บาทแข็งโป๊ก “ข้าว” หยุดรับออเดอร์ จี้แบงก์ชาติดูแลด่วน

22 ม.ค. 2566 | 09:11 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ม.ค. 2566 | 13:08 น.

สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย พ้อแบงก์ชาติ ลอยแพผู้ส่งออก ปล่อยบาทแข็งโป๊ก ทำข้าวไทยแพงห่างอินเดียกว่า 138 ดอลลาร์ต่อตัน จี้ดูแลให้เสถียร หลังต้องเบรกรับออเดอร์ หวั่นขาดทุนอ่วม ห่วงอิรักซื้อน้อยลง ฉุดราคาข้าวในประเทศ ขณะ 10 อันดับส่งออกข้าวปี 65 “ธนสรรไรซ์” ขยับขึ้นอันดับ 3

ปี 2566 เริ่มต้นศักราชใหม่ได้ไม่ถึงเดือนผู้ส่งออกไทยต้องพบกับฝันร้ายเงินบาทแเข็งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเป็นสกุลที่แข็งค่ามากสุดของเอเชีย ส่งผลสินค้าเกษตรส่งออกที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลักราคาสูงขึ้นมากกว่าคู่แข่งขัน เฉพาะอย่างยิ่ง “ข้าว” สินค้าเกษตรส่งออกหลักของประเทศ ที่ในปีที่ผ่านมาเงินบาทอ่อนค่าช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านราคา คาดทั้งปี 2565 จะส่งออกได้เกินเป้าหมายจากที่ตั้งเป้าไว้ที่ 7.5 ล้านตัน

เจริญ เหล่าธรรมทัศน์

นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในปี 2566 ยังไม่ได้กำหนดเป้าหมายการส่งออกข้าว ต้องหารือกับทางกระทรวงพาณิชย์ก่อน อย่างไรก็ดีจากค่าเงินบาทที่ผันผวนมาก ปีที่ผ่านมาจากที่เคยอ่อนค่าไปที่ระดับ 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เวลานี้แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 32-33 บาทต่อดอลลาร์ภายใน 3 เดือน ทำให้เวลานี้ทั้งผู้ส่งออกและผู้นำเข้าข้าวต่างชะลอดูสถานการณ์ และไม่รู้จะตั้งราคาซื้อขายกันอย่างไร หากรับคำสั่งซื้อในช่วงนี้อาจขาดทุนจากค่าเงินที่แกว่งมากได้ เพราะก่อนหน้านี้ผู้ส่งออกหลายรายได้ส่งมอบข้าวไปในเดือนธันวาคม กว่าจะได้เงินก็เดือนกุมภาพันธ์

บาทแข็งโป๊ก “ข้าว” หยุดรับออเดอร์ จี้แบงก์ชาติดูแลด่วน

 

“ตอนนั้นผู้ส่งออกขายข้าวไปที่ค่าเงิน 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เวลารับเงินเหลือ 33 บาท หรืออาจตํ่าสุดที่ 32 บาทกว่าต่อดอลลาร์ด้วยซํ้า และกลุ่มที่ขายไปที่ค่าเงิน 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ คาดจะขาดทุนระนาว อย่างตํ่า 6-7% ซึ่งประเทศไทยมีสินค้าเกษตรพวกพืชไร่ ไม่ว่าจะเป็นปาล์ม ข้าว อ้อย สับปะรด สินค้า Commodity (โภคภัณฑ์) ที่มีมาร์จิ้น หรือกำไรไม่มาก ค่าเงินบาทแกว่งนิดเดียวก็อาจขาดทุนได้”

 

 

 

นายเจริญ กล่าวอีกว่า เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ ทำให้ผู้ส่งออกยังไม่กล้ารับคำสั่งซื้อ เพราะไม่รู้ว่าค่าเงินบาทในเดือนหน้าจะเป็นเท่าไร ที่ผ่านมาทางสมาคม และผู้ส่งออกในสินค้าอื่น ๆ ก็พยายามออกมาพูดเพื่อให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ช่วยดูแลค่าเงินบาทให้เสถียร สอดคล้องกับค่าเงินของภูมิภาคไม่ให้อ่อนค่าหรือแข็งค่ามากกว่าสกุลเงินอื่นมาก เพราะหากบาทไม่แกว่งมากก็สามารถตั้งราคาขายข้าวได้

