นายวุฒิชัย คุณเจตน์ นายกสมาคมทุเรียนไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึง ผลการประชุม (วันที่ 4 เม.ย.66) ได้มีการประชุมหารือกับองค์กรพันธมิตร ได้แก่ สมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยภาคตะวันออก เครือข่ายอาสาพิทักษ์ทุเรียนไทย และสมาคมผู้ผลิตทุเรียนไทย ได้มีระดมความเห็นจากสถานการณ์ราคาทุเรียนในตลาดจีนมีแนวโน้มลดลงตามกลไกตลาด แล้วทุเรียนไทยจะทำยังไง ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเป็นต้นฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียน จากทุเรียนทั้งหมด 124 ตู้ที่ส่งไปจีน มีทุเรียนไทย 92 ตู้ และทุเรียนเวียดนาม 32 ตู้
โดยราคาทุเรียนหมอนทองไทย ประมาณ 900-1,100 หยวน / กล่อง (เฉลี่ย 275 บาท /กก.) ขณะที่ราคาก้านยาวของเวียดนาม ประมาณ 330-380 หยวน / กล่อง (เฉลี่ย 190 บาท / กก.) ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทุเรียนไทยไปจีน โดยสมาคมทุเรียนไทย ได้ประสานสอบถามประเด็นไปยังฝ่ายเกษตร ประจำสถานกงสุล ณ นครเซี่ยงไฮ้ ได้ข้อสรุป 3 ประเด็น ดังนี้
1. ผลผลิตทุเรียนไทยและเวียดนามเข้าประเทศจีนมากขึ้นทำให้ราคาลดลง ในขณะที่ราคาทุเรียนเวียดนามถูกกว่าไทย
2. การขนส่งทางบกมีปริมาณมาก ทำให้รถติดที่ด่าน ผลผลิตตกค้างเวลานาน ส่งผลต่อคุณภาพของผลผลิตลดลง และราคาลดลง
3. คุณภาพของทุเรียนมีผลต่อราคาขายในประเทศจีน
นายวุฒิชัย กล่าวว่า จะเห็นว่าราคาตลาดปลายทางกำลังปรับสมดุล หากเปรียบเทียบราคาปีที่แล้วถือว่ายังเป็นราคาที่ไม่ได้ปรับตัวลงแบบรวดเร็วมากนัก แต่ค่อย ๆ ปรับตัวลงมากกว่า แต่พอเห็นราคาปรับลดลงชาวสวนก็จะตื่นตระหนก จากบางสวนได้ถูกเหมาซื้อยาวไว้แล้ว ก็กลัวว่าทางล้งจะทิ้งหากทำสัญญาไว้ที่ 150 -160 บาท/กก. แล้วราคาตอนนี้กำลังดิ่งลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งอาจจะต่ำกว่าราคาที่ทำสัญญาไว้เมื่อเดือนที่แล้ว ล้งเองอาจจะทิ้งเพราะไม่อยากขาดทุน แบบซื้อแพง ขายถูก
"บางครั้งก็จะมีเกมที่ล้งใช้เล่นกับสวน ในกรณีถ้าสัญญาซื้อไว้แพง ถ้าล้งไม่ทิ้งก็จะปล่อยสวนไว้ให้ตกหล่น จนทำให้สวนต้องปรับลดราคาให้ เมื่อมีประเด็นเช่นนี้ทางที่ประชุมจึงได้มีข้อสรุปขอความร่วมมือชาวสวนทุเรียน และผู้ประกอบการทุกท่าน เพื่อแก้ไขปัญหาไปด้วยกัน เพื่อไม่ให้ชาวสวนตื่นตระหนกกับราคาที่กำลังลง และเร่งตัดนั้นจะทำให้ภาวะราคาที่ตกรุนแรงกว่าความเป็นจริง แล้วตลาดปลายทางตอนนี้ค่อนข้างอืด ดังนี้"
1.ชะลอการตัดทุเรียน โดยไม่ใช้วิธีรูดผลผลิตเพื่อให้ได้ปริมาณมาก เพราะเมื่อสินค้ามีปริมาณที่มากในช่วงเวลาเดียวกับทุเรียนเวียดนามก็จะมีราคาถูก
2. เพื่อลดปัญหารถติดด่านนำเข้าเป็นระยะเวลานาน ส่งผลต่อผลผลิตทุเรียนไม่ได้คุณภาพ จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการเลี่ยงช่องทางขนส่งทางบก และไปขนส่งช่องทางอื่นแทนอาทิ ทางอากาศ และทางเรือ เป็นต้น
3. ขอความร่วมมือชาวสวน มือคัด มือตัด ทุกท่าน ตัดคัดทุเรียนคุณภาพ ไม่ตัดทุเรียนอ่อน เพื่อรักษาตลาดทุเรียนไทยในจีน
