วันนี้ (19 สิงหาคม 2566) ที่ เฮลิกซ์ การ์เด้น ชั้น 5 ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ กรุงเทพฯ ร้อยตำรวจเอก ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย นักวิชาการอิสระ เปิดเผยในงานเสวนาในหัวข้อ "ความมั่นคงทางอาหารและการเกษตรภายใต้ปรากฎการณ์เอลนีโญและโอกาสการค้าตลาดคาร์บอนเครดิตในการผลิตพืชของไทย" ภายใต้งานนิทรรศการ "5 ทศวรรษแห่งการพัฒนาวิชาการเกษตรไทย และการก้าวไปในทศวรรษที่ 6" กรมวิชาการเกษตร
ร้อยตำรวจเอก ดร.นิติภูมิธณัฐ นักวิชาการอิสระ สะท้อนมุมมองการใช้งบประมาณของภาครัฐในการทำงานวิจัยว่า เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยยกสถานะของประเทศได้ซึ่งจากประสบการณ์ของตนเองในฐานะของผู้ประกอบที่ทำธุรกิจกาแฟและเปิดภัตตาคารในจีน รวมถึงการเป็นประธานที่ปรึกษาของบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนในประเทศตลาดใหม่ของบีโอไอ (BOI) ทำให้เห็นว่า ประเทศที่มีการส่งเสริมงานวิจัยอย่างจริงจังนั้นสามารถที่จะขยับสถานะของประเทศตนเองขึ้นมาได้
โดยตัวอย่างของประเทศที่ประสบความสำเร็จจากความมุ่งมั่นตั้งใจในเรื่องของการทำงานวิจัย ก็คือ ประเทศเอธิโอเปีย ที่ส่งออกสินค้าเกษตรไปขายในประเทศแถบยุโรป ไม่ว่าจะเป็นเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม ฝรั่งเศส สเปน และโปรตุเกส ฯลฯ
จากการวิจัยโดยได้รับงบสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน จำนวน 2 ครั้ง รอบแรกในปี 2550 และปี 2557 จากการเก็บข้อมูล สรุปได้ว่า ประเทศเอธิโอเปียถือว่า ประสบความสำเร็จในขั้นสูงและสูงกว่าประเทศไทยมาก
ทั้งนี้ ตนเองไม่ได้บอกว่า งบประมาณในการวิจัยของประเทศไทยนั้นน้อยเกินไปหรือไม่เพราะไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้โดยตรงจึงไม่สามารถที่จะพูดได้แต่อยากจะเรียนว่า จากการเก็บข้อมูลมีบางประเทศที่ทำงานทุ่มเทงานวิจัยจริง ๆ สำหรับบ้านเราปัจจุบันถ้าพูดถึงการเกษตรของไทยก็อยู่ในระดับแถวหน้า ร้อยตำรวจเอก ดร.นิติภูมิธณัฐ กล่าวทิ้งท้าย