เที่ยวไทยสะพัด 6.2 หมื่นล้าน ลิซ่า-แบมแบม แรงหนุนเคาท์ดาวน์ 2025

22 ธ.ค. 2567 | 11:05 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ธ.ค. 2567 | 11:05 น.

ท่องเที่ยวไทยปีใหม่ 2568 คึกคัก สายการบินสยายปีกเข้าไทย 1.8 หมื่นเที่ยวบิน ททท.คาดเงินสะพัด 6.2 หมื่นล้านบาท ต่างชาติเที่ยวไทย 1.56 ล้านคน ลุยจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ทั่วไทย ไฮไลต์ ‘ลิซ่า-แบมแบม’ แรงหนุนเคาท์ดาวน์ โรงแรมเฮบุ๊คกิ้งพุ่ง ภูเก็ตต่างชาติเพียบ

การเดินทางท่องเที่ยวช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ 2568 นี้เป็นไปอย่างคึกคัก ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ตีปีกบุ๊กกิ้ง พุ่ง 80-95 % จากต่างชาติเที่ยวไทย และไทยเที่ยวไทย เช่นเดียวกับการเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศของคนไทยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วงปีใหม่นี้คาดว่าจะอยู่ที่ราว 2 แสนคน 

การท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ 2568

ขณะที่ในช่วงวันที่ 27 ธันวาคม 2567 - 2 มกราคม 2568 รวม 7 วัน บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) คาดว่าจะมีเที่ยวบินเข้า-ออกสนามบินของไทยรวมกว่า 18,280 เที่ยวบิน เฉลี่ย 2,611 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสนามบินสุวรรณภูมิจะมีเที่ยวบินสูงสุดอยู่ที่ 7,500 เที่ยวบิน ตามมาด้วยสนามบินดอนเมือง 4,920 เที่ยวบิน สนามบินภูเก็ต 2,580 เที่ยวบิน เชียงใหม่ 1,410 เที่ยวบิน

ปีใหม่ 2568 ท่องเที่ยวไทยเงินสะพัด 6.2 หมื่นล้าน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าวรวมกว่า 62,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 23 % โดยประเมินว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 1.56 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16% สร้างรายได้ 45,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% 

ส่วนตลาดในประเทศ หรือไทยเที่ยวไทย คาดว่าจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 4.41 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 29% สร้างรายได้ท่องเที่ยว 17,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30%

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าจากข้อมูลการจองบัตรโดยสารเครื่องบินล่วงหน้ามายังประเทศไทย ระบบ Forwardkeys ในเดือนธันวาคม ที่เริ่มเข้าสู่ “เทศกาลปีใหม่ 2568” ชี้ให้เห็นว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติมีการจองเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงคริสต์มาสต่อเนื่องปีใหม่ 

โดยนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกล มีวันพักเฉลี่ยต่อทริปในไทยราว 14 วันขึ้นไป/ทริป โดยเฉพาะตลาดภูมิภาคอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา นักท่องเที่ยวตลาดระยะกลาง-ระยะใกล้ - มีวันพักเฉลี่ยต่อทริปในไทยประมาณ 6-10 วัน/ทริป ซึ่งในช่วงปีใหม่นี้ พบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่มีแนวโน้มจองการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ เกาะสมุยและกระบี่

นักท่องเที่ยวจาก 3 ภูมิภาคที่เดินทางเที่ยวไทยสูงสุดจะมาจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ อาเซียน และยุโรป สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 อาทิ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน อินเดีย มาเลเซีย รัสเซีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกาและเยอรมนี

เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนอย่างมาตรการ Ease of Traveling ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยได้สะดวกและคล่องตัวขึ้น (การยกเว้นการตรวจลงตรา 93 ประเทศ การยกเว้นยื่นใบ ตม. 6 ด่านทางบก-ทางน้ำ รวม 16 ด่าน)

การเปิดเที่ยวบินใหม่อย่างน้อย 30 เที่ยวบิน เพื่อรองรับความต้องการเดินทางจากตลาดจีน เกาหลีใต้ อินเดีย สแกนดิเนเวีย (สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์) เบลเยียมซาอุดีอาระเบีย ออสเตรเลีย เข้าสู่เมืองท่องเที่ยวกรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และกระบี่ 

เที่ยวไทยสะพัด 6.2 หมื่นล้าน ลิซ่า-แบมแบม แรงหนุนเคาท์ดาวน์ 2025

การจัดกิจกรรมระดับ World Class Event อย่างเคาท์ดาวน์ ของ ททท. ร่วมกับพันธมิตร ซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก และการจัดอันดับให้หลายเมืองของไทย เช่น กรุงเทพ เชียงใหม่ สมุย ภูเก็ตและกระบี่ เป็นจุดหมายปลายทางเพื่อการท่องเที่ยวจากสื่อและนิตยสารท่องเที่ยวของโลก และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ทำให้กระตุ้นการตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวไทย

สำหรับไทยเที่ยวไทย ททท.ก็คาดว่าจะคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากที่สุด โดยมีประมาณ 1,079,600 คน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 35% รองลงมาคือ ภาคเหนือ 909,300 คน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 45 % และ ภาคตะวันออก 757,000 คน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 18% 

ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางกลับภูมิลำเนาพบปะสังสรรค์กับญาติพี่น้อง พาครอบครัวไปทำบุญ ไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต โดยท่องเที่ยวทั้งแบบพักค้างและแบบเช้าไปเย็นกลับ และส่วนใหญ่เที่ยวภายในภูมิภาคเป็นหลัก ขณะที่ภูมิภาคที่สร้างรายได้มากที่สุดคือ ภาคเหนือ 4,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% รองลงมาคือ ภาคใต้ 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29 % และกรุงเทพฯ 2,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26%

ลิซ่า-แบมแบม แรงหนุน เคาท์ดาวน์ 2025 คึกคัก

ขณะเดียวกันททท.ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรภาคเอกชน จัดกิจกรรมแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 “Amazing Thailand Countdown 2025” ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี และสงขลา คาดว่า บรรยากาศทางการท่องเที่ยวดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าทั้ง 5 พื้นที่จะมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 1.58 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 17 % และสร้างรายได้ 8,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19 %

โดยกิจกรรมที่ททท.จัดเอง คือ งาน Amazing Thailand Countdown 2025 ในวันที่ 28 ธันวาคม 2567-1 มกราคม 2568 ณ สวนนาคราภิรมย์ กรุงเทพ และ งาน Amazing Chiang Mai Countdown 2025 ในวันที่ 21 ธันวาคม 2567 - 1 มกราคม 2568 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่

รวมถึงการสนับสนุนการจัดงานเคาท์ดาวน์ของภาคเอกชนทั่วไทย อาทิ งาน Amazing Thailand Countdown 2025 ไอคอน สยาม เคาท์ดาวน์ของศูนย์การค้า Central World ที่จะมีการจุดพลุเฉลิมฉลองครั้งใหญ่

รวมทั้งการจัดกิจกรรมแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้แก่ “ลิซ่า” ณ ศูนย์การค้า ICON SIAM และ “แบมแบม” ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้บรรดาด้อมลิลี่ของลิซ่า กลุ่มอากาเซ่และแบมมี่ของแบมแบม เดินทางและพักค้างในพื้นที่ที่จัดงานเป็นจำนวนมาก

ลิซ่า Blackpink

โรงแรมตีปีกบุ๊คกิ้งล้นหลาม

นายศึกษิต สุวรรดิษฐกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า ยอดบุ๊คกิ้งโรงแรมภูเก็ตในช่วงคริสต์มาสถึงปีใหม่นี้ มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 90 % ขึ้นไป โดยนักท่องเที่ยวส่วนมากจะเป็นรัสเซีย จีน อินเดีย ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร คาซัคสถาน ซึ่งจากดีมานด์การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตสามารถปรับราคาห้องพักเพิ่มขึ้นได้ 15-20% ซึ่งสูงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19

นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมการค้าวิศิษฎ์ล้านนา เพื่ออุตสาหกรรมไมซ์ และการท่องเที่ยว เผยว่า การท่องเที่ยวของเชียงใหม่ในช่วง 2 สัปดาห์ ตั้งแต่คริสต์มาสต่อเนื่องถึงปีใหม่นี้เป็นไปอย่างคึกคัก โรงแรมในเชียงใหม่มียอดจองเข้าพัก 85-9 % โดยเป็นคนไทย 50% และต่างชาติ 50 % แตกต่างจากที่ผ่านมา ซึ่งปีใหม่จะมีคนไทยมาเที่ยวเชียงใหม่อยู่ที่ 70% และต่างชาติอยู่ที่ 30 % 

ที่เป็นเช่นนี้เพราะจำนวนเที่ยวบินในประเทศเข้าเชียงใหม่ปัจจุบันอยู่ที่ 70 เที่ยวบินต่อวัน ยังไม่ฟื้นกลับมาเหมือนก่อนเกิดโควิดที่อยู่ที่ 120 เที่ยวบินต่อวัน ส่งผลให้ราคาตั๋วเครื่องบินในประเทศมีราคาสูง ทำให้คนไทยที่มีกำลังซื้อในการเดินทางท่องเที่ยวเลือกที่จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกันเพิ่มมากขึ้น

ขณะที่การเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวเชียงใหม่ จะมาจากอาเซียน และตลาดระยะใกล้เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีการเปิดเที่ยวบินตรงเข้าเชียงใหม่มากขึ้น อาทิ จากญี่ปุ่นเข้าเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงใหม่ก็มีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว อาทิ งานดอกไม้ Charming Chiang Mai FlowerFestival 2025 งาน Amazing Chiang Mai Countdown 2025 วันที่ 21-31 ธันวาคม 2567 ที่จัดงานถึง 11 วัน และมีแบมแบม GOT 7 มาร่วมงานด้วย ก็จะทำให้แฟนคลับเดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่ด้วย

แบมแบม

ด้านอโกด้า แพลตฟอร์มจองห้องพักออนไลน์ระดับโลก ยังเปิดเผยว่าในช่วงปีใหม่นี้ กรุงเทพฯได้รับความนิยมเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากโตเกียว ตามมาด้วย ไทเป พัทยา และโอซาก้า และนักท่องเที่ยวไทย วางแผนเที่ยวกรุงเทพฯ เขาใหญ่ เชียงใหม่ และหัวหิน/ ชะอำ และมองการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ คือ โตเกียว ฮ่องกง ไทเป เซี่ยงไฮ้ และโอซาก้า

ปีใหม่คนไทยเที่ยวนอก 2 แสนคน

นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) สมาคมด้านทัวร์เอ้าท์บาวด์เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 นี้ คนไทยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ทั้งเดินทางเที่ยวเองและเดินทางเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ อยู่ที่ราว 2 แสนคน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงปีใหม่ 2567 เนื่องจากจำนวนเที่ยวบินยังไม่กลับมาเท่ากับก่อนเกิดโควิด เกิดการใช้จ่ายในต่างประเทศราว 1 หมื่นล้านบาท เฉลี่ยการใช้จ่ายต่อคนอยู่ที่5 หมื่นบาทต่อทริป 

5 ประเทศแรก ที่คนไทยนิยมเดินทางไปเที่ยวมากที่สุด อันดับ 1 จะเป็นญี่ปุ่น อันดับ 2 จีน อันดับ 3 เวียดนาม อันดับ 4 มาเลเซีย อันดับ 5 ลาว ซึ่งการที่คนไทยนิยมเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นมากที่สุด เกิดจาก 2 ปัจจัยหลักที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเดินทางไปเที่ยวของคนไทย ได้แก่ มาตรการวีซ่าฟรี ทำให้คนไทยเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และ เงินเยนอ่อนค่า

ขณะที่จีน ก็มาแรงคนไทยนิยมเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่ต้องมีวีซ่า และค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวไม่สูง ส่วนการเดินทางไปเที่ยวยุโรปส่วนปีใหม่นี้ ก็มีบ้าง แต่ไม่ได้มากนัก เนื่องจากมีราคาค่อนข้างสูง คนไทยส่วนใหญ่จึงเลือกเดินทางไปเที่ยวยุโรปในช่วงก่อนหน้านี้แทน 

ทั้งนี้การเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศของคนไทยในช่วงปีใหม่ จุดหลักเป็นเพราะเป็นช่วงหยุดยาวและวางแผนไปเที่ยวต่างประเทศทุกปีอยู่แล้ว ส่วนอีกเหตุผลรองลงมา คือ บางคนมองว่าการเดินทางเที่ยวในประเทศมีราคาแพงกว่าเที่ยวต่างประเทศ จึงตัดสินใจเที่ยวต่างประเทศแทน โดยตลอดทั้งปีนี้ทีทีเอเอ ประเมินว่าจะมีคนไทยเดินทางเที่ยวต่างประเทศราว 13-14 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 6 %

สอดคล้องกับความเห็นของนายธนพล ชีวรัตนพร อุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) และเจ้าของบริษัททัวร์ ควอลิตี้ เอ็กซ์เพรส เผยว่า ยอดขายทัวร์เที่ยวต่างประเทศของบริษัทตั้งแต่ช่วงคริสต์มาสต์ต่อเนื่องถึงช่วงปีใหม่นี้ เฉลี่ยเติบโตราว 20 % โดยส่วนมากนิยมเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น และ จีน ซึ่งแพ็กเกจขายทัวร์ไปจีน ถือว่าเติบโตสูงสุดอยู่ที่ราว 70 % 

เนื่องจากคนไทยเดินทางเข้าไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าเหมือนในอดีต และจำนวนที่นั่งบนเครื่องบินในเส้นทางบินระหว่างไทย-จีน ยังมีที่นั่งในการขายได้มาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยยังไม่สูงเท่าเดิมจึงมีที่นั่งในการขายทัวร์ออกไปได้มากกว่า ประกอบกับราคาแพ็กเกจทัวร์เที่ยวจีนราคาไม่แพง 2 หมื่นกว่าบาทก็อยู่ได้ 5 วัน ซึ่งถูกกว่าเที่ยวในประเทศโดยเครื่องบินเสียอีก