สศก. แถลงตัวเลข จีดีพีเกษตร ปี 2566 คาดขยายตัวต่อเนื่อง

15 ธ.ค. 2565 | 05:18 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ธ.ค. 2565 | 12:33 น.

รัฐมนตรีเกษตรฯ เปิดงาน “Year End “ ขึ้นเวทีปาฐกถา เกษตรเข้มแข็ง ประเทศไทยแข็งแกร่ง สศก. แถลงตัวเลข จีดีพีเกษตร ปี 2566 คาดขยายตัวต่อเนื่อง ยังมีปัจจัยเสี่ยง ขัดแย้ง “รัสเซีย-ยูเครน” ราคาน้ำมัน ปุ๋ย สารเคมี วัตถุดิบอาหารสัตว์ โรคพืช สัตว์ เศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเวทีใหญ่สัมมนา Year End ประจำปี แถลงบทสรุปภาวะเศรษฐกิจการเกษตรปี 2565 และแนวโน้มปี 2566“Go Together Better Thailand เกษตรเข้มแข็ง ประเทศไทยแข็งแกร่ง” โดยมี ดร.เฉลิมชัยศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ “เกษตรเข้มแข็ง ประเทศไทยแข็งแกร่ง” และมอบโล่ให้แก่เศรษฐกิจการเกษตรอาสา (ศกอ.) ดีเด่น ณ สโมสรทหารบก กรุงเทพมหานคร

 

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน

 

โอกาสนี้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวปาฐกถาโดยสรุปว่า ภาคเกษตรเป็นภาคการผลิตที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม แม้ว่า GDP ภาคเกษตรจะมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 8.5 ของ GDP ทั้งประเทศ แต่ภาคเกษตรยังคงมีบทบาทสำคัญต่ออนาคตของประเทศไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าภาคเศรษฐกิจอื่น

 

 

โดยมีเนื้อที่ทางการเกษตร 149.25 ล้านไร่ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 46.5 ของเนื้อที่ทั้งประเทศ มีสัดส่วนแรงงานภาคเกษตรประมาณร้อยละ 50 ของจำนวนแรงงานทั้งประเทศ และที่สำคัญ ภาคเกษตรเป็นแหล่งวัตถุดิบหรือต้นน้ำของอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นแหล่งผลิตอาหารเลี้ยงประชากรในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศ สร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี

 

ภาพรวมเศรษฐกิจโลก

 

โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์เฉลี่ยอยู่ที่ 1.39 ล้านล้านบาทต่อปี และมีดุลการค้าเกินดุลเฉลี่ย8.6 แสนล้านบาทต่อปีนอกจากนี้ ภาคเกษตรยังเป็นทางรอด ช่วยรองรับและโอบอุ้มเศรษฐกิจไทยในวิกฤตการณ์ต่าง ๆ เป็นแหล่งรองรับแรงงานที่ถูกเลิกจ้างจากภาคเศรษฐกิจอื่น ช่วยบรรเทาผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมในช่วงที่ประเทศประสบปัญหา ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 หรือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2563 ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน

 

 

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้วางยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคเกษตร 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (1) ตลาดนำการผลิต (2) เทคโนโลยีเกษตร 4.0 (3) เกษตรปลอดภัย เกษตรมั่นคง และเกษตรยั่งยืน (Safety-Security-Sustainability) หรือ 3’s (4) การบริหารเชิงรุกแบบบูรณาการกับทุกภาคส่วน และ (5) เกษตรกรรมยั่งยืนตามแนวทางศาสตร์พระราชาให้เกษตรกรสามารถก้าวทันและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ

 

สศก. แถลงตัวเลข จีดีพีเกษตร ปี 2566 คาดขยายตัวต่อเนื่อง

ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่และความต้องการของเกษตรกร เพื่อรองรับวิกฤตในอนาคตอย่างรอบด้าน ทั้งการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่และนวัตกรรมด้านการเกษตรมาใช้เพื่อเพิ่มผลผลิตและทดแทนแรงงานภาคเกษตรที่มีแนวโน้มลดลง พัฒนาฐานข้อมูล Big Data เพิ่มช่องทางให้เกษตรกรสามารถเข้าใช้ประโยชน์ข้อมูลในการวางแผนการผลิตและการตลาด เช่น Mobile Application (One App)

สศก. แถลงตัวเลข จีดีพีเกษตร ปี 2566 คาดขยายตัวต่อเนื่อง

 

การสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพให้เข้าถึงที่ดินทำกินและแหล่งเงินทุน การประกันภัยพืชผลส่งเสริมเกษตรอัจฉริยะและเกษตรแม่นยำสูงยกระดับสู่เกษตรมูลค่าสูง เพื่อช่วยสร้างเสถียรภาพทางรายได้และความมั่นคงในอาชีพแก่เกษตรกร รวมทั้งการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ด้านการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันภาคเกษตร

 

 

 

สศก. แถลงตัวเลข จีดีพีเกษตร ปี 2566 คาดขยายตัวต่อเนื่อง

 

“การขับเคลื่อนภาคการเกษตรให้เข้มแข็งและเติบโตอย่างมั่นคง รวมถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับวิกฤตต่าง ๆ ในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ กุญแจสำคัญ คือ ความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตลอดโซ่อุปทาน ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทางแน่นอนว่า ประเทศไทยจะแข็งแกร่งไม่ได้ถ้าภาคเกษตรไม่เข้มแข็ง เพราะภาคเกษตร คือ รากฐานวิถีชีวิตของสังคมไทย และเกษตรกร เป็นอาชีพที่ผลต่อความมั่นคงทางด้านอาหาร มีผลต่อระบบเศรษฐกิจหลักของประเทศ ดังนั้น มาร่วมมือกัน สร้างรากฐานภาคเกษตรไทยให้เข้มแข็ง เพื่อประเทศไทยที่แข็งแกร่งไปด้วยกัน” ดร.เฉลิมชัย กล่าว

 

สศก. แถลงตัวเลข จีดีพีเกษตร ปี 2566 คาดขยายตัวต่อเนื่อง

 

ด้านนายฉันทานท์ วรรณเขจร เลขาธิการ สศก. กล่าวว่า งานสัมมนาในวันนี้นอกจากมีการเสวนาในหัวข้อ “แรงบันดาลใจสู่เกษตรไทยเข้มแข็ง”มีผู้ร่วมการเสวนาประกอบด้วยนายสุพจน์ โคมณี เกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ นางสาวนัยนา ยังเกิดบุคคลที่เปลี่ยนมาทำอาชีพเกษตร นายนิพนธ์ พิลาผู้ประกอบการ และนายสันติภาพ จุลิวัลลี ผู้สร้างเครือข่ายการผลิตและการตลาดโดยมีนายวินิต อธิสุข รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเป็นผู้ดำเนินการเสวนาแล้ว

 

 

สศก. อยากฝากประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม ว่าขณะนี้ สศก. ได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชันในชื่อ “บอกต่อ” ซึ่งจะบอกให้เกษตรกรได้ทราบว่า จะสามารถขอรับปัจจัยการผลิตขอรับบริการตรวจและรับรองต่างๆ ได้ที่ไหน อย่างไรรวมถึงมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ สถานการณ์การผลิต ราคาสินค้าเกษตร และสถานการณ์ภัยพิบัติต่างๆ โดยจะพัฒนาแล้วเสร็จในเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและภาคเกษตร

 

สศก. แถลงตัวเลข จีดีพีเกษตร ปี 2566 คาดขยายตัวต่อเนื่อง

 

สำหรับภาวะเศรษฐกิจการเกษตรปี 2565 ขยายตัวร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับปี 2564โดยสาขาพืช สาขาบริการทางการเกษตร และสาขาป่าไม้ ขยายตัวขณะที่สาขาปศุสัตว์และสาขาประมงหดตัว ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุน คือ ปริมาณน้ำฝนในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 มีมากกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่สำคัญและในแหล่งน้ำตามธรรมชาติมากขึ้นเพียงพอสำหรับการเพาะปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และทำประมง รวมถึงสภาพอากาศโดยทั่วไปที่เอื้ออำนวย ทำให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้น ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดในช่วงปีที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ดี จูงใจให้เกษตรกรเพิ่มการผลิตและมีการบำรุงดูแลรักษามากขึ้น การดำเนินนโยบายและมาตรการของภาครัฐ และความร่วมมือของทุกภาคส่วนในด้านต่าง ๆ

 

สศก. แถลงตัวเลข จีดีพีเกษตร ปี 2566 คาดขยายตัวต่อเนื่อง

 

