“อลงกรณ์” ลุยอีสานแก้ปัญหาเกษตร-ประมงลุ่มน้ำโขงยั่งยืน

10 ก.พ. 2566 | 13:14 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.พ. 2566 | 13:33 น.

“อลงกรณ์”นำทีมเกษตรลุยอีสานผนึกเครือข่ายประชาชน 8 จังหวัดแก้ปัญหาผลกระทบภาคเกษตรและประมงจากการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศของแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน ภายใต้แผนฯปี 2566 – 2570 งบกว่า 7,770 ล้านบาท

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อภาคการเกษตรและประมงจากการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศของแม่น้ำโขง ครั้งที่ 1/2566 (เฉพาะกิจ) และติดตามผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาด้านการเกษตรและด้านประมงในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ.2566 – 2570 ณ โรงแรมบลู โฮเทล นครพนม จ.นครพนม(10 ก.พ. 2566) ว่า

กระทรวงเกษตรฯ มีความมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำโขง ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศ โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 เพื่อร่วมกำหนดทิศทางการดำเนินงานโครงการที่เกี่ยวข้องและขับเคลื่อนแผนพัฒนาด้านการประมงในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2566 – 2570

“อลงกรณ์” ลุยอีสานแก้ปัญหาเกษตร-ประมงลุ่มน้ำโขงยั่งยืน

ประกอบด้วย 2 แนวทาง ได้แก่ 1.การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำโขง และ 2. การบริหารจัดการด้านการประมงและทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีความยั่งยืนและคงความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ลุ่มน้ำ โดยบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรม (AIC) ประจำจังหวัด ภาคประชาชน และหน่วยงานในพื้นที่กลุ่มลุ่มน้ำโขง 

การประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งนี้เป็นการประชุมเฉพาะกิจนอกพื้นที่ครั้งแรกร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินโครงการ/กิจกรรม ด้านการประมงและด้านการเกษตร แบ่งเป็น ด้านการประมง รวมจำนวน 31 โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น 13.01 ล้านบาท พื้นที่ดำเนินการ 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

“อลงกรณ์” ลุยอีสานแก้ปัญหาเกษตร-ประมงลุ่มน้ำโขงยั่งยืน

สำหรับการขับเคลื่อนโครงการ อาทิ โครงการการจัดการระบบนิเวศปลาหน้าวัด, โครงการธนาคารผลผลิตเกษตรด้านการประมงสนับสนุนธนาคารผลผลิตสัตว์น้ำแบบมีส่วนร่วม, กิจกรรมส่งเสริมเยาวชนนักเพาะเลี้ยง, โครงการเพาะพันธุ์ปลายี่สกไทย (ปลาเอิน) ในแม่น้ำโขง เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในพื้นที่แม่น้ำโขงและลำน้ำสาขา และโครงการพัฒนาอาชีพการเลี้ยงปลาตะเพียนขาวในบ่อดิน เป็นต้น

ด้านการเกษตร สำนักแผนงานและโครงการพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สป.กษ.) ได้สรุปแผนงาน/โครงการภายใต้แผนพัฒนาการเกษตรในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืนระดับจังหวัด ปี 2566 – 2570 (ฉบับทบวน) รวมจำนวน 794 โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น 7,770.59 ล้านบาท

แบ่งเป็น งบจังหวัด/กลุ่มจังหวัด 304 โครงการ งบประมาณ 1,124.04 ล้านบาท งบปกติ 375 โครงการ งบประมาณ 6,600.92 ล้านบาท และงบอื่น ๆ 70 โครงการ งบประมาณ 45.62 ล้านบาท โดยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงนามหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาบรรจุแผนงาน/โครงการไว้ในคำของบประมาณประจำปีของหน่วยงานต่อไป

  • ที่ประชุมยังได้หารือและรับทราบในเรื่องอื่น ๆ ได้แก่

1. แนวทางการดำเนินการรักษาพันธุ์ปลาบึกในแม่น้ำโขง โดยกรมประมง ซึ่งมี 2 แนวทาง คือการอนุรักษ์นอกถิ่นแม่น้ำโขง โดยการปล่อยลงในแหล่งน้ำภายในประเทศ ซึ่งกรมประมงจะใช้แม่พันธุ์ปลาบึกรุ่น F1 เพื่อผลิตปลาบึกรุ่น F2 ที่ยังคงความหลากหลายทางพันธุกรรมและยังคงสามารถรักษาไว้ได้จากเดิมให้มากที่สุด โดยปลาบึกรุ่นลูก F2 นี้ สามารถนำไปเลี้ยงไว้ในอ่างเก็บน้ำเพื่อเป็นการนกษาพันธุ์ปลาลึกไว้นอกแหล่งที่อยู่อาศัย และใช้ประโยชน์เพื่อการเพาะเลี้ยงต่อไปได้ในอนาคต และอีกแนวทางคือ การสนับสนุนการเพาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์ให้แก่เกตรกร เนื่องจากปลาบึกมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง

“อลงกรณ์” ลุยอีสานแก้ปัญหาเกษตร-ประมงลุ่มน้ำโขงยั่งยืน

2. ความก้าวหน้าการดำเนินการของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาการเกษตรในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน ทบทวนแผนพัฒนาการเกษตร ในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน โดยสำนักแผนงานและโครงการพิเศษ สป.กษ. ได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 8 จังหวัด รับทราบและดำเนินการตามแผนพัฒนาการเกษตรในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ.2566 – 2570 และแผนพัฒนาด้านการประมงในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2566 – 2570 แล้ว

3. ความก้าวหน้าการศึกษาพลับพลึงแม่น้ำโขงและแผนการนำพลับพลึงแม่น้ำโขงกลับไปปลูกคืนถิ่นเดิม

นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะผลักดันและสนับสนุนการพัฒนาด้านการประมงในพื้นที่แม่น้ำโขงร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติสร้างความมั่นคงด้านอาชีพ พัฒนาขีดความสามารถในทุกด้าน เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชนและเกษตรกร และคงความหลากหลายของทรัพยากรประมงในแม่น้ำโขงได้อย่างยั่งยืนต่อไป

“อลงกรณ์” ลุยอีสานแก้ปัญหาเกษตร-ประมงลุ่มน้ำโขงยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่จังหวัดนครพนมในครั้งนี้ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ พร้อมคณะ ได้ร่วมกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลายี่สกไทยและพันธุ์ปลาหายากใกล้สูญพันธุ์ลงสู่แม่น้ำโขง จำนวน 60,000 ตัว ภายใต้แผนการดำเนินโครงการเพาะพันธุ์ปลายี่สกไทย (ปลาเอิน) ในแม่น้ำโขง เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในพื้นที่แม่น้ำโขงและลำน้ำสาขา และในปี 2566 กรมประมงได้ตั้งเป้าการผลิตลูกพันธุ์ปลายี่สกไทยให้ได้จำนวน 2 แสนตัว เพื่อปล่อยคืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ

“อลงกรณ์” ลุยอีสานแก้ปัญหาเกษตร-ประมงลุ่มน้ำโขงยั่งยืน

นอกจากนี้คณะยังได้พบปะกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ปลานิลแม่น้ำโขงอำเภอท่าอุเทน ณ โรงแรมชีวาโขง อ.เมือง ก่อนเดินทางตรวจเยี่ยมกลุ่มแปลงใหญ่ปลาสวายโมงในกระชังในแม่น้ำโขง ชุมชนบ้านอาจสามารถ อ.เมือง ตลอดจนเยี่ยมชมการสาธิตการเก็บน้ำเชื้อปลายี่สกไทย เพื่อเป็นแนวทางในการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำหายากใกล้สูญพันธุ์ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดนครพนม