นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็กและผู้ใหญ่จำนวน 7 ราย อาทิ บมจ.ดีเอสซี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ผ้าอ้อมเด็ก เบบี้เลิฟ /ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ เซอร์เทนตี้ บจ.ยูนิชาร์ม (ประเทศไทย) ผ้าอ้อมเด็ก มามี่โพโค/ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ไลฟรี่ บจ.พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง หรือ พีแอนด์จี (ประเทศไทย) ผ้าอ้อมเด็กแพมเพิร์ส และ บจ.ฟูเบิร์ด อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) ผ้าอ้อมเด็กทีโน่ /ผ้าอ้อมผู้ใหญ่อันอัน, อันแคร์ ,ฟิลฟรี
หลังจากมีกระแสข่าวว่าจะปรับราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคม ซึ่งทางกรมฯได้รับทราบถึงต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการที่สูงขึ้นก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นค่ากระแสไฟฟ้า ค่าแรง แต่สถานการณ์ในปัจจุบัน
พบว่า ต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าส่งผลทำให้ต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าถูกลง และราคาน้ำมันปรับตัวลดลงแล้ว จึงยังขอความร่วมมือในการตรึงราคาสินค้าในราคาเดิมไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมประชาชน และยังได้ขอความร่วมมือในการนำสินค้าจัดโปรโมชั่นจำหน่ายร่วมกับโครงการของกระทรวงพาณิชย์ ผ่านรถโมบายธงฟ้า งานพาณิชย์ลดราคาทั่วไทย
และในส่วนของห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกและห้างท้องถิ่นนั้น ได้มีการหารือร่วมกัน ให้มีการจัดโปรโมชั่นลดราคาเพื่อข่วยค่าครองชีพให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการเข้าร่วมโครงการของกระทรวงพาณิชย์ส่งผลทำให้ภาพรวมยอดขายในส่วนของผู้ประกอบการค้าปลีกเพิ่มขึ้น10-15% ตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับต้นทุนการผลิตสินค้าที่ลดลงจากสถานการณ์ ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ค่ากระแสไฟฟ้าและราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลงนั้น กรมฯมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้ผู้ประกอบการผลิตสินค้าปรับราคาลงตามต้นทุนที่ลดลงด้วย แต่ต้องยอมรับว่ายังไม่สามารถปรับลดลงได้ในทันที เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการต้องตรึงราคาสินค้าเพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ทางกรมจึงต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ และให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการด้วย แต่แนวโน้มในอนาคตมีโอกาสที่สินค้าหลายรายการจะปรับตัวลดลงได้