กลุ่มภาคตะวันออกปลุก"การค้า-ลงทุน"3ชาติแนวR-10"ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม"

09 ธ.ค. 2565 | 14:33 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ธ.ค. 2565 | 21:45 น.

สำนักงานพาณิชย์กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก จัดเวทีเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching)ที่ตราด ผนึกความร่วมมือการค้าการลงทุน 3 ชาติ ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม แนวเส้นทาง R-10 อดีตฑูตพาณิชย์ไทยในกัมพูชาแนะโอกาสลงทุนรับนโยบายเพิ่มประชากรของกัมพูชา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  วันที่ 8 ธ.ค. 2565  ที่ห้องประชุมโรงแรมตราดซิตี้  อำเภอเมืองตราด นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วย นายวิทยากร  มณีเนตร  ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานร่วม เปิดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ความร่วมมือทางการค้าระหว่างผู้ประกอบการภาคตะวันออก กับราชอาณาจักรกัมพูชาและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

 

กิจกรรมนี้ดำเนินการภายใต้โครงการยกระดับการค้า เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากภาคตะวันออกสู่สากล เชื่อมโยงการค้าชายแดนและ EEC ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565   ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกลุ่มภาคตะวันออก โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตราด จัดกิจกรรมขึ้นระหว่างวันที่ 8 -9 ธันวาคม 2565 นี้  โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง รองผู้ว่าราชการจังหวัดโพธิสัต รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระตะบอง พาณิชย์จังหวัดในภาคตะวันออก รวมทั้งผู้ประกอบการของทั้ง 3 ประเทศเข้าร่วม

กลุ่มภาคตะวันออกปลุก\"การค้า-ลงทุน\"3ชาติแนวR-10\"ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม\"

กลุ่มภาคตะวันออกปลุก\"การค้า-ลงทุน\"3ชาติแนวR-10\"ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม\"

นางวรัญญา ถนอมพันธุ์  พาณิชย์จังหวัดตราด  กล่าวว่า  กิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ความร่วมมือทางการค้าระหว่างผู้ประกอบการภาคตะวันออก กับราชอาณาจักรกัมพูชาและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดน ระหว่างราชอาณาจักรไทย โดยกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก กับราชอาณาจักรกัมพูชาและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ผ่านเส้นทาง R-10 ไทย - กัมพูชา - เวียดนาม 
 

 

โดยการแสวงหาความร่วมมือและแนวทางการลดข้อจำกัดทางการค้า ขยายโอกาสทางการตลาดสินค้าและบริการ ของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ทั้งยังเป็นการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าของทั้ง 3 ประเทศ  

กลุ่มภาคตะวันออกปลุก\"การค้า-ลงทุน\"3ชาติแนวR-10\"ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม\"

นอกจากการจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ทั้งแบบ Onsite และ Online แล้ว ยังมีการเปิดเวทีสัมมนา เชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกสู่นานาชาติ การสร้างโอกาสความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันบนเส้นทาง R-10  และโอกาสทางการค้า การลงทุน ระหว่าง ประเทศไทย กัมพูชา เวียดนาม และการเชื่อมโยง EEC ผ่านเส้นทาง R-10 อีกด้วย

 

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นับเป็นเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้า ของประเทศทั้ง 3 ผ่านกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ พร้อมทั้งการทำสัญญาซื้อขายระหว่างกัน ซึ่งนับเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระหว่างประเทศทั้ง 3 ได้เป็นอย่างดี  

กลุ่มภาคตะวันออกปลุก\"การค้า-ลงทุน\"3ชาติแนวR-10\"ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม\"

นางจีรนันท์ วงษ์มงคล อดีดอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตไทย ประเทศกัมพูชา กล่าวตอนหนึ่งในการบรรยายพิเศษ หัวข้อ เปิดประตูสู่ตลาดต่างประเทศเพื่อนบ้าน ภายหลัง โควิด - 19  โดยชี้ถึงศักยภาพของประเทศกัมพูชา ที่นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในธุรกิจด้านการศึกษา ธุรกิจเกี่ยวกับเด็ก สถานพยาบาล หรือโรงพยาบาล เนื่องจากธุรกิจด้านนี้กำลังเติบโตจากนโยบาลของรัฐบาล ที่ต้องการเพิ่มจำนวนประชาชนให้มากขึ้น และโรงเรียนเอกชนที่มีไม่เพียงพอ รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชน เพราะธุรกิจด้านนี้ยังมีความต้องการสูง และนักลงทุนไทยมีความเชี่ยวชาญ 

 

 อย่างไรก็ตามหากจะไปลงทุนต้องรู้ว่า ควรจะบุกตลาดในกลุ่มประชากรด้านไหน เพราะชาวกัมพูชามีทั้งกลุ่มผู้ที่ร่ำรวยมาก ผู้มีรายได้ปานกลางและต่ำ จึงต้องควรมองให้ถูกต้อง

กลุ่มภาคตะวันออกปลุก\"การค้า-ลงทุน\"3ชาติแนวR-10\"ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม\"

อีกทั้งในอนาคตชาวจีนจะกลับมาลงทุนเหมือนเดิม ซี่งจังหวัดชายทะเลล้วนแล้วแต่มีกลุ่มทุนจีนไปลงทุนไว้แล้ว แต่ช่วงนี้ปิดชั่วคราว แต่จะกลับมาในอนาคต ซึ่งจะมีชาวจีนมาอยู่อาศัยกว่า 5 ล้านคน จ.ตราดจึงเหมาะที่จะส่งสินค้า โดยเฉพาะอาหารและวัถตุดิบส่งจำหน่ายได้ ซึ่งยังมีโอกาสอีกมาก