วันนี้ (27 พฤศจิกายน 2567) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้เรียกประชุมสมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย และ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมกันจัดทำ "มาตรการแก้ไขปัญหาตั๋วเครื่องบินแพง" ในช่วงเทศกาล โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ 2568 ที่จะถึงนี้
เนื่องจากมีความต้องการให้ราคาตั๋วเครื่องบินมีราคาที่ถูกลง และเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ในการ "คมนาคมขนส่งอากาศ" ให้กับประชาชนได้เดินทางโดยมีต้นทุนการเดินทางที่ลดลงรวมถึงสะดวก ปลอดภัย ตลอดการเดินทาง
การประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วย 6 สายการบิน ได้แก่ บางกอกแอร์เวย์ส ,ไทยแอร์เอเชีย ,นกแอร์ ,ไทยไลอ้อนแอร์ ,ไทยเวียตเจ็ท และ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ข้อสรุปว่า เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน
โดยกระทรวงคมนาคมพร้อมด้วยทุกสายการบินได้บินได้ร่วมมือกันจัดทำมาตรการตั๋วเครื่องบินในราคาพิเศษ โดยมีที่นั่งรวมทั้งสิ้นประมาณ 50,000 ที่นั่ง ในเส้นทางไป-กลับ ได้แก่
ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการเดินทางในช่วงเศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2567 - 5 มกราคม 2568 โดยมีส่วนลด 30% จากราคาค่าโดยสารสูงสุดในช่วงเวลาดังกล่าว แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องทำการสำรองที่นั่งโดยตรงกับสายการบินและผ่านช่องทางที่กำหนด ในช่วงระหว่างวันที่ 5-7 ธันวาคม 2567 เท่านั้น
"กระทรวงคมนาคม และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและ เอกชน มีความเชื่อมั่นว่า จะสามารถอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชนชน สามารถซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินในราคาที่เหมาะสม และเดินทางกลับภูมิลำเนา พร้อมกับท่องเที่ยว อย่างสะดวก ปลอดภัย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 นี้" นายสุริยะ กล่าว
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้ กรมท่าอากาศยาน (ทย.) , บริษัท ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) และ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) จัดการด้าน การรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยสั่งการให้ ทย. และ ทอท. เตรียมพร้อมการบริการภาคพื้นและสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้โดยสาร รวมถึงสัมภาระ
พร้อมทั้งยืดหยุ่นเวลาปิดท่าอากาศ 8 แห่ง ประกอบด้วย ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี , ท่าอากาศยานขอนแก่น , ท่าอากาศยานอู่ตะเภา , ท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช , ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย , ท่าอากาศยานหาดใหญ่
ขณะที่บวท. ได้เตรียมความพร้อมปฏิบัติการด้านการบินและสิ่งอำนวยความสะดวกทุกด้าน ส่วน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ให้ติดตามสถานการณ์ค่าโดยสารอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำและราคาต้องเป็นธรรมกับผู้โดยสาร