13 พฤษภาคม 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สนับสนุนการผลิตลิ้นจี่พันธุ์นครพนม1 (นพ.1) สินค้า GI ของจังหวัดนครพนม
พร้อมชื่นชมการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงการขับเคลื่อนองค์ความรู้การผลิตลิ้นจี่คุณภาพให้ได้ตามมาตรฐานสินค้าเกษตรปลอดภัย (GAP) สร้างโอกาสทางการค้าของไทยให้เติบโตสู่ตลาดโลก
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ เปิดเผยว่า ลิ้นจี่พันธุ์นครพนม1 (นพ.1) ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดนครพนมซึ่งมีการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาการผลิตอย่างต่อเนื่อง
ลักษณะเฉพาะ คือ มีขนาดผลใหญ่ รสชาติหวานอมเปรี้ยว ไม่มีรสฝาดเนื้อหนา เป็นลิ้นจี่กลุ่มพันธุ์เบา
ปัจจุบันจังหวัดนครพนมมีพื้นที่ปลูกกว่า 2,969 ไร่ มีผลผลิตรวม 1,500 ตันต่อปี โดยกรมวิชาการเกษตร ได้ขับเคลื่อนการทำงานแบบบูรณาการในพื้นที่ จัดทำมาตรฐานลิ้นจี่พันธุ์นครพนม1 ด้วยการแบ่งเป็น 3 ชั้นคุณภาพ ได้แก่
สำหรับแหล่งผลิตลิ้นจี่พันธุ์นครพนม1 (นพ.1) ได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรปลอดภัย (GAP) ในปี 2565 จำนวน 69 แปลง พื้นที่ 125 ไร่ ปริมาณผลผลิตประมาณ 169 ตัน มูลค่าผลผลิตประมาณ 13.5 ล้านบาท และมีการรวมกลุ่มตามระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ได้เป็นสินค้า GI ตัวแรกของจังหวัดนครพนม ตั้งแต่ปี 2556 (ปัจจุบันมีสินค้า GI ของจังหวัดนครพนมทั้งหมด 2 ชนิด คือ ลิ้นจี่นครพนม และสับปะรดท่าอุเทน)
นอกจากนี้มีการพัฒนาโมเดลนครพนม 1 ไร่ 3 แสนบาท ประยุกต์การทำการเกษตรสวนลิ้นจี่แบบผสมผสาน ควบคู่กับการปลูกพืช และ การเลี้ยงผึ้งเสริมรายได้ สร้างรายได้ประมาณ 30,000 บาทต่อไร่ต่อปี
ทั้งนี้ นายกฯ ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมกันพัฒนาศักยภาพสินค้าไทยตามมาตรฐานสากลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งเสริมสินค้า GI เพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตรของไทย ช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในเอกลักษณ์และคุณภาพสินค้าไทย สามารถต่อยอด และพัฒนาได้อีกมาก
พร้อมชื่นชมการขับเคลื่อนองค์ความรู้เพื่อผลิตลิ้นจี่คุณภาพให้ได้ตามมาตรฐานสินค้าเกษตรปลอดภัย (GAP) เพิ่มมูลค่าทางการตลาด สร้างรายได้เข้าสู่ชุมชนท้องถิ่น และสร้างโอกาสทางการค้าของไทยให้เติบโตสู่ตลาดโลก นายอนุชา กล่าวทิ้งท้าย