อุตสาหกรรมท่อเหล็กถือเป็นหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทย จากท่อเหล็กมีความจำเป็นต่อการผลิตอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่มีส่วนสำคัญในการขยายตัวของเศรษฐกิจในหลายภาคส่วน เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ดังนั้นท่อเหล็กจึงถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง ที่สำคัญยังสามารถขับเคลื่อนในแวดวงการออกแบบ รวมถึงการสร้างธุรกิจแบบยั่งยืนได้ด้วยเช่นกัน
นายสงวน สกุลวรรัตน์ ประธาน บริษัท ไทยคูณสตีล จำกัด เผยในการมาร่วมในงานสถาปนิก’66 ว่าการเข้าร่วมงานครั้งนี้ เพื่อต้องการนำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ของบริษัทที่มุ่งเป็น “Steel For Tomorrow” เน้นการเปลี่ยนมุมมองใหม่ ๆ ของสถาปนิกนักออกแบบที่มีต่อท่อเหล็ก จากเดิมเป็นวัสดุที่ใช้ในงานก่อสร้างมาสู่การเป็นชิ้นส่วนประกอบที่ใช้ในงานสถาปัตยกรรมออกแบบตกแต่งภายในและภายนอกอาคาร
“เราอยากสร้างแรงบันดาลใจให้กับสถาปนิกนักออกแบบรุ่นใหม่ ๆ ที่พร้อมจะฉีกกฎแบบเดิม ๆ คิดนอกกรอบ ชอบความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครให้เกิดขึ้นในวงการท่อเหล็ก ที่เมื่อนำมาผนวกกับความคิดสร้างสรรค์ของสถาปนิกนักออกแบบ จะสามารถสร้างผลงานออกแบบงานสถาปัตยกรรมใหม่ ๆได้อย่างไม่มีขีดจำกัด ทั้งนี้เราต้องการผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์ในวงการออกแบบอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น รวมถึงตอกย้ำให้วงการสถาปนิกนักออกแบบไทยได้เห็นมุมมองใหม่ว่า ท่อเหล็กสามารถเป็นวัสดุชั้นเยี่ยมในการออกแบบไม่แพ้วัสดุอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นความท้าทายในบริบทใหม่ของไทยคูณสตีล”
สำหรับโครงสร้างที่เลือกมานำเสนอในงานครั้งนี้ ในส่วน Thematic Pavilion บริษัทได้นำท่อเหล็กโครงสร้างขนาดใหญ่มาใส่จินตนาการการออกแบบ ด้วยวิธีการปรับองศาการติดตั้งท่อเหล็ก เปลี่ยนมุมมองจากเส้นตรงให้อยู่ในทรงเกลียว (spiral) สอดประสานกันเพื่อให้ความรู้สึกที่พลิ้วไหวแต่ยังได้ฟังก์ชันที่สอดรับกันเพื่อสร้างความแข็งแรง ส่วน Exhibit wall และเฟอร์นิเจอร์ในงาน อาทิ โต๊ะ เก้าอี้ ทำมาจากวัสดุที่เป็นท่อเหล็กและโซ่เหล็กที่ไทยคูณสตีล ผลิตขึ้นเอง นอกจากนี้ ได้ยึดหลัก Reduced Reused and Recycle เพื่อที่จะสามารถนำวัสดุกลับมาใช้ได้ใหม่ ทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงลดการใช้ทรัพยากรและปริมาณขยะอีกด้วย
ด้าน นางสาวณิชวดี วงศ์ทองคำ รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายการตลาดในประเทศ บริษัท ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ จำกัด เผยว่า “ไทยพรีเมี่ยมไพพ์” เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กคุณภาพมาตรฐานสากลให้กับลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมหลักในประเทศ โดยโรงงานไทยพรีเมี่ยมไพพ์ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สีเขียวและใกล้แหล่งชุมชน ซึ่งเป็นระยะเวลาเกือบ 20 ปีแล้ว ที่บริษัทได้ตระหนักถึงธุรกิจสีเขียวในอุตสาหกรรมเหล็ก
ประกอบกับบริษัทเริ่มมีการส่งออกท่อเหล็กไปยังหลายประเทศทั่วโลกมากขึ้น ซึ่งลูกค้าต่างประเทศให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้นบริษัทยิ่งต้องผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งการที่จะผลักดันให้บรรลุผลที่ดีที่สุดต้องมีการเปลี่ยนแปลงทั้งเชิงนโยบายและระบบ โดยเริ่มต้นจากพนักงานของบริษัทเองก่อน และเพื่อให้พนักงานทุกคนเห็นถึงความสำคัญและเข้าถึงมุมมองของผู้บริหาร
“เราจึงกำหนดวิสัยทัศน์ใหม่คือ “Green Steel for the Green World” ผลิตภัณฑ์เหล็กเพื่อโลกสีเขียว และมีการปรับรูปแบบการบริหารจัดการภายใต้นโยบายใหม่ คือ Green People, Green Process, Green Factory ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมา เราพัฒนาปรับปรุงการทำงานหลายด้าน ปัจจุบันเรามีการนำพลังงานสะอาด พลังงานจากแสงอาทิตย์ที่ได้มาจากการติดตั้งโซลาร์เซลล์ มาทดแทนพลังงานที่ใช้ในการผลิตในสัดส่วน 20%”
นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงศักยภาพเครื่องจักรแบบ Hybrid Technology ให้ใช้พลังงานน้อยลงอย่างต่อเนื่อง, ติดตั้งบ่อบำบัดน้ำเสียเพื่อลดการปล่อยน้ำเสียออกสู่ชุมชน, ปลูกฝังจิตสำนึกให้พนักงานเรื่ององค์กรสีเขียว Green Organization ใช้หลักธรรมาภิบาลสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีในที่ทำงาน ตั้งเป้าหมายไว้ในปี 2568 จะลดการใช้พลังงานภายในโรงงานลงให้ได้มากกว่า 40% และก้าวสู่โรงงานสีเขียว (Green Factory) อย่างเป็นระบบและเต็มรูปแบบ ซึ่งได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจังเพื่อเป็นต้นแบบ หรือ Role model ให้กับอุตสาหกรรมท่อเหล็กและอุตสาหกรรมอื่น ๆ ให้หันมาสนใจและร่วมมือร่วมใจกันมุ่งสู่การเป็นองค์กรสีเขียว
ปัจจุบัน ไทยพรีเมี่ยมไพพ์ มีการดำเนินการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร(CFO) อย่างต่อเนื่อง และได้การรับรองเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว Green Industry ระดับ 3 และตั้งเป้าพัฒนาไปถึง Green Industry ระดับ 4 และ 5 ตามลำดับ โดยต้องขยายความร่วมมือสร้าง Green Network ไปสู่พันธมิตร supply chain ของเราเองอีกด้วย ข่าวดี ล่าสุด เพื่อเป็นการตอกย้ำความจริงจังเรื่องอุตสาหกรรมสีเขียว บริษัทได้มีการยื่นขออนุญาตใช้ “Green Label” ผลิตภัณฑ์ฉลากสีเขียว จากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เรียบร้อยแล้ว