นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดวิธีปฏิบัติของเจ้าของเรือประมงที่ใช้สนับสนุนเรือที่ใช้ทำการประมงหรือเรือขนถ่ายสัตว์น้ำ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ เป็นการแก้ไขร่างกฎกระทรวงฉบับเดิมที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา เนื่องจากมีบทบัญญัติบางประการยังไม่สอดคล้องกับสภาพการทำการประมงและการกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ ยังไม่เพียงพอต่อการป้องกันไม่ให้มีการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยการปรับปรุงแก้ไขบทบัญญัติเพิ่มเติม ไม่ได้เป็นการเพิ่มภาระให้แก่เจ้าของเรือประมงแต่อย่างใด เนื่องจากมาตรการในการควบคุมเป็นไปตามหลักปฏิบัติเดิมที่เจ้าของเรือต้องดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎหมายอยู่แล้ว
อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความคล่องตัวให้กับเจ้าของเรือสามารถปฏิบัติได้โดยไม่กระทบการขนส่งน้ำมันของเรือ และกรมประมงสามารถติดตามเรือได้
สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง อาทิ
1.เรือที่ต้องติดตั้งระบบติดตามเรือประมง (Vessel Monitoring System : VMS) เป็นเรือที่จดทะเบียนเป็นเรือกลเดินทะเลที่มีขนาดตั้งแต่ 30 กรอสขึ้นไป ที่มีประเภทการใช้เรือดังต่อไปนี้ เป็นเรือสนับสนุน
2.ระยะเวลาการติดตั้งระบบติดตามเรือประมง โดยเรือสนับสนุนต้องติดตั้งระบบติดตามให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ส่วนเรือสนับสนุนที่จดทะเบียนใหม่หรือเปลี่ยนประเภทการใช้เรือเป็นเรือสนับสนุน ต้องติดตั้งระบบติดตามให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่จดทะเบียนใหม่หรือเปลี่ยนประเภทการใช้เรือ
3.เมื่อมีการติดตั้งระบบติดตามเรือประมงแล้ว ต้องดำเนินการ ดังนี้
หากงดใช้เรือชั่วคราว สามารถยื่นคำร้องขอปรับลดจำนวนครั้งในการส่งข้อมูลระบบติดตามได้ กรณีปิดระบบติดตามเนื่องจากเรือชำรุดหรืออุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือชำรุด ให้ยื่นคำร้องขอปิดสัญญาณอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือประมงชั่วคราว
กรณีระบบติดตามเรือประมงขัดข้อง ให้เจ้าของเรือดำเนินการแก้ไขให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่สามารถแก้ไขได้ให้นำเรือสนับสนุนกลับเข้าเขตท่าเทียบเรือทันที
4.เรือสนับสนุนที่ได้ติดตั้งระบบติดตามเรือประมง ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับให้สามารถยังคงใช้ระบบติดตามเรือประมงดังกล่าวต่อไปได้
นางสาวรัชดา กล่าวว่า ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบ ควบคุม และเฝ้าระวังการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งเพื่อให้การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว