"การบินไทย"เปิดให้เจ้าหนี้แสดงเจตนาใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุน 19-21 พ.ย.นี้

14 พ.ย. 2567 | 12:00 น.
อัปเดตล่าสุด :14 พ.ย. 2567 | 23:21 น.

"การบินไทย"เปิดให้เจ้าหนี้แสดงเจตนาในการใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนเพิ่มเติม วันที่ 19-21 พฤศจิกายนนี้ โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน รองรับการใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุน ก่อนเปิดขายให้ผู้ถือหุ้นและพนักงาน ภายในเดือนธันวาคมนี้

วันนี้ (วันที่ 14 พฤศจิกายน 2567) นายชาย เอี่ยมศิริ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่  บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า การบินไทยเตรียมจะเปิดให้เจ้าหนี้สามารถแสดงเจตนาการใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนเพิ่มเติม โดยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อปรับโครงสร้างทุน ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงหนี้เงินต้นเดิมเป็นทุนเพิ่มเติม (Voluntary  Conversion) และดอกเบี้ยตั้งพักเป็นทุน

โดยเจ้าหนี้สามารถแสดงเจตนาใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุน ในราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น ได้ตั้งแต่วันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2567 นี้ ผ่านช่องทางของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร  จำกัด (มหาชน)

ชาย เอี่ยมศิริ

การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อปรับโครงสร้างทุน ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงหนี้เงินต้นเดิมเป็นทุนเพิ่มเติม (Voluntary  Conversion) และดอกเบี้ยตั้งพักเป็นทุน มีเป้าหมายให้ส่วนของผู้ถือหุ้นกลายเป็นบวก ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญในการออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ นายชาย กล่าวทิ้งท้าย

 

การปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ ประกอบไปด้วย

1. การแปลงหนี้เดิมของเจ้าหนี้แบบภาคบังคับเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Mandatory Conversion) จำนวนไม่เกิน 14,862,369,633 หุ้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 37,828 ล้านบาท

2. การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 4,911,236,813 หุ้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 12,500 ล้านบาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงหนี้เดิมเป็นทุนเพิ่มเติมโดยความสมัครใจ (Voluntary Conversion)

3. การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,903,608,176 หุ้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 4,845 ล้านบาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักเป็นทุนโดยความสมัครใจที่ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น

ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการแปลงหนี้เป็นทุนแล้ว บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 9,822,473,626 หุ้น (รวมทั้งหุ้นที่เหลือจาก Voluntary Conversion (หากมี) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (ก่อนการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟู) พนักงานของบริษัทฯ และบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) คาดว่าจะเสนอขายให้เสร็จภายในเดือน ธันวาคม 2567

ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอยกเลิกการฟื้นฟูกิจการได้ภายในไตรมาส 2 ปี 2568 

การบินไทย

การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงหนี้เดิมเป็นทุนเพิ่มเติม โดยความสมัครใจ 

เจ้าหนี้ที่มีสิทธิแปลงหนี้เป็นทุน จะประกอบไปด้วย 4 กลุ่ม ได้แก่

  •  เจ้าหนี้กลุ่มที่ 4 คือ  กระทรวงการคลัง
  • เจ้าหนี้กลุ่มที่ 5 คือ เจ้าหนี้สถาบันการเงินที่มีสิทธิตามสัญญาโอนสิทธิในการได้รับเงินจากการขายเครื่องบิน
  •  เจ้าหนี้กลุ่มที่ 6 คือ เจ้าหนี้สถาบันการเงินไม่มีประกัน และ
  • เจ้าหนี้กลุ่มที่ 18 – 31 คือ เจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้

บริษัทฯ จะอ้างอิงรายชื่อเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่บริษัทฯ กำหนดให้เป็นวันรวบรวมรายชื่อเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการที่มีสิทธิแปลงหนี้เป็นทุน

เงื่อนไขการใช้สิทธิ

  • การใช้สิทธิแปลงหนี้เงินต้นเงินต้นเดิมเป็นทุนเพิ่มเติม (Voluntary Conversion)

เจ้าหนี้กลุ่มที่ 5 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 6 และเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้สามารถแสดงเจตนาการใช้สิทธิแปลงหนี้เดิมตามแผนฟื้นฟูกิจการ เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนในจำนวนไม่เกินกว่าจำนวนเงินที่เจ้าหนี้แต่ละรายมีสิทธิได้รับชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ

  • การใช้สิทธิแปลงดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักเป็นทุน

ในการใช้สิทธิแปลงดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ เจ้าหนี้กลุ่มที่ 4 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 5 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 6 และเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้นั้น จะต้องเป็นการใช้สิทธิแปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักทั้งจำนวน

การบินไทยปรับโครงสร้างทุน ตามแผนฟื้นฟูกิจการ

วิธีการจัดสรร

ทั้งนี้ ในกรณีที่มีผู้ใช้สิทธิแปลงหนี้เดิมของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนมากกว่าจำนวนหุ้นที่สามารถจัดสรรได้ ให้จัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่เจ้าหนี้ตามสัดส่วนภาระหนี้เงินต้นของเจ้าหนี้แต่ละรายตามแผนฟื้นฟูกิจการ (pro rata basis)

ทั้งนี้ห้ามเจ้าหนี้ทุกรายที่ได้รับจัดสรรหุ้นจากการแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการที่ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น ขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ตนได้มาจากการแปลงหนี้เป็นทุนในช่วงเวลาที่กำหนด 

โดยหุ้นจำนวน 25 % ของหุ้นที่ถูกห้ามขายจะสามารถขายได้เมื่อครบกำหนด 6 เดือนนับแต่วันที่หุ้นของบริษัทฯ กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ
และหุ้นที่ถูกห้ามขายส่วนที่เหลืออีก 75 % จะสามารถขายได้เมื่อครบกำหนด 1 ปีนับแต่วันที่หุ้นของบริษัทฯ กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะหุ้นของบริษัทฯ จะกลับเข้าสู่การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในไตรมาส 2 ของปี 2568 ภายหลังออกจากการฟื้นฟูกิจการ