นายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์น้ำนมดิบ จากปกติโดยทุกปีในช่วงนี้ปริมาณน้ำนมดิบจะเพิ่มขึ้น แต่ปีนี้กลับไม่เพิ่ม ทั้งที่เป็นช่วงฤดูที่จะต้องมีปริมาณน้ำนมดิบเพิ่ม วันนี้น้ำนมขาดตลาด เรียกว่าอะไรก็ตามที่ของขาดตลาด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตรอื่นก็ดีอยู่แล้ว ก็จะทำให้ของราคาแพงขึ้น
“เราเป็นโคนม ถ้าปริมาณน้ำนมดิบลด ต้องยอมรับว่าในการทำโครงการนมโรงเรียนจะต้องมีน้ำนมดิบป้อน ปริมาณวันละ 1,100 ตัน และน้ำนมดิบประมาณ 1,300 ตัน/วัน ผลิตนมพาณิชย์ แล้วถ้าให้สมดุลปริมาณน้ำนมดิบจะอยู่ปริมาณ 2,500 ตัน/วัน แล้วปกติ น้ำนมดิบในประเทศ มีปริมาณ 3,500 ตัน/วัน จะเกินปริมาณน้ำนมดิบ 1,000 ตัน/วัน แล้ววันนี้เห็นสัญญาณแล้วน้ำนมดิบจะลดลงไปเรื่อยๆ อย่างมีนัยยะสำคัญ นมโรงเรียนก็หาย ตลาดนมพาณิชย์ก็มาแย่งมากว้านซื้อ ทำให้เห็น น้ำนมดิบ เป็นทองคำ น้ำนมมีราคา แต่ก็จะดีกับคนบางกลุ่มเช่น สหกรณ์บางรายที่เป็นรายเล็ก ก็จะโดนกลุ่มเอกชนรายใหญ่ที่มากว้านซื้อวัว ไปเพิ่มในฝูง
แต่ไม่ตอบโจทย์กับเกษตรกรไทยก็คือ โคนมที่เลี้ยงจะต้องเป็นรายย่อย เพื่อให้ประกอบอาชีพได้ แต่มาวันนี้เกษตรกรเลิกเลี้ยง ไปอยู่กับฝั่งเอกชนรายใหญ่ ทั้งนำเข้านม และนำเข้าวัวนมมาเลี้ยงเพิ่ม ตั้งคำถามว่าดีไหม ก็บอกไม่ถูก แล้วฝ่ายเอกชนก็บอกว่ามีกำลังซื้อ แล้วก็ทำนมให้กับคนไทยบริโภค จะเห็นว่าต่อไปอาชีพพระราชทานก็จะตกไปอยู่กับรายใหญ่ ในฐานะประธานชุมนุมฯ อยากให้รายย่อยอยู่ได้ ก็ต้องลดต้นทุนเกษตรกร และเพิ่มราคาให้กับเกษตรกร ที่จะต้องทำให้ได้
วันนี้ทุกคนที่ทำนมโรงเรียน แบกภาระขาดทุน แต่ถ้าคนขายนมพาณิชย์ เป็นราคาใหม่ แล้วตลาดนมพาณิชย์ก็กว้านซื้อหนักมาก ทำให้น้ำนมดิบยิ่งมีมูลค่าเป็นทองคำ แล้วถ้าไปเข้าโครงการผิด ก็จะกลายเป็นผิดสัญญา เพราะไปทำสัญญามาแล้ว ถูกล็อคด้วยพันธสัญญา ถ้านมโรงเรียนไม่มีผลิต ก็โดนฟ้อง นมพาณิชย์ในขณะนี้ลอยตัว ตอนนี้คนที่ตกหนักก็คือ สหกรณ์-เอกชนที่ทำนมโรงเรียน ไม่เข้า ครม. ปรับราคากลางน้ำนมใหม่ ก็เดือดร้อน
นายนัยฤทธิ์ กล่าวว่า ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด เชิญผู้ประกอบการแปรรูปนมภาคสหกรณ์สมาชิกชุมนุมฯ ประชุมในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ เรื่องการปรับราคาผลิตภัณฑ์นมในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน จะมีการลงมติไม่ส่งนมโรงเรียนทั้งประเทศ หากข้อเรียกร้องไม่ได้เข้า ครม.
ขณะที่แหล่งข่าวผู้ประกอบการโรงงานนมโรงเรียน เผยว่า ถ้าให้หยุดส่งนมโรงเรียน ใครจะรับผิดชอบ เพราะโทษร้ายแรงโดนตัดสิทธิ์ออกจากโครงการ ใครจะมารับผิดชอบถ้าโดนข้อหานี้ แล้วไม่มีใครเอาด้วยหรอก แต่ถ้า อ.ส.ค. ทำแล้วมีหนังสือส่งมาให้งดส่งนมโรงเรียน ถึงจะเห็นด้วย เนื่องจาก อ.ส.ค. เป็นผู้มอบอำนาจ แล้วถ้า อ.ส.ค.ไม่ได้สั่ง จะไปทำได้อย่างไร แล้ว อ.ส.ค. จะฟ้องบริษัทนั้น ถ้าได้รับมอบอำนาจแล้วไม่ไปขาย แล้วส่งนมตามสัญญา
"แต่ถ้า อ.ส.ค. สั่ง จะเป็นเรื่อง ระหว่าง อ.ส.ค.กับหน่วยงานรัฐนั้นๆ ก็ไม่เกี่ยวกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมนมโรงเรียน แต่ถ้า อ.ส.ค.มาร่วมด้วย วันที่ 2 ธ.ค.เชื่อว่าผู้ประกอบการจะมาร่วม เนื่องจาก อ.ส.ค.เป็นเจ้าของสิทธิ์โควตา มีสิทธิ์ที่จะไม่ให้บริษัท หนึ่งบริษัทใดก็ได้ เมื่อให้มาแล้วหน้าที่ของเราก็ต้องปฏิบัติตามสัญญา คือ ไปขายแล้วส่งนมโรงเรียนให้กับเด็กนักเรียน"