป้องการบินไทยจากภัยการเมือง
จากกรณีที่กระทรวงการคลังในฐานะเจ้าหนี้ และในฐานะที่ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทได้มีหนังสือมายังบริษัทการบินไทย เพื่อเสนอให้เพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟู จำนวน 2 ราย จากกระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอต่อที่ประชุมเจ้าหนี้ 8 พ.ย. 67 เพื่อพิจารณาข้อเสนอ โดยกระทรวงการคลังขอเพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ 2 ราย ได้แก่
ต่อเรื่องที่เกิดขึ้นทางสหภาพแรงงานการบินไทย มองว่าตอนการบินไทยล้ม บาทเดียวก็ไม่ช่วย ไม่จ่าย พอมีกำไร จะมาเพิ่มทุน หากสมาชิกสหภาพการบินไทยและพนักงานยังนิ่งดูดายการเมืองก็จะเข้ามาแทรกแซงและต่อมาก็คงจะเข้ามาเป็นกรรมการของบริษัทต่อไป สหภาพแรงงานการบินไทย จึงเรียกร้องให้คนที่รักและหวงแหนการบินไทย สละเวลาและพร้อมใจกันมาร่วมกันรวมพลังในครั้งนี้
อีกทั้งก่อนหน้านี้สหภาพแรงงานการบินไทย ได้แจ้งแก่สมาชิกและพนักงาน ที่เป็นเจ้าหนี้รายย่อยการบินไทย ให้เข้าร่วมประชุมประชุมเจ้าหนี้ ออนไลน์ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ให้พร้อมเพรียง โดยระบุว่า ถ้าไม่อยากได้ผู้บริหารแผนตัวแทนรัฐเพิ่มอีก 2 โหวต No เท่านั้น เพื่อคัดค้านเพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟู 2 คน จากกระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม
ขณะที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรณีกระทรวงการคลัง ได้เสนอตัวแทนจากกระทรวงคมนาคมคือ นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบาย และแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เตรียมเข้าไปนั่งเป็นผู้บริหารแผนการบินไทย ไม่ได้เป็นการแทรกแซงทางการเมือง เพียงแต่ต้องการให้อุตสาหกรรมการบินทำงานอย่างเป็นระบบ
เนื่องจากสายการบินไทยเป็นสายการบินแห่งชาติ กระทรวงคมนาคม ก็ต้องการทำให้การทำงานด้านการบินมีประสิทธิภาพ ดูครอบคลุมทั้งระบบอุตสาหกรรม ซึ่งตอนแรกจะส่งปลัดกระทรวงคมนาคมเข้าไปทำหน้าที่นี้ แต่เนื่องจากปลัดฯ ปัจจุบันเป็นบอร์ดสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จึงเกรงว่าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of Interest) หรือจะมอบหมายให้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เข้าไปดำเนินการก็อาจมีข้อกังขาเรื่อง Conflict of Interest
อย่างไรก็ตามต้องรอให้มีการลงคะแนนโหวตจากที่ประชุมเจ้าหนี้ ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 8 พ.ย.67 นี้ แต่กระทรวงคมนาคม ยืนยันว่า ผอ.สนข.มีความเหมาะสมในการทำงานนี้ เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่วางแผนคมนาคมทั้งระบบ
สำหรับการเพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟูดังกล่าวกระทรวงการคลังได้ชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นโดยสรุปว่า เนื่องจากในช่วงเวลาการดำเนินการตามแผนที่เหลืออยู่ บริษัทจะต้องตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญและมีผลผูกพันถึงการดำเนินงานต่าง ๆ ในอนาคต โดยการตัดสินใจที่สำคัญดังกล่าว บริษัทจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถเชื่อมโยงกับผู้ถือหุ้นของบริษัทภายหลังการออกจากการฟื้นฟูกิจการมาร่วมตัดสินใจและสามารถสนับสนุนการฟื้นฟูกิจการ ตลอดจนประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งผู้ถือหุ้นของบริษัท เพื่อให้การบริหารแผนฟื้นฟูกิจการและการออกจากการฟื้นฟูกิจการของบริษัทเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด ซึ่งผู้บริหารแผนพิจารณาแล้วเห็นว่าควรนำข้อเสนอของกระทรวงการคลังเสนอต่อที่ประชุมเจ้าหนี้ เพื่อพิจารณาลงมติตามความเห็นของเจ้าหนี้ต่อไป