เงินบาทแข็งค่าทีสุดในเอเชีย

 “จากค่าเงินบาทแข็งค่า ราคาข้าวไทย ชนิดข้าวขาว 5 % ณ วันที่ 11 มกราคม ขยับราคาขึ้นมาอยู่ที่ 511 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน เทียบกับข้าวชนิดเดียวกันจากอินเดียห่างกันกว่า 138 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน โดยข้าวอินเดียอยู่ที่ 373-377 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน จากก่อนหน้านี้ราคาข้าวไทยอยู่ที่ 400 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ทำให้ขายข้าวได้เพิ่มขึ้น"

ค่าเงินรูปี

ขณะที่เวลานี้ค่าเงินรูปีของอินเดีย อยู่ที่ 81-82 รูปีต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย เมื่อค่าเงินและราคาข้าวห่างกันอย่างนี้ ข้าวไทยคงแข่งขันลำบาก เพราะจะสูงขึ้นมากไม่มีคนซื้อ ส่วนผู้ส่งออกก็ไม่มีใครกล้าขาย จนกว่าเงินบาทจะนิ่ง

 

เปิด 10 อันดับผู้ส่งออกข้าวไทย ปี 2565 ส่วนการทำประกันความเสี่ยงค่าเงิน เงื่อนไขของธนาคารก็ขึ้นอยู่กับเครดิตของบริษัทนั้นๆ ด้วย ไม่ใช่คิดเท่าไร ธนาคารจะรับ ซึ่งธนาคารก็กลัวขาดทุนเช่นกัน หากเป็นอย่างนี้เมื่อผู้ส่งออกได้รับผลกระทบก็จะลามกระทบถึงโรงสีที่ขายข้าวให้ผู้ส่งออกเป็นลูกโซ่

 

 

ศุภชัย วรอภิญญาภรณ์

ด้าน นายศุภชัย วรอภิญญาภรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท ธนสรรไรซ์ จำกัด ผู้ส่งออกข้าวอันดับ 3 ประจำปี 2565 รองจากกลุ่มเอเซีย โกลเด้นไรซ์ และกลุ่มนครหลวงค้าข้าว กล่าวว่า ปี 2566 คาดการส่งออกข้าวไทยไปตลาดอิรักที่กลับมาซื้อข้าวไทยรอบ 7 ปีในปีนี้จะยังมีต่อเนื่อง รวมถึงอินโดนีเซียคาดจะมาซื้อข้าวไทยเพิ่ม ช่วยเพิ่มความคึกคักของตลาด โดยเวลานี้อินโดนีเซียซื้อไปหลายรอบแล้ว เป็นข้าวขาว 5% สาเหตุที่สั่งซื้อน่าจะเป็นเพราะสต๊อกในประเทศมีน้อยลง

“แต่ที่น่ากังวลเวลานี้คือราคาข้าวไทยแพงขึ้น จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาที่ 32 บาทกว่าต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จากเงินบาทที่เหมาะสมต่อการส่งออกควรอยู่ที่ 35-36 บาทต่อดอลลาร์ เพื่อทำให้ข้าวไทยพอแข่งขันด้านราคาได้ หากค่าเงินบาทยังเป็นเช่นนี้ข้าวขาวไปอิรักจะแตะ 500 ดอลาร์สหรัฐฯต่อตัน จากที่เคยขายประมาณ 430-440 ดอลลาร์สหรัฐฯในปีที่ผ่านมา ที่ค่าเงินบาท 38 บาทต่อดอลลาร์ ทั้งนี้หากอิรักไม่ซื้อ หรือซื้อน้อยลง(ปี 2565 อิรักซื้อข้าวไทยประเทศเดียวมากกว่า 1.3 ล้านตัน) เชื่อเลยว่าจะได้เห็นราคาข้าวในประเทศของไทยตกตํ่าตามมา”

เปิดแฟ้ม 10 อันผู้ส่งออกข้าวไทย ย้อนหลัง  3  ปี 

ประจำปี 2565 (คลิกอ่าน)

บาทแข็งโป๊ก “ข้าว” หยุดรับออเดอร์ จี้แบงก์ชาติดูแลด่วน

 

ปี 2564  (คลิกอ่าน

บาทแข็งโป๊ก “ข้าว” หยุดรับออเดอร์ จี้แบงก์ชาติดูแลด่วน

ปี 2563 (คลิกอ่าน

บาทแข็งโป๊ก “ข้าว” หยุดรับออเดอร์ จี้แบงก์ชาติดูแลด่วน

หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,855 วันที่ 22-25 มกราคม พ.ศ. 2566