สายการบินไทย-เทศ เฮโลสยายปีก 4 แสนเที่ยวบิน รับท่องเที่ยวไฮซีซัน

15 ธ.ค. 2567 | 21:26 น.

สายการบินไทย-เทศ เฮโลสยายปีก 4 แสนเที่ยวบินเข้สไทย รองรับดีมานต์การเดินทางท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น ช่วงไฮซีซันนี้

การท่องเที่ยวไทยเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซัน) แล้ว ส่งผลให้ธุรกิจสายการบินและธุรกิจท่องเที่ยวกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง โดยสายการบินต่างๆทยอยเพิ่มเที่ยวบินเข้าไทย รวมถึงการเปิดบินของสายการบินรายใหม่ ขณะที่สายการบินของไทย ก็ทยอยเพิ่มฝูงบิน สยายปีกในประเทศและต่างประเทศกันอย่างคึกคัก ในช่วงตารางบินฤดูหนาวนี้ รวมไม่ต่ำกว่า 4 แสนเที่ยวบิน เพื่อรองรับดีมานต์การเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้น

สายการบินไทย-เทศ เฮโลสยายปีก 4 แสนเที่ยวบิน รับท่องเที่ยวไฮซีซัน

จากข้อมูลของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พบว่า ตารางบินฤดูหนาว 2024/2025 ระหว่างเดือนต.ค.2567 - มี.ค 2568 คาดว่าจะมีเที่ยวบินเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 427,994 เที่ยวบิน (ไม่รวมเที่ยวบินเช่าเหมาลำ) เพิ่มขึ้น 124 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยมีเที่ยวบินในเส้นทางจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสูงที่สุด ตามมาด้วยเส้นทางบินยุโรป และตะวันออกกลาง ในจำนวนนี้เป็นเที่ยวบินที่ทำการบินใน 6 สนามบินของทอท.รวมกว่า 370,239 เที่ยวบิน

นอกจากนี้ยังมีการเปิดเที่ยวบินใหม่ต่อเนื่อง อย่างในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา มีเที่ยวบินใหม่จากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด รองลงมา คือ อาเซียน เอเชียใต้ ยุโรป และอเมริกา ตามลาดับ โดยบินตรงเข้าสู่ 6 ท่าอากาศยาน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เชียงใหม่ เกาะสมุย เชียงราย และบุรีรัมย์

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) ทอท.หรือ AOT เปิดเผยว่า สำหรับท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของทอท. ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินภูเก็ต สนามบินหาดใหญ่ สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย มีสายการบินที่ได้รับการจัดสรรเวลาการบินเข้าสนามบินต่างๆในช่วงตารางบินฤดูหนาว 2024/2025 รวมกว่า 370,239 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากฤดูหนาวในปีที่ผ่านมา 22.1% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 222,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 33.1% เที่ยวบินภายในประเทศ 147,459 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.5%

กีรติ กิจมานะวัฒน์

ทั้งนี้มีแนวโน้มจำนวนผู้โดยสารรวม ทั้งเที่ยวบินระหว่างประเทศและเที่ยวบินในประเทศเพิ่มขึ้น 23% และเส้นทางระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารเดินทางเข้าประเทศไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย อินเดีย สิงคโปร์ และฮ่องกง

ปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารระหว่างประเทศปี 2567 เติบโตขึ้น และจะดีต่อเนื่องในปี 2568 ที่คาดว่าผู้โดยสารจะฟื้นตัวใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เพราะสายการบินมีเที่ยวบินต่างประเทศเพิ่มขึ้น แม้นักท่องเที่ยวจีนจะฟื้นกลับมาที่ 76% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด (ปี 62) แต่มองว่าในปี 2568 ผู้โดยสารจีนยังเป็นขาขึ้นกลับไปแตะที่ 90% ของปี 2562

ส่วนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญคือ อินเดีย สูงขึ้น 130% จากช่วงก่อนโควิด เป็นผลจากนโยบายฟรีวีซ่า รวมถึงไต้หวัน รัสเซีย ยุโรปตะวันออก สหรัฐ อังกฤษ ที่เพิ่มขึ้น ยกเว้นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ลดลง จากปัญหาเงินเยนอ่อนค่า” ดร.กีรติ กล่าวทิ้งท้าย

นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวนี้ ตามตารางการบินฤดูหนาว สนามบินสุวรรณภูมิ มีสายการบินประจำรวม 141 สายการบิน โดยเป็นสายการบินที่ขอทำการบินใหม่ จำนวน 2 สายการบิน คือ 1. ITA AIRWAYS (อิตาแอร์เวย์) เส้นทางการบินจากกรุง โรมประเทศอิตาลี โดยจะเริ่มทำการบินวันที่ 17 พ.ย.67 ทำการบิน 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และ 2. AIR CALEDONIE INTERNATIONA (สายการบินแอร์คาลิน) เส้นทางการบินจากเมือง Noumea ประเทศนิวแคลิโอเนีย และเส้นทางการบินจากเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยจะเริ่มทำการบินวันที่ 11 ธ.ค.67 ทำการบิน 8 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

สายการบินไทย-เทศ เฮโลสยายปีก 4 แสนเที่ยวบิน รับท่องเที่ยวไฮซีซัน

ทั้งนี้สนามบินสุวรรณภูมิ คาดว่าในช่วงดังกล่าวจะมีผู้โดยสารประมาณ 28,500,000 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่าง 23,775,000 คน และผู้โดยสารภายในประเทศ 4,650,000 คน และมีจำนวนเที่ยวบินทั้งหมด 166,600เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 124,000 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายใน 36,700 เที่ยวบิน หรือเที่ยวบินเฉลี่ย 1,100 ต่อวัน และมีเที่ยวบินขนส่งสินค้า 5,900 เที่ยวบิน

จากความต้องการในการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ไม่เพียงแต่การเปิดบินเข้าไทยของสายการบินต่างชาติเท่านั้น ในส่วนสายการบินของไทย ต่างก็เร่งเดินหน้าเพิ่มฝูงบิน และเปิดเส้นทางบินใหม่ในช่วงตารางบินฤดูหนาวนี้ เพื่อสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจ

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมสายการบินประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้ยอดจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า มีการเติบโตราว 10% และดีต่อเนื่องถึงไตรมาส 1 ปีหน้า ซึ่งปัจจัยเรื่องการแข็งค่าของเงินบาท และสงครามระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ยังไม่เห็นถึงผลกระทบในขณะนี้ โดยบุ๊กกิ้งการจองเข้าไทยยังคงเติบโตต่อเนื่อง

พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ

สายการบิน “บางกอกแอร์เวย์ส”จึงมีแผนเช่าเครื่องบินระยะสั้นเพิ่มอีก 2 ลำ โดยได้ทำข้อตกลงเช่าเหมาลำ (wet lease) กับสายการบิน Amelia (เอมีเลีย) นำเครื่องบินแอร์บัส เอ 319 หรือ เอ 320 มาบินในเส้นทางบินระหว่างประเทศ อาทิ กรุงเทพฯ, พนมเปญ, เสียมราฐ และหลวงพระบาง ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2567 เป็นต้นไป ส่วนทิศทางในปีหน้าก็อาจจะขยับเพิ่มขึ้นได้อีก

เช่นเดียวกับสายการบิน “ไทยแอร์เอเชีย” ก็เตรียมรับมอบเครื่องบินลำใหม่ แอร์บัส เอ321 นีโอ เพิ่มอีก 1 ลำในเดือนนี้ รวมเป็นฝูงบิน 60 ลำ ณ สิ้นปีนี้ และกลับมาขยายฝูงบินในระดับปกติต่อเนื่องในปีหน้า ส่วน “การบินไทย” ก็มีแผนจะขยายฝูงบินเพิ่มจาก 79 ลำ เป็น 90 ลำ ภายในสิ้นปี 2568 และมีแผนที่เช่าเครื่องบินโบอิ้ง 777-300 ER หรือ แอร์บัส A 350 เพิ่มเติมและอาจพิจารณาแอร์บัสเอ 330 ด้วยเช่นกัน

สำหรับการเปิดจุดบินใหม่ของสายการบินต่างๆของไทย จะเริ่มเห็นว่ามีการเปิดเที่ยวบินตรงสู่อินเดียเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็สอดคล้องกับการเจรจาจัดสรรสิทธิการบิน ไทย-อินเดีย เพิ่ม 7,000 ที่นั่งต่อสัปดาห์ สู่ 6 เมืองสำคัญในอินเดีย ได้แก่ มุมไบ เดลี เชนไน กัลกาตา บังกาลอร์ไฮเดอราบัด เริ่มทำการบินเดือนพ.ย. 2567

สายการบินไทย-เทศ เฮโลสยายปีก 4 แสนเที่ยวบิน รับท่องเที่ยวไฮซีซัน

อาทิ “ไทยไลอ้อนแอร์” เปิดบินตรงจากสนามบินดอนเมือง-เชนไน เริ่ม 15 ธ.ค.2567 และเตรียมเปิดบินจากสนามบินดอนเมือง สู่กัลกัตตา เริ่ม 16 ธ.ค.นี้ “นกแอร์” เปิดเส้นทางบินสู่มุมไบ 8 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เริ่ม 27 ต.ค.ที่ผ่านมา แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เปิดส้นทางบินตรงดอนเมือง-เดลี เริ่ม 15 ธ.ค.2567 สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเส้นทางบินจากภูเก็ต สู่อินเดียใน 3 เส้นทาง ได้แก่ กัลกัตตา เชนไน เป็นต้น

ขณะที่เส้นทางบินจีน สายการบินต่างๆของไทยก็ทยอยกลับมาเพิ่มเที่ยวบิน และเปิดเส้นทางบินใหม่เช่นกัน อาทิ ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เปิดเส้นทางจากสนามบินดอนเมืองสู่เมืองฮาร์บิน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เริ่มวันที่ 24 ธ.ค.67-8 ก.พ.68 รวม 21 เที่ยวบิน

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การฟื้นตัวของเที่ยวบิน พบว่า มีสายการบินฟื้นตัวมากกว่าเดิม ทั้งการบินใหม่และการกลับมาบินอีกครั้ง อาทิ เยอรมัน ที่เดิมบินเข้ามาแบบเช่าเหมาลำ ก่อนจะเริ่มบินแบบพาณิชย์มากขึ้น 

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์

รวมถึงเห็นในบางตลาดที่ปรับตัวดีขึ้นแบบดีวันดีคืน อาทิ ออสเตรเลีย บินไปยังภูเก็ต-กระบี่-พังงา ถือว่าการท่องเที่ยวภาคใต้เติบโตได้ดีมากขึ้นแล้ว โดยเฉพาะภูเก็ต ที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นมาสูงมาก จนไม่มีช่วงตกท้องช้าง หรือช่วงของการท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลงเลย ส่วนราคาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ไม่ได้มีการปรับราคาขึ้นสูงเกินไป ด้านตลาดระยะใกล้ ถือว่าปรับเพิ่มขึ้นได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะอินเดีย ที่มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นจากหลายเมือง อาทิ โกลกาตา อาห์มาดาบัด

การเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินเข้าไทย ส่งผลให้การท่องเที่ยวขยายตัวเพิ่มขึ้นนั่นเอง

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 4,048 วันที่ 28 - 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567