“ทุเรียนไทย” แม้จะมีคู่แข่งอย่างประเทศเวียดนาม ส่งออกไปยังประเทศจีน เพื่อตีตลาด ล่าสุด นายสุรเดช สมิเปรม รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าในปี 2566 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานในสังกัด อาทิ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด และภาคเอกชน ร่วมกันผลักดันการดำเนินงานอย่างเข้มข้น
“ขณะนี้ได้รับรายงานว่าทุเรียนภาคตะวันออกมียอดการส่งออกสูงถึง 4.7 แสนตัน มูลค่า 6 หมื่นล้านบาท”
อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่คณะทำงานฯ ได้ติดตามและขับเคลื่อนคุณภาพและมาตรฐานของทุเรียนภาคตะวันออก โดยกำหนดมาตรการควบคุมป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพออกสู่ตลาด ตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจก่อนตัด - หลังตัด และการตั้งด่านคัดกรอง ตลอดจนการควบคุมคุณภาพทุเรียนส่งออกไปจีน ตั้งแต่ 1. การควบคุมคุณภาพที่แหล่งผลิต (สวน) 2. การควบคุมคุณภาพผลผลิตที่ตลาดส่งออก (โรงคัดบรรจุ) และ 3. การเพิ่มความเข้มข้นโดยตั้งด่านตรวจคัดกรองเอกสารแหล่งผลิตทุเรียน มือตัด และล้งที่จะนำส่ง ก่อนส่งต่อไปยังตลาดต่างประเทศและในประเทศ
นายสุรเดช กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทุเรียนไทย ประสบความสำเร็จ ซึ่งในเดือน มิ.ย. - ต.ค. นี้ เป็นช่วงที่ผลผลิตผลไม้ภาคใต้จะเริ่มออกสู่ตลาด โดยภาคใต้กำหนดวันเก็บเกี่ยวทุเรียนและวันเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูกาลทุเรียนในฤดูกาลผลิต ปี พ.ศ. 2566 ในพื้นที่จังหวัดชุมพรนครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี พันธุ์หมอนทอง เป็นวันที่ 10 มิถุนายน 2566 จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม โดยใช้โมเดลของภาคตะวันออกที่ประสบความสำเร็จไปแล้วนั้น มาเป็นต้นแบบดำเนินการในพื้นที่ภาคใต้ต่อไป และเน้นย้ำให้มีการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ เข้าใจ ในขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ ซึ่งตนและคณะจะเตรียมลงพื้นที่ติดตามการควบคุมคุณภาพทุเรียนสำหรับส่งออกและบริโภคในประเทศในพื้นที่ภาคใต้เร็ว ๆ นี้
นอกจากนี้แล้ว กรมวิชาการเกษตรรายงานสถานการณ์การส่งออกทุเรียนสดจากประเทศไทยไปสาธารณรัฐประชาชนจีน สะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.66 – 25 พ.ค.66 มีการส่งออก 28,755 ชิปเมนต์ ปริมาณ 477,741.80 ตัน มูลค่า 62,387.97 ล้านบาท ในส่วนของการส่งออกผลไม้สด รวมส่งออก 52,128 ชิปเมนต์ ปริมาณ 911,204.37 ตัน มูลค่า 81,671.07 ล้านบาท
ส่วนสถานการณ์การเก็บเกี่ยวทุเรียนภาคตะวันออก (ระยอง จันทบุรี ตราด) ประมาณการ 782,942 ตัน เก็บเกี่ยวแล้ว 612,552.56 ตัน คิดเป็นร้อยละ 78.24 คาดว่าเก็บเกี่ยวครบร้อยเปอร์เซ็นในเดือนมิถุนายน สำหรับราคาทุเรียน เกรด A อยู่ที่ 186.67 บาท/กิโลกรัม ต้นทุนการผลิต 13.77 บาท/กิโลกรัม ขณะที่ผลการดำเนินการตรวจรับรอง GAP DOA Online ได้รับการรับรองทั้งหมด 23,222 ราย 25,601 แปลง 247,148.07 ไร่ (ข้อมูล ณ วันที่ 29 พ.ค.66) ที่ประชุมยังรายงานผลการดำเนินงานชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ (ชุดปฏิบัติการตรวจก่อนตัด) ภาคตะวันออกทั้ง 3 จังหวัด ระยอง จันทบุรี ตราด มีเกษตรกรมารับบริการรวม 10,760 ราย ตัวอย่างส่งตรวจ 14,446 ตัวอย่าง ผ่านเกณฑ์ 9,258 ไม่ผ่านเกณฑ์ 5,183 สำหรับผลการดำเนินการสุ่มตรวจความสุกแก่ของทุเรียนในโรงคัดบรรจุ 528 แห่ง สุ่มตรวจทั้งสิ้น 4,998 ตัวอย่าง ผ่านเกณฑ์ 4,683 (97.7%)
ทั้งนี้ จำนวนสวนทุเรียน รวมทั่วประเทศ 74,136 สวน แบ่งเป็น ภาคตะวันออก 29,060 สวน ภาคใต้ 43,668 สวน และพื้นที่อื่น ๆ 1,408 สวน จำนวนโรงคัดบรรจุทุเรียน ทั่วประเทศ 1,209 แห่ง แบ่งเป็น ภาคตะวันออก 666 แห่ง ภาคใต้ตอนบน 441 แห่ง (ชุมพร 390 นครศรีธรรมราช 42 สุราษฎร์ธานี 8 ประจวบคีรีขันธ์ 1) ภาคใต้ตอนล่าง 12 แห่ง (ยะลา 7 นราธิวาส 2 สงขลา 2 พัทลุง 1) และพื้นที่อื่น ๆ 102 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พ.ค.66).