ปม“ทุเรียนเถื่อน”8พันโลเดือด ล้งโต้กลับกรมศุลกากร

ยังคงอิรุงตุงนัง สำหรับกรณีการจับทุเรียนลักลอบนำเข้า จำนวน 8,420 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ที่กรมศุลกากรชี้แจงกรณีที่เจ้าหน้าที่ศุลกากร ด่านศุลกากรอรัญประเทศจับกุมทุเรียนลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ จำนวน 8,420 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ต่อมามีข่าวว่าเจ้าของทุเรียนแจ้งว่าทุเรียนที่ถูกจับไม่ใช่ทุเรียนลักลอบนำเข้า แต่เป็นทุเรียนที่มาจาก จ.ศรีษะเกษ นั้น

และล่าสุดกรมศุลกากรได้ออกโรงชี้แจงว่า เป็นการจับกุมจริง ตามรายงานของสายลับว่า จะมีการนำทุเรียนลักลอบนำเข้าจากแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณ ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จึงขอให้เจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจค้นจับกุม

โดยสายลับจะเป็นผู้นำชี้ให้ทำการตรวจค้นด้วยตนเองและผลการตรวจค้นพบทุเรียนสดบรรจุอยู่ภายในกระบะบรรทุก เจ้าหน้าที่ได้สอบถามคนขับรถถึงที่มาซึ่งของที่ตรวจพบ และได้รับคำชี้แจงว่าตนเป็นคนขับรถรับจ้าง โดยได้รับการว่าจ้างให้นำรถบรรทุกมารับทุเรียน น้ำหนัก 8,420 กิโลกรัม ที่บริเวณหลังวัดเขาน้อย ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

เมื่อไปถึงสถานที่ดังกล่าวมีชาวกัมพูชาเป็นผู้ขนถ่ายทุเรียนขึ้นรถให้ ซึ่งผู้ว่าจ้างได้สั่งให้นำทุเรียนไปส่งที่ล้งใน จ.จันทบุรี โดยได้รับจ้าง 6,000 บาท โดยไม่มีเอกสารการผ่านพิธีการศุลกากรมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ทั้งนี้ ตนจะติดต่อผู้ว่าจ้างให้มาพบเจ้าหน้าที่ต่อไป เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้คนขับรถทราบ และนำของกลางพร้อมคนขับรถ และรถบรรทุกคันดังกล่าวส่งด่านฯ อรัญประเทศ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

ประกอบกับเจ้าของสินค้าที่มาแสดงตนเป็นเจ้าของทุเรียนที่ได้ให้การรับสารภาพว่ารับซื้อทุเรียนมาจากชาวกัมพูชา เป็นสินค้าที่ไม่ได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 โดยเจ้าของสินค้าให้การรับสารภาพตลอด ข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวเจ้าของสินค้าส่งงานคดี ด่านศุลกากรอรัญประเทศเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เรื่องเหมือนจะกระจ่าง แต่ล่าสุดนายอัมรินทร์ ยี่เฮง เครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสระแก้ว ซึ่งออกมาร้องเรียนกรณีนี้ตั้งแต่แรกออกมาโพสFacebook ตอบโต้ว่า ทั้งประเด็นGPSของรถ6ล้อที่จับกุม ว่ารถ6ล้อคันนั้นไม่มีGPS อยากให้มีกาโชว์คลิป หรือโพสว่านายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากรยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุเรียนของกัมพูชาหรือไม่ แต่เจ้าหน้ากลับจับกุมพ่อค้าทุเรียน พร้อมยังบอกว่าทุเรียนกัมพูชาถ้าซื้อจากหน้าสวนกิโลกรัมละ200บาท ที่สำคัญกัมพูชายังมีทุเรียนไม่พอขายจึงไม่มีเหตุผลที่จะนำมาขายให้พ่อค้าคนไทย เป็นต้น

เรื่องนี้ยังคงต้องติดตามว่าสรุปแล้วใครคือฝ่ายผิด เพราะความจริงมีเพียงด้านเดียวคงต้องรอดูว่าทั้งทางตำรวจและ กรมศุลกากรจะออกมาชี้แจงอะไรเพิ่มเติมหรือไม่เพราะความเสียหายไม่ใช่หลักร้อยแต่เป็นหลักหลักล้านบาท

ที่มา:เฟสบุ๊ค นายอัมรินทร์ ยี่เฮง