อาทิ การส่งเสริมอาชีพเกษตรทั้งด้านการใช้เทคโนโลยีในการผลิตและใช้ปัจจัยการผลิตอย่างเหมาะสมเพื่อลดต้นทุนการผลิต การเฝ้าระวังโรคพืช และสัตว์ การบริหารจัดการน้ำและให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติ การยกระดับสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพมาตรฐาน และบริหารจัดการสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด

 

สศก. แถลงตัวเลข จีดีพีเกษตร ปี 2566 คาดขยายตัวต่อเนื่อง

 

รวมถึงการขยายช่องทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ทำให้เกษตรกรสามารถทำการผลิตได้ต่อเนื่องและมีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าเกษตรมากขึ้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อาทิ โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” และ “คนละครึ่ง” ทำให้คนไทยมีการเดินทางท่องเที่ยวและใช้จ่ายในการบริโภคสินค้าเกษตรและอาหารเพิ่มขึ้น การผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 การเปิดประเทศ และเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว นอกจากนี้ เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าปรับตัวดีขึ้น และความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าเกษตรของไทย ส่งผลให้การส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ขยายตัวได้มากขึ้น

 

โครงการ คนละครึ่ง

 

ส่วนปัจจัยลบ คือปรากฏการณ์ลานีญาที่มีกำลังแรงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีรวมถึงอิทธิพลของลมมรสุมและพายุที่เข้ามาหลายระลอกในช่วงไตรมาส 3 โดยเฉพาะ พายุ “โนรู” ที่พัดเข้าไทยโดยตรงในช่วงปลายเดือนกันยายน ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากเกือบทั้งประเทศ ขณะที่มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติสะสมอยู่มาก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคเหนือ

 

สศก. แถลงตัวเลข จีดีพีเกษตร ปี 2566 คาดขยายตัวต่อเนื่อง

 

ซึ่งพื้นที่ทางการเกษตรและผลผลิตบางส่วนได้รับความเสียหายประกอบกับราคาปัจจัยการผลิตที่สูงขึ้นทั้งราคาน้ำมัน ปุ๋ย สารกำจัดศัตรูพืช และวัตถุดิบอาหารสัตว์ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าเกษตรสูงขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโรคสัตว์ ทำให้มีการชะลอการเลี้ยง ควบคุมปริมาณการผลิต นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกประเทศ อาทิ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ มาตรการ Zero-COVID ของจีน และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ของไทย

 

สาขาพืช

 

เมื่อพิจารณาแต่ละสาขา พบว่า สาขาพืชขยายตัวร้อยละ 2.1 เนื่องจากปริมาณน้ำที่มีเพียงพอสำหรับการเพาะปลูกพืช รวมถึงราคาสินค้าพืชหลายชนิดอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง จูงใจให้เกษตรกรขยายการเพาะปลูกและเอาใจใส่ในการบำรุงดูแลผลผลิตพืชมากขึ้น แม้ว่าในช่วงปลายไตรมาส 3 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 4 บางพื้นที่ของประเทศจะได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนักและปัญหาน้ำท่วมทำให้ผลผลิตบางส่วนเสียหายแต่การผลิตพืชส่วนใหญ่ยังคงเพิ่มขึ้น โดยพืชสำคัญที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวนาปรัง อ้อยโรงงาน สับปะรดโรงงาน ปาล์มน้ำมัน ลำไย และทุเรียน ส่วนพืชที่ลดลง ได้แก่ มันสำปะหลัง ยางพารา มังคุด และเงาะ

 

สศก. แถลงตัวเลข จีดีพีเกษตร ปี 2566 คาดขยายตัวต่อเนื่อง

 

สาขาปศุสัตว์ หดตัวร้อยละ 3.0 โดยสินค้าปศุสัตว์ที่ลดลง ได้แก่ สุกร ไข่ไก่ และน้ำนมดิบ สำหรับสุกรมีผลผลิตลดลง เนื่องจากปริมาณแม่พันธุ์สุกรในระบบลดลงจากความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร ขณะที่เกษตรกรบางส่วนชะลอการเลี้ยงจากราคาพันธุ์สุกรและอาหารสัตว์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ไข่ไก่มีผลผลิตลดลง เนื่องจากการดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่

 

สศก. แถลงตัวเลข จีดีพีเกษตร ปี 2566 คาดขยายตัวต่อเนื่อง

 