ด้าน สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่งได้จัดทำราคาขายปลีกผลไม้จากร้านแฟรนไชส์ขายผลไม้และซุปเปอร์มาร์เก็ตในกรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 16-31 มีนาคม 2566
1.จากการสำรวจซุปเปอร์มาร์เก็ตพบว่าในช่วงนี้ทุเรียนไทยผลสดเริ่มกลับเข้าสู่ตลาด และมีทุเรียนหลาย หลายสายพันธุ์มากขึ้น โดยที่พบเห็นมากที่สุดในช่วงนี้เป็นพันธุ์กระดุม และมีบางห้างร้านที่มีการจำหน่ายทุเรียนพันธุ์เหมาซาน คิงส์และ หมอนทอง และนอกเหนือจากทุเรียนผลสดไทยแล้วยังมีทุเรียนแช่แข็งมาเลเซีย ซึ่งมีบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย สวยงาม หรูหรา และเป็นที่ดึงดูด จากการสอบถามข้อมูลพบว่า ห้างร้านได้ทำความร่วมมือกับผู้ผลิตจากมาเลเซีย โดยการผลิต และส่งกล่องบรรจุภัณฑ์ให้ผู้ประกอบการทุเรียนจากมาเลเซีย เพื่อจะได้มีเอกลักษณ์เป็นของทางร้าน และมีบางห้างร้านที่ใช้ บรรจุภัณฑ์ที่ทำสำเร็จจากมาเลเซียโดยตรง
2.จากการสอบถามความคิดเห็นของพนักงานขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตเกี่ยวกับทุเรียนไทยและทุเรียน มาเลเซีย พนักงานขายให้ความเห็นเกี่ยวกับทุเรียนไทยว่า ทุเรียนไทยที่ขายดีในช่วงนี้เป็นทุเรียนกระดุม เพราะราคาไม่สูงมากนักและมีขนาดพอเหมาะ ส่วนทุเรียนหมอนทองจะขายดีในช่วงที่ลดราคาเพราะราคาค่อนข้างสูง
ตามมาด้วยทุเรียนเหมาซาน คิงส์ของไทยซึ่งพบเห็นค่อนข้างน้อยในตลาดและไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนักเนื่องจากราคาที่สูงและยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในตลาด ต้องมีการทำโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์เพื่อดึงดูดลูกค้าต่อไป
สำหรับทุเรียนมาเลเซีย มีสองสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม คือ พันธุ์เหมาซานคิงส์(D197) และพันธุ์หนามดำ (D200) พนักงานขายให้ความเห็นว่าทุเรียนแช่แข็งมาเลเซียจะขายดีในช่วงทุเรียนสดขาดตลาด แต่เมื่อถึงฤดูกาลทุเรียนจะจำหน่ายค่อนข้างยาก เนื่องจากราคาที่สูงและผู้บริโภคส่วนใหญ่ชอบบริโภคทุเรียนสดมากกว่า
3.จากการสอบถามความคิดเห็นผู้บริโภคทุเรียน ผู้บริโภคบางส่วนชอบทุเรียนพันธุ์กระดุม เนื่องจากมีขนาดพอเหมาะ เนื้อแน่น หอมหวานและราคาจับต้องได้สำหรับทุเรียนหมอนทองผู้บริโภคให้ความเห็นว่าเป็นทุเรียนที่เป็นที่รู้จักของคนหมู่มาก แต่มีราคาค่อนข้างสูงเหมาะสำหรับซื้อรับประทานทั้งครอบครัวเพราะมีขนาดลูกที่ใหญ่ ในส่วนของทุเรียน เหมาซานคิงส์เนื่องจากมีราคาที่สูงและยังไม่เป็นที่รู้จักในตลาดจึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก
4.ในช่วงนี้ผลไม้ส่วนใหญ่ที่มีวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาเก็ตเป็นผลไม้ที่มาจากทางตอนใต้ของจีนไม่ว่าจะ เป็น เชอร์รี่- ต้าเหลียน ชมพู่-ไห่หนาน สับปะรดภูแล-ไห่หนาน มะพร้าว-ไห่หนาน กล้วย-กว่างซีและอื่น ๆ อีกมากมาย แสดงให้ เห็นว่าช่วงนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลไม้ของทางตอนใต้ของจีน