ไร่ละ 1000 ปี65/66 ประกันรายได้ข้าว เช็คสิทธิ์วันนี้ ธ.ก.ส. โอนแล้ว

15 ก.พ. 2566 | 08:25 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ย. 2566 | 12:28 น.

ไร่ละ 1000 ปี 65/66 ประกันรายได้ข้าว เช็คสิทธิ์ วันนี้ ธ.ก.ส. โอนแล้วดูขั้นตอนตรวจสิทธิผ่านเว็บไซต์ต้องทำอย่างไรดูรายละเอียดทั้งหมดที่นี่

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ไร่ละ 1000 ปี 65/66 ประกันรายได้ข้าว เกษตรกรผู้ปลูกข้าวสามารถตรวจสอบสิทธิ์การจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรปีการผลิต 2565/66 รวมทั้งสิ้น 33 งวด โดยจะโอนเงินผ่านบัญชีของธนาคากรเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.

  • ไร่ละ 1000 ปี 65/66 ตรวจสอบสิทธิประกันรายได้ข้าว ตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป

 อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไร่ละ 1000 ปี 65/66 ดูวิธีขั้นตอนตรวจสอบสิทธิผ่านเว็บไซต์ ด้วยกัน 3 ขั้นตอนดังนี้

  • คลิกไปที่เว็บไซต์ https://chongkho.inbaac.com
  • กรอกเลขที่บัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก
  • หลังจากกรอกเลขบัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก จะมีรายละเอียดเปิดบัญชีจำนวนเงิน และ โครงการช่วยเหลือที่ได้รับ

 

ไร่ละ 1000 ปี65/66

ไร่ละ 1000 ปี 65/66  ตรวจสอบสถานะบนแอปพลิเคชันของ  ธ.ก.ส. A-Mobile  ขั้นตอนมีดังนี้

  • หลังจากตรวจสอบในเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากมีข้อมูลขึ้นว่าได้รับเงินโอน
  • สามารเข้าไปตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile จากธนาคากรเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
  • ซึ่งดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวครอบคลุมกว่า 4.68 ล้านคน
  • สามารถเช็คผลโอนเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมงหากเงินเข้าบัญชีแล้วสามารถรับทราบทันที https://chongkho.inbaac.com/

ล่าสุด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความชี้แจงหลังชาวนาถามว่าเมื่อไร “โครงการประกันรายได้ข้าว พ่วงคู่ขนานและเงินช่วยเหลือชาวนา” วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท จะเข้า ครม.เมื่อไรเจอปัญหาทั้งน้ำท่วมและราคา โดยนายจุรินทร์ระบุว่า ได้เสนอไปแล้ว รอความเห็นหน่วยงานเพื่อบรรจุวาระ

 ประกันรายได้ข้าวไร่ละ 1000 ปี 65/66 อัพเดทล่าสุด

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึง โครงการประกันรายได้ข้าวไร่ละ 1000 ปี 65/66  ที่จะจ่ายงวดแรกวันที่ 19 ตุลาคมนี้จะทันหรือไม่นั้น เท่าที่ทราบยังไม่เห็นวาระอยู่ในที่พิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ทำให้คาดว่าการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างของประกันรายได้ข้าวในงวดแรกวันที่ 19 ต.ค.นี้น่าจะไม่ทัน ซึ่งก็ต้องรอจนกว่า ครม. พิจารณาอนุมัติ แต่ขอให้ชาวนาอดทนรอไม่นาน เพราะเมื่อ ครม.ไฟเขียวขั้นตอนต่างๆก็จะเดินหน้าเร็วขึ้น มั่นใจว่าเดือนนี้เงินส่วนต่างงวดแรกชาวนาได้รับแน่นอนพร้อมกับเงินชดเชยน้ำท่วมในพื้นที่ประสบภัยด้วย

ประกันรายได้ข้าวไร่ละ 1000 ปี 65/66 เช็คผ่านออนไลน์ได้แล้ว

ก่อนหน้านี้ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี2565/2566 ว่า เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีรายได้ที่แน่นอน ตามนโยบายประกันรายได้เกษตรกรของรัฐบาล โดย พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา  ขณะนี้พี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวสามารถตรวจสอบสิทธิประกันรายได้ปี 2565/2566 ผ่านออนไลน์ได้แล้ว โดยจะทยอยจ่ายเงินส่วนต่างราคาประกันรายได้ข้าว ไร่ละ 1,000 ผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)

สำหรับขั้นตอนตรวจสอบสิทธิผ่านออนไลน์ มี 3 ขั้นตอนดังนี้ 

  •  คลิกไปที่เว็บไซต์ https://chongkho.inbaac.com
  • กรอกเลขที่บัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก
  • หลังจากกรอกเลขบัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก จะมีรายละเอียดเปิดบัญชีจำนวนเงิน และ โครงการช่วยเหลือที่ได้รับ

ประกันรายได้ข้าวไร่ละ 1000 ปี 65/66 สาเหตุที่ยังไม่โอนเงิน

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ขณะนี้การดำเนินโครงการประกันรายได้ข้าวปี 65/66 ยังไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรงวดแรก ในวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ได้ เพราะโครงการยังไม่ได้ผ่านการอนุมัติจากครม. เพราะติดปัญหาเพดานหนี้ในมาตรา 28 ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของภาครัฐ พ.ศ.2561 ซึ่งกำหนดให้การก่อหนี้ภาครัฐต่อสัดส่วนงบประมาณลดลงจากเดิม 35% เป็น 30% ในปีงบประมาณ 2566 แต่ภาระหนี้ ณ ปัจจุบัน พบว่า มีสัดส่วนสูง เพราะส่วนใหญ่เป้นหนี้ที่ค้างมาจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลก่อนเหลืออยู่กว่า 6 แสนล้านบาท และขณะนี้ก็ยังไม่สามารถหาเงินมาจ่ายทัน เพื่อลดยอดหนี้ก้อนนี้ให้ลดลงได้

ความคืบหน้าล่าสุดประกันรายได้ข้าวปี 65/66 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)  ซึ่งเป็นพ่องานหลักในการดำเนินนโยบาย  ปัจจุบันความคืบหน้าของโครงการประกันรายได้ปี 4 ในขณะนี้ขั้นตอนทุกอย่างเรียบร้อย รอเข้าครม.เพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป

ล่าสุดวันนี้ 8 พฤศจิกายน 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังการประชุมครม. เกี่ยวกับโครงการประกันรายได้ข้าว โดยได้ข้อสรุปว่า จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 นี้

“ต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีด้วย ที่มาสั่งการให้ ซึ่งจะดำเนินการทั้งสองส่วน คือ การประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และการจ่ายไร่ละ 1,000 บาท หากผ่านการเห็นชอบจากครม.แล้ว ต่อไปจะเป็นขั้นตอนในการปฏิบัติต่อไป” รองนายกฯ ระบุ

ล่าสุดวันนี้ 15 พฤศจิกายน 2565 นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จะเสนอโครงการประกันรายได้ข้าวปี 4 เข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 15 พฤศจิกายน ซึ่งตนได้ลงนามเอกสารเข้า ครม.ไปแล้ว ทั้งนี้ โครงการประกันรายได้จะมี 3 ส่วน คือ 1.ส่วนต่าง ที่จะจ่ายชดเชยให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 2.มาตรการคู่ขนานเพื่อช่วยให้โรงสีและชาวนาเก็บข้าวไว้ในยามที่ข้าวออกสู่ตลาดมาก เพื่อไม่ทำให้ราคาข้าวตกต่ำและมีเงินช่วยให้เก็บสต๊อกข้าวไว้ทั้งโรงสีและชาวนาเป็นต้น และ 3. ช่วยต้นทุนปัจจุบันการผลิต ไร่ละ 1,000 บาทเข้าด้วยกัน

ธ.ก.ส.พร้อมจ่ายหลัง ครม.ไฟเขียวประกันรายได้ข้าวไร่ละ 1000 ปี 65/66

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมครม.เห็นชอบโครงการประกันรายได้ข้าวปี 4 และเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ฤดูกาล 2565/2566 วงเงินรวมประมาณ 81,266 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ โดยแยกเป็น 3 ส่วน ดังนี้

  1. การประกันรายได้ โดยจ่ายชดเชยส่วนต่างให้กับชาวนา วงเงิน 18,700 ล้านบาท
  2. มาตรการคู่ขนาน เพื่อช่วยให้โรงสีและชาวนาเก็บข้าวไว้ในสต็อก วงเงิน 7,483 ล้านบาท 
  3. การช่วยต้นทุนปัจจุบันการผลิต ไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ วงเงิน 55,083 ล้านบาท.

 

 

ไร่ละ 1000 ปี65/66 ประกันรายได้ข้าว

ล่าสุดวันนี้ 21 พ.ย. ุ65  ดร.มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กรรมาธิการการต่างประเทศและอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะเป็นวันของชาวนา เริ่ม 22 พ.ย.จะได้ 2 เด้งทั้งค่าส่วนต่างกับค่าไถหว่าน โดยจากการที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เสนอผ่านมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมาแล้วนั้น การดำเนินงานตามระบบจากนี้คือ

  • ทางกระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในก็ได้เคาะราคาส่วนต่างในโครงการประกันรายได้ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.65 เพื่อจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรหลังครม. มีมติตามระเบียบ
  •  ทางธ.ก.ส. หรือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษรจะจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงเริ่มตั้งแต่ 22 พ.ย.นี้กว่า 4.7 ล้านครัวเรือน
  • ทางธ.ก.ส.จะจ่ายเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท รายละไม่เกิน 20 ไร่ สำหรับการช่วยค่าไถหว่านเข้าบัญชีเกษตรโดยตรงด้วย
  • ทางรองนายกรัฐมนตรีนายจุรินทร์ พร้อมพาเกษตรกรเดินหน้าโครงการประกันรายได้ปี4 หลังประสบความสำเร็จมาแล้ว 3 ปี และนี่คือ ผลของ การปฎิบัติงานตามนโยบายที่"ทำได้ไว ทำได้จริง"และทำได้มาจนถึงปีที่ 4
  • นโยบายนี้จะเดินหน้าร่วมกับมาตรการคู่ขนานอื่นๆ เพื่อผลักดันราคาข้าวให้ขึ้นช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดมากทั้งมาตรการเก็บข้าวในยุ้งฉาง มาตรการช่วยดอกเบี้ยสหกรณ์ โรงสี เพื่อการรับซื้อข้าวชาวนาอย่างเป็นธรรม
  • นายจุรินทร์ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้อธิบดีกรมการค้าภายในกำหนดการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพื่อพิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2565/66 หลังจากที่คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 พ.ย.2565

 

ประกันรายได้ช้าว

เมื่อเร็วๆ นี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการธ.ก.ส. ได้มีมติเห็นชอบให้ ธ.ก.ส.ขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้มีรายได้และสภาพคล่องในการใช้จ่าย รวมถึงเปิดโอกาสให้เกษตรกรมีทางเลือกในการขายข้าวเปลือกในราคาที่สูงขึ้น หรือเหมาะสมสอดคล้องกับต้นทุนการผลิตวงเงินรวม 81,265 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 กันยายน 2566 โดยมีเป้าหมายเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์ จำนวน 4.68 ล้านครัวเรือน ประกอบด้วย มาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือ ดังนี้

  • ปลูกข้าว ปีการผลิต2565/66 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่
  • โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต2565/66
  • โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี และโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม
  • โดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2565/66 เป้าหมายเกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 4.68 ล้านครัวเรือน เริ่มโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรตั้งแต่ 24 พ.ย. 65 เป็นต้นไป โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการโอนเงินวันแรก

มีรายงานล่าสุดในวันนี้ 23 พฤศจิกายน 2565  ธ.ก.ส. เปิดให้ เกษตรกผู้ปลูกข้าว เช็คเงินไร่ละ 1,000 โดยสามารถเข้าไปตรวจสถานะการโอนเงินเข้าบัญชี ธ.ก.ส.ได้ที่  https://chongkho.inbaac.com/

วันนี้ 24 ธันวาคม 2565 เพจ ธ.ก.ส.สาขาหนองตม โพสต์ข้อความว่า กำหนดนัดหมายจ่ายเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ (ไร่ละ 1,000 บาท) ขอความร่วมมือลูกค้ามาตามวันที่กำหนด และลูกค้าท่านใดที่มีบัตร ATM สามารถถอนเงินได้ทุกตู้ ทุกธนาคาร

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2565

  • ตำบล ตลุกเทียม , วงฆ้อง

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2565  

  • ตำบล มะต้อง

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2565

  • ตำบล ดงประคำ

วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2565

  • ตำบล ศรีภิรมย์

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2565

  •  ตำบล วังวน

เดือน ธันวาคม

วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม 2565

  • ตำบล ตลุกเทียม , วงฆ้อง

วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2565

  • ตำบล มะต้อง

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม 2565

  • ตำบล ศรีภิรมย์

วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2565

  • ตำบล ดงประคำ , วังวน

- ลูกค้าที่มีบัตร ATM สามารถถอนเงินสดที่ตู้ ATM ได้ทุกสาขา ทุกธนาคาร

- ลูกค้าที่ต้องการถอนเงินสดหน้าเคาน์เตอร์ในสาขา ขอให้มาติดต่อถอนเงินตามกำหนดวันที่นัด

หมายเป็นรายตำบล

- ลูกค้าที่มีรายชื่อได้รับเงิน แสดงว่าเงินโอนเข้าบัญชีแล้ว (ไม่ต้องปรับสมุด)

- ลูกค้าที่ไม่มีรายชื่อในรอบนี้ ต้องรอการโอนเงินในรอบต่อไป

(ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว และป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid-19 ธนาคารจึงขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย)

 

ธ.ก.ส.สาขาหนองตม

ขณะที่ ธ.ก.ส.สาขากำแพงเพจ โพสต์ข้อความถึงแผนการจ่ายเงิน โครงการประกันรายได้เกษตกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 (งวดที่1 ถึงงวดที่ 6)  สำหรับผู้ประสงค์ถอนผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร

วันที่รับเงิน

พฤหัสบดีที่ 1 ธ.ค.2565  

  • ตำบล นิคมพุ่งโพธิ์ทะเล ช่วงเวลา 08.30 -15.30 น.

วันศุกร์ที่ 2 ธ.ค. 2565

  • ตำบล สระแก้ว ช่วงเวลา 08.30 -15.30 น.
  • ตำบล ลานดอกไม้ ช่วงเวลา 08.30 -12.00 น. (เช้า)

วันอังคารที่ 6 ธ.ค. 2565

  • ตำบล หนองปลิง ช่วงเวลา 13.00-15,30 น. (บ่าย)

วันพุธที่ 7 ธ.ค.2565

  • ตำบล คณฑี ช่วงเวลา 08.30 -15.30 น.

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธ.ค. 2565

  • ตำบล เทพนคร ช่วงเวลา 08.30 -15.30 น.

 

แผนจ่ายเงินประกันรายได้ข้าวไร่ละ 1000

ล่าสุดวันนี้ 28  พฤศจิกายน ความคืบหน้าโอนเงินประกันรายได้ล่าสุด มีรายงานว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โอนเงินประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66  รวมงวดที่ 1 -7 รวมแล้วกว่า 7,006 ล้านบาท   มีเกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 4.68 ล้านครัวเรือน  รายละเอียดดังนี้

  • งวดที่ 1 วงเงินชดเชย  2,498.37 ล้านบาท
  • งวดที่ 2 วงเงินชดเชย  225.48 ล้านบาท
  • งวดที่ 3 วงเงินชดเชย  117.11 ล้านบาท
  • งวดที่ 4 วงเงินชดเชย 166.12 ล้านบาท
  • งวดที่ 5  วงเงินชดเชย 183.81 ล้านบาท
  • งวดที่ 6 วงเงินชดเชย  1,550.48 ล้านบาท
  • งวดที่ 7 วงเงินชดเชย  2,265.07 ล้านบาท

ขณุะที่เพจธ.ก.ส.สาขาวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ โพสต์ข้อความว่า  แจ้งประชาสัมพันธ์ลูกค้า ธ.ก.ส. สาขาวังหิน สำหรับแผนการจ่ายเงิน โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66

  • โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพชีวิตผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66
  • ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป  ทุกตำบล เวลา 08.30 น.  – 15.30 น. จำนวน 300 คิว

กรณีมีบัตร ATM

  • สามารถกดเงินสดได้ที่ตู้ ATM ทุกธนาคารตลอด  24 ชั่วโมง

กรณีไม่มีบัตร ATM

  • ติดต่อขอถอนเงินที่ ธ.ก.ส.สาขาวังหิน
  • เตรียมบัตรประจำตัวประชาชน และ สมุดบัญชีเงินฝาก
  • เขียนใบถอนเงินและลงลายมือชื่อให้เรียบร้อย
  • รับตรวจคัดกรองตามมาตรการป้องกันโควิด
  • รอเรียกคิวและรอรับเงิน

 

เงินประกันรายได้ข่าว

 

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565  นายกษปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการ ด้านนโยบายรัฐและบริหารจัดการคุณภาพหนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. สรุปยอดโอนเงินประกันรายได้ข้าวไร่ละ 1,000  ตั้งแต่วันที่ 24-28 พ.ย. มียอดโอนรวมกว่า 55,135 ล้านบาท จำนวนทั้งสิ้น 5.983 ล้านราย

โดยเมื่อวันที่ 28 พ.ย.

  • โอนสำเร็จ 4.295,190 ราย เป็นเงิน 50,616 ล้านบาท 
  • โอนไม่สำเร็จ 104 ราย เป็นเงิน 1.14 ล้านบาท

โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 (งวดที่ 1-6)

  • โอนสำเร็จ 1,688,399 ราย เป็นเงิน 4,518.99 ล้านบาท
  • โอนไม่สำเร็จ จำนวน 73 ราย คิดเป็นเงิน 0.20 ล้านบาท

 

ประกันรายได้ข้าวไร่ละ 1000

วันนี้ 30 พฤศจิกายน 2565 เพจ ธ.ก.ส.สาขาขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ โพสต์ข้อความว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 7 (แจ้งเก็บเกี่ยว 19-25 พย 65)  และงวดที่ 1-6 เพิ่มเติม) โอน 30 พฤศจิกายน 2565

 

ธ.ก.ส.สาขาขันธ์ จังหวัดศรีสะเก

วันที่ 1 ธันวาคม 2565 นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการด้านนโยบายรัฐและบริหารจัดการคุณภาพหนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ 2 ธ.ค. 2565 ธ.ก.ส. ได้โอนเงินเพิ่มโครงการไร่ละ 1,000 บาท อีกกว่า 1,780 ล้านบาท ภายใต้มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว  ปีการผลิต 2565/66

รายละเอียดโอนเงินไร่ละ 1000 ดังนี้

รอบที่ 1  เมื่อวันที่ 24-28 พ.ย.65

  • โอนแล้ว 4,295,190 ราย
  • คิดเป็นเงิน 50,616 ล้านบาท

รอบที่  2 โอนวันที่ 2 ธ.ค.2565

  • โอนเงินเพิ่ม 204,471 ราย
  • คิดเป็นเงิน 1,780 ล้านบาท

 

ประกันรายได้ข้าวไร่ละ 1000

 

วันนี้ 2 ธันวาคม 2565  นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการด้านนโยบายรัฐและบริหารจัดการคุณภาพหนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า วันนี้ ธ.ก.ส. โอนเงินไร่ละ 1000 ปี 65/66 ประกันรายได้ข้าว

รอบที่  2 โอนวันนี้ 2 ธ.ค.2565

  • โอนเงินเพิ่ม 204,471 ราย
  • คิดเป็นเงิน 1,780 ล้านบาท

วันที่ 7 ธันวาคม 2565  ธ.ก.ส.สาขาขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ  โพสต์ข้อความว่า ข้อมูลโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต2565/66 # รอบที่ 1

  • งวดที่ 8 และงวดที่ 1-7 (เพิ่มเติม)
  • กำหนดโอนเงินวันที่ 8 ธันวาคม 2565

 

ประกันรายได้ข้าว

วันนี้ 9 ธันวาคม  2565 กรมการค้าภายใน สังกัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกร ผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 9  สำหรับข้าวเปลือกชนิดต่าง ๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้

  • ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ  746.79 บาท
  • ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 529.22 บาท
  • ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 341.81  บาท
  • ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ  511.17บาท
  • ข้าวเปลือกเหนียว      ราคาสูงกว่าเป้าหมาย

 

ประกันรายได้ข่าวงวดที่ 9

สำหรับเงินของงวดที่ 9

  • กรมการค้าภายในแจ้งว่า ไร่ละ 1000 ปี 65/66 ประกันรายได้ข้าว
  • จะเข้าหลังประกาศ 3 วันทำการ
  • หรือประมาณวันที่ 15 ธันวาคม 2565

วันนี้ 21 ธันวาคม 2565 นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า  ธ.ก.ส. โอนเงินช่วยเหลือให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวผ่านโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สำหรับปีการผลิต 2565/66 อีกกว่า 1,100 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 182,727 ครัวเรือน ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้

วันนี้ 26 ธันวาคม 2565  ล่าสุด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยถึงการจ่ายเงินโครงการประกันรายได้ข้าว สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 4  โดยราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 11 โดยจะโอนจ่ายในวันที่ 28 ธันวาคม 2565 โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ภายใน 3 วันทำการ หรือ ภายในวันที่ 28 ธ.ค. 2565 โดยมีเกษตรกรได้รับชดเชย จำนวน 26,318 ครัวเรือน 

สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 17-23 ธ.ค.2565 ดังนี้ 

  •  ข้าวเปลือกหอมมะลิ เกณฑ์กลางอ้างอิงตันละ 13,900.55 บาท 
  • ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่  เกณฑ์กลางอ้างอิงตันละ 13,392.57 บาท 
  •  ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี เกณฑ์กลางอ้างอิงตันละ 10,889.02 บาท
  •  ข้าวเปลือกเจ้า เกณฑ์กลางอ้างอิงตันละ 9,638.57 บาท
  • ข้าวเปลือกเหนียว เกณฑ์กลางอ้างอิงตันละ 12,395.70 บาท 

เกณฑ์อ้างอิงประกันรายได้ข้าวงวด 11 มีดังนี้

  • ข้าวเปลือกหอมมะลิ ชดเชยตันละ 1,099.45 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 15,392.30 บาท
  • ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ชดเชยตันละ 607.43 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 9,718.88 บาท
  • ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ชดเชยตันละ 110.98 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 2,774.50 บาท
  • ข้าวเปลือกเจ้า ชดเชยตันละ 361.43 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 10,842.90 บาท   
  • ข้าวเปลือกเหนียว ไม่ได้รับเงินชดเชยเนื่องจากราคาเกณฑ์กลางสูงกว่าเป้าหมาย

วันนี้ 31 ธันวาคม 2565 นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 12 สำหรับเกษตรกรกว่าสองหมื่นรายที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 24 - 30 ธ.ค. 2565 โดยมีราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและส่วนต่าง ดังนี้

  • ข้าวเปลือกหอมมะลิ เกณฑ์กลางตันละ 13,997.01 บาท ชดเชยตันละ 1,002.99 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 14,041.86 บาท
  •  ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ เกณฑ์กลางตันละ 13,452.29 บาท ชดเชยตันละ 547.71 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 8,763.36 บาท
  • ข้าวเปลือกปทุมธานี เกณฑ์กลางตันละ 10,974.52 บาท ชดเชยตันละ  25.48 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 637.00 บาท
  •  ข้าวเปลือกเจ้า เกณฑ์กลางตันละ 9,749.90 บาท ชดเชยตันละ 250.10 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 7,503.00 บาท
  • ข้าวเปลือกเหนียว เกณฑ์กลางตันละ 12,476.50 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาเป้าหมายที่ตันละ 12,000 บาท จึงไม่มีการชดเชยส่วนต่างในงวดนี้

ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วันทำการ หรือภายในวันที่ 5 ม.ค. 2566 และยืนยันว่าไม่มีการหักหนี้แต่อย่างใด ซึ่ง ธ.ก.ส. ส่วนกลางได้กำชับ ธ.ก.ส.สาขาในพื้นที่ไม่ให้หักเงินเกษตรกรไปเรียบร้อยแล้ว

ล่าสุด วันนี้ 4 มกราคม 2566  ธ.ก.ส. หรือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โอนเงินมาตรการช่วยเหลือประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 65/66  อีกกว่า 171.71 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 38,004 ครัวเรือน ในวันที่ 4 มกราคมนี้

วันนี้ 21 มกราคม 2566 สำหรับเงินประกันรายได้ข้าวไร่ละ 1000 ปี 65/66 ล่าสุด  นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 15สำหรับการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างในงวดที่ 15 นี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วันทำการ หรือภายในวันที่ 25 ม.ค. 2566 โดยในงวดที่ 1 - 14 ที่ผ่านมาจ่ายส่วนต่างแล้ว จำนวน 2.586 ล้านครัวเรือน วงเงิน 7,833.59 ล้านบาท ในส่วนของการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (ไร่ละพันบาท) ธ.ก.ส. ได้โอนเงินให้เข้าบัญชีเกษตรกรแล้วกว่า 4.61 ล้านครัวเรือน

อย่าลืมวันพุธที่ 25 มกราคม 2566  ธ.ก.ส. โอนเงินประกันรายได้ข้าวไร่ละ 1000 ปี 65/66 งวดที่ 15 สำหรับการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่าง  ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วันทำการ หรือภายในวันที่ 25 ม.ค. 2566

พรุ่งนี้วันพุธที่ 25 มกราคมนี้ เงินประกันรายได้ข้าวไร่ละ 1000 ปี 65/66 งวดที่ 15 ธ.ก.ส.โอนเงินส่วนต่างจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว สามารถเช็คผ่าน ธ.ก.ส. A-Mobile,เอทีเอ็ม และ เว็บไซต์ https://chongkho.inbaac.com

 

เมื่อเร็วๆ นี้ นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.  เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้เริ่มทยอยโอนเงินให้เกษตรกร ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 ประกอบไปด้วย โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 (โครงการไร่ละพัน) เป็นเงินกว่า 53,769.45 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 4.67 ล้านครัวเรือน และโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 1-14 เป็นจำนวนเงินกว่า 7,833.59 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 2.74 ล้านครัวเรือน

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 25  มกราคมที่ผานมา ธ.ก.ส. ได้โอนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผ่านมาตรการช่วยเหลือและยกระดับรายได้เกษตรกร ผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 แก่เกษตรกรอีกกว่า 16,222 ครัวเรือน เป็นจำนวนเงิน 80.23 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 (โครงการไร่ละพัน) ครั้งที่ 8 เป็นเงินกว่า 69.49 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 10,694 ครัวเรือน และโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 งวดที่ 15 และงวดที่ 1 - 14 (เพิ่มเติม) เป็นเงินกว่า 10.74 ล้านบาท มีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 5,528 ครัวเรือน

วันนี้ 29 มกราคม 2566 นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1000 ปี 65/66 ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 16 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 21 – 27 ม.ค. 256 ดังนั้นการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างในงวดที่ 16 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วันทำการ หรือภายในวันที่ 1 ก.พ. 2566 โดยในงวดที่ 1 - 15 ที่ผ่านมาจ่ายส่วนต่างแล้ว จำนวน 2.59 ล้านครัวเรือน วงเงิน 7,844.16 ล้านบาท

ล่าสุด นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า วันนี้ (15 ก.พ.)  ธ.ก.ส. ได้ทำการโอนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผ่านมาตรการช่วยเหลือและยกระดับรายได้เกษตรกร ผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 เข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงอีกจำนวน 22.77 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์ 9,266 ครัวเรือน ดังนี้

  • โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 (โครงการไร่ละ 1000) ครั้งที่ 11 เป็นเงินกว่า 21.41 ล้านบาท และมีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 4,319 ครัวเรือน
  • โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 งวดที่ 18 และงวดที่ 1 - 17 (เพิ่มเติม) เป็นเงินกว่า 1.36 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 4,947 ครัวเรือน.

ที่มา:เว็บไซต์รัฐบาลไทย,กระทรวงพาณิชย์,ธ.ก.ส.  , กรมการค้าภายใน