โดยมีการปรับลดปริมาณแม่ไก่ยืนกรง และน้ำนมดิบมีผลผลิตลดลง เนื่องจากการระบาดของโรคลัมปีสกินในโคนม ทำให้แม่โคผสมพันธุ์ติดยากและรีดนมได้ลดลง สินค้าปศุสัตว์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ไก่เนื้อ และโคเนื้อ โดยไก่เนื้อมีผลผลิตเพิ่มขึ้นจากการขยายการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศและโคเนื้อมีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกษตรกรมีการควบคุมและป้องกันโรคระบาดอย่างเข้มงวด รวมทั้งภาครัฐมีการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคลัมปีสกินในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง

 

สศก. แถลงตัวเลข จีดีพีเกษตร ปี 2566 คาดขยายตัวต่อเนื่อง

สาขาประมงหดตัวร้อยละ2.0 เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนมีมรสุมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นส่งผลต่อต้นทุนการทำประมง โดยสัตว์น้ำที่นำขึ้นท่าเทียบเรือมีปริมาณลดลงอย่างมาก ขณะที่ปลานิลและปลาดุกมีผลผลิตลดลงเช่นเดียวกัน เนื่องจากเกษตรกรบางรายลดปริมาณการปล่อยลูกพันธุ์ปลาเพื่อลดภาระต้นทุนค่าอาหารที่สูงขึ้น ประกอบกับฝนตกชุกต่อเนื่องในช่วงเดือนสิงหาคม 2565 และอิทธิพลของพายุโนรูในช่วงปลายเดือนกันยายน 2565 ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในแหล่งเลี้ยงปลานิลและปลาดุกในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

 

อย่างไรก็ตามกุ้งทะเลเพาะเลี้ยงมีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกษตรกรมีการบริหารจัดการที่ดีขึ้น แม้ว่าเกษตรกรบางส่วนยังคงประสบปัญหาการระบาดของโรคกุ้ง เช่น โรคขี้ขาว ไวรัสตัวแดงดวงขาว โรคหัวเหลือง และต้นทุนอาหารที่เพิ่มขึ้น

สศก. แถลงตัวเลข จีดีพีเกษตร ปี 2566 คาดขยายตัวต่อเนื่อง

 

สาขาบริการทางการเกษตรขยายตัวร้อยละ 2.7เนื่องจากปริมาณน้ำที่มีเพียงพอ ทำให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรัง และราคาอ้อยโรงงานที่อยู่ในเกณฑ์ดีทำให้มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกพืชชนิดอื่นมาปลูกอ้อยโรงงานมากขึ้น ส่งผลให้การจ้างบริการเตรียมดินและเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปรังและอ้อยโรงงานเพิ่มขึ้น

 

 

สาขาป่าไม้ขยายตัวร้อยละ 2.0เนื่องจากผลผลิตไม้ยูคาลิปตัส ถ่านไม้ ครั่ง และรังนกเพิ่มขึ้นโดยไม้ยูคาลิปตัสเพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้ในการแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล และอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น การผลิตเยื่อกระดาษ การก่อสร้าง ถ่านไม้เพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้ภายในประเทศของธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารครั่งเพิ่มขึ้นจากการส่งเสริมการเลี้ยงภายในประเทศ และมีความต้องการเพื่อเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมหมึกพิมพ์ เป็นต้น และรังนกมีความต้องการจากประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง

 

 

แนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 2.0 – 3.0 โดยมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่มีเพียงพอสำหรับการทำเกษตรการดำเนินนโยบายและมาตรการของภาครัฐด้านการเกษตรในทุกมิติอย่างต่อเนื่องและเศรษฐกิจไทยปี 2566 ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดีขึ้น

 

ปัจจัยเสี่ยง

 

อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรปี 2566 ยังมีปัจจัยเสี่ยงและสถานการณ์สำคัญที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่มีความแปรปรวนมากขึ้น ราคาปัจจัยการผลิตที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้งราคาน้ำมัน ปุ๋ย สารเคมีกำจัดโรคและแมลง และวัตถุดิบอาหารสัตว์

 

สศก. แถลงตัวเลข จีดีพีเกษตร ปี 2566 คาดขยายตัวต่อเนื่อง

 

การระบาดของโรคพืชและสัตว์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ รวมถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่อาจกลับมาระบาดเป็นวงกว้างอีกครั้งซึ่งส่งผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศและเศรษฐกิจโลก