ไทยรั้งส่งออกข้าวเบอร์2ของโลกเป็นรองแค่อินเดีย

08 ธ.ค. 2565 | 18:30 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ธ.ค. 2565 | 20:57 น.

ไทยรั้งส่งออกข้าวเบอร์2ของโลก แซงคู่แข่งอย่างเวียดนาม เป็นรองแค่อินเดีย ผู้ส่งออกข้าวชี้มั่นใจทั้งปีไทยส่งออกข้าวทะลุเป้า7.5ล้านตัน

"ข้าว" ถือว่าเป็นสินค้าเกษตรหลักของไทยในการส่งออก ไทยเคยเป็นเบอร์1ของการส่งออกข้าวโลก ก่อนจะเสียแชมป์ให้กับอินเดีย อย่างไรก็ตามไทยยังคงรั้งเบอร์2ของการส่งออกข้าวแซงหน้าเวียดนามแบบเฉียดฉิว ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์และสมาคมผู้ส่งออกข้าวมั่นใจว่าการส่งออกข้าวไทยปีนี้จะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้7.5ล้านตัน

 

ไทยรั้งส่งออกข้าวเบอร์2ของโลกเป็นรองแค่อินเดีย

 

โดย 5 ประเทศส่งออกข้าวมากที่สุด 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.65)เบอร์1 ยังคงเป็น อินเดีย มีปริมาณส่งออก 17.06 ล้านตัน  ตามด้วยไทยมีปริมาณส่งออก  6.02 ล้านตัน และอันดับสาม เวียดนาม มีปริมาณส่งออก  6.01ล้านตัน   ปากีสถาน  มีปริมาณส่งออก 3.40ล้านตัน   และสหรัฐอเมริกา มีปริมาณส่งออก 1.90ล้านตัน

 

ไทยรั้งส่งออกข้าวเบอร์2ของโลกเป็นรองแค่อินเดีย

 

สำหรับประเทศผู้นำเข้าข้าวไทยมากที่สุด 5 อันดับในช่วง10 เดือนของปีนี้ ประกอบด้วย อิรัก มีปริมาณนำเข้า   1,309,841ตัน  แอฟริกาใต้ มีปริมาณนำเข้า  642,317ตัน  สหรัฐอเมริกา มีปริมาณนำเข้า  546,431ตัน  จีนมีปริมาณนำเข้า    531,088ตัน  และเบนินมี   ปริมาณนำเข้ 301,114ตัน

 

ไทยรั้งส่งออกข้าวเบอร์2ของโลกเป็นรองแค่อินเดีย

 

ทั้งนี้ข้อมูลของกรมศุลกากร การส่งออกข้าวในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-ตุลาคม 2565) มีปริมาณ 6,203,270 ตัน มูลค่า 109,260.8 ล้านบาท (3,175.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) โดยปริมาณเพิ่มขึ้น 33% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 32.4% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี 2564 ที่ส่งออกปริมาณ 4,662,981 ตัน มูลค่า 82,461.8 ล้านบาท (2,631 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งแบ่งเป็นข้าวขาว5%  ปริมาณ3.065ล้านตัน  ข้าวนึ่งปริมาณ 1.204ล้านตัน  ข้าวหอมมะลิ ปริมาณ1.281ล้านตัน  ข้าวหอมไทย ปริมาณ4.01แสนตัน  ข้าวเหนียวปริมาณ2.49แสนตัน

ไทยรั้งส่งออกข้าวเบอร์2ของโลกเป็นรองแค่อินเดีย

 

ส่วนการส่งออกข้าวในเดือนตุลาคม 2565 มีปริมาณ 794,224 ตัน มูลค่า 13,974.1 ล้านบาทซึ่งเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่าส่งออก 24.7% และ 20.5% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2565 ที่ส่งออกปริมาณ 636,731 ตัน มูลค่า 11,595.2 ล้านบาท เนื่องจากในเดือนตุลาคมผู้ส่งออกต่างเร่งส่งมอบข้าวตามสัญญาที่ค้างอยู่จากเดือนก่อนทั้งในส่วนของข้าวขาวและข้าวนึ่ง เพื่อให้ทันใช้ในช่วงเทศกาลปลายปี ประกอบในช่วงนี้ผลผลิตข้าวของไทยมีออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องจึงทำให้มีการส่งมอบได้มากขึ้น

 

ไทยรั้งส่งออกข้าวเบอร์2ของโลกเป็นรองแค่อินเดีย

 

โดยในเดือนตุลาคมมีการส่งออกข้าวขาวปริมาณมากถึง 422,429 ตัน เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนโดยส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศอิรัก จีน ญี่ปุ่น แองโกล่า โมซัมบิก แคเมอรูน เป็นต้น ขณะที่ข้าวนึ่งมีการส่งออกปริมาณ 207,841 ตัน เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ส่วนใหญ่ยังคงส่งไปยังตลาดหลักในแอฟริกา เช่น เบนิน แอฟริกาใต้ บังคลาเทศ เยเมน แคเมอรูน ไนเจอร์ เป็นต้น ส่วนการส่งออกข้าวหอมมะลิ (ต้นข้าว) มีปริมาณ 67,459 ตัน ลดลง 10% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่งไปยังตลาดที่สำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง แคนาดา สิงคโปร์ เป็นต้น

ทั้งนี้คาดว่าในเดือนพฤศจิกายน 2565 การส่งออกข้าวจะอยู่ที่ระดับประมาณ 750,000-800,000 เนื่องจากผู้ส่งออกยังคงมีสัญญาที่ค้างส่งมอบจากเดือนก่อนพอสมคมวร ประกอบกับตลาดที่สำคัญยังคงมีความต้องการนำเข้าอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ปีใหม่ และตรุษจีนในช่วงปลายเดือนมกราคม 2566 และทั้งปีการส่งออกข้าวน่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ 7.5 ล้านตัน

 

ไทยรั้งส่งออกข้าวเบอร์2ของโลกเป็นรองแค่อินเดีย

สำหรับตลาดสำคัญได้แก่ อิรัก แอฟริกาใต้ สหรัฐฯ จีน เบนิน ญี่ปุ่น เซเนกัล แองโกล่า เยเมน ฟิลิปปินส์ โมซัมบิก ฮ่องกง แคนาดา เป็นต้น ขณะที่ภาวะราคาข้าวของไทยในช่วงนี้ยังอยู่ในระดับที่ไม่ห่างจากคู่แข่งมากนัก จึงทำให้ยังสามารถแข่งขันได้ แม้ว่าค่าเงินบาทจะเริ่มแข็งค่าขึ้นตามภาวะตลาดแล้วก็ตามโดยราคาข้าวขาว 5% ของไทย  ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565

  • ข้าวขาว 5%   อยู่ที่ 456 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน
  • เวียดนาม อยู่ที่ 443-447 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน
  • อินเดีย อยู่ที่ 393-397  ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน
  • ปากีสถาน อยู่ที่ 423-427 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน

ส่วนราคาข้าวนึ่ง

  • ไทย อยู่ที่ 470 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน
  • อินเดีย อยู่ที่ 373-377 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน
  • ปากีสถาน อยู่ที่ 453-457 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน