นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยเปิดเผยวันนี้ว่า ตามที่ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้หาแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน
โดยคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยมีมติเห็นชอบให้กรมประมงดำเนินการยกร่างกฎกระทรวงยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่มีการเลี้ยงหอยทะเลและการเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังในพื้นที่ทั่วประเทศและเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาล่าสุด ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้ลงนามในกฎกระทรวงดังกล่าวแล้วและนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบเพื่อให้มีผลบังคับใข้โดยเร็วต่อไป
“เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกว่า 17,000 ราย ในพื้นที่ 67 จังหวัดที่มีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จะได้รับการยกเว้น 1 รอบใบอนุญาต ตั้งแต่วันที่กฎกระทรวงนี้มีผลบังคับใช้ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ทั้งนี้เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้เกษตรกร คิดเป็นเงินกว่า 50 ล้านบาท และนับเป็นครั้งที่2"
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรฯยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตดังกล่าว โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเร่งเสนอร่างกฎกระทรวงเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติ “ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้แก่พี่น้องเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงหอยทะเล สัตว์น้ำในกระชัง และสัตว์น้ำอื่นๆ ที่ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน นับเป็นของขวัญปีใหม่
สำหรับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทั่วประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้มีของขวัญปีใหม่ 2566 ให้ชาวประมงด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 5 พันล้านและยังมีของขวัญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ด้านนายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมาเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ชาวประมง และผู้ประกอบการภาคประมง ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด – 19 ซึ่งดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีนโยบายมอบหมายให้กรมประมงหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง
อาทิ ช่องทางการจำหน่ายสินค้า การอำนวยความสะดวกในการขออนุญาตต่างๆ การลดค่าธรรมเนียมการขออนุญาตต่างๆ ฯลฯเพื่อให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนในการประกอบอาชีพและสร้างรายได้แก่ครอบครัว จึงเป็นอีกหนึ่งนโยบายการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำซึ่งการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกรมประมงมุ่งมั่นในการบริหารจัดการทรัพยากรประมงให้มีความยั่งยืนเพื่อความอยู่ดีมีสุขของพี่น้องเกษตรกร ชาวประมง และผู้ประกอบการด้านประมง และสร้างความมั่นคงด้านอาชีพประมงและด้านเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม.