นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้ประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และ 3 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การรับซื้อมังคุดอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ผลผลิตออกสู่ตลาด โดยได้รับรายงานว่ามีผู้ประกอบการ ผู้รวบรวม ผู้ส่งออก ล้ง ห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่น จากในพื้นที่ และที่กรมประสานเข้ามา ได้เข้าไปรับซื้อมังคุดจากกลุ่มประมูลมังคุดคุณภาพและจากเกษตรกรโดยตรงเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน
โดยการลงพื้นที่ ประกอบด้วย จังหวัดนครศรีธรรมราช ติดตามการซื้อในที่ อ.เมือง อ.ชะอวด อ.ร่อนพิบูลย์ อ.พรหมคีรี อ.จุฬาภรณ์ อ.พรหมคีรี อ.สิชล อ.ท่าศาลา อ.ลานสกา จังหวัดนราธิวาส ที่ อ.สุไหงโกลก จังหวัดยะลา ที่ อ.เบตง อ.ธารโต
และขณะนี้ กำลังเตรียมตรวจสอบที่ จังหวัดปัตตานี เพราะผลผลิตเพิ่งจะออกสู่ตลาด โดยภาพรวมนอกจากการเข้าไปรับซื้อที่เพิ่มมากขึ้น ราคายังปรับตัวดีขึ้น เกรดมันรวมใหญ่ อยู่ที่ 40-48 บาท/กิโลกรัม (กก.) เกรดมันเล็ก อยู่ที่ 20.88-30.55 บาท/กก. เกรดผิวกาก ผิวลาย อยู่ 25-28 บาท/กก. และเกรดตกไซต์ ผิวดำ อยู่ที่ 15-17 บาท/กก.
“ขณะนี้ผลผลิตที่ออกมา ไม่พบสภาวะล้นตลาด แต่ยอมรับราคามีการปรับตัวลดลงในระดับหนึ่ง เนื่องจากผลผลิตออกมามากพร้อมกัน แต่หลังจากที่กรมได้ประสานผู้ประกอบการเข้าไปดูดซับ และนอกจากเข้าไปซื้อให้ครอบคลุมกลุ่มประมูลแล้ว ยังได้เจาะลึกไปยังกลุ่มเกษตรกรรายย่อยให้ได้มากที่สุดด้วย คาดว่าจะช่วยผลักดันให้ราคามังคุดปรับตัวดีขึ้นต่อไป”
นอกจากนี้ ห้างท้องถิ่นทั่วประเทศ มากกว่า 120 จุด ได้เริ่ม Kick Off กิจกรรมการจำหน่ายมังคุดใต้ ที่กรมได้ประสานรับซื้อนำมาจำหน่ายแล้ว โดยจากการติดตามการจำหน่าย พบว่า ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยประชาชนต่างบอกว่ามังคุดใต้ปีนี้มีคุณภาพดีมาก รสชาติอร่อย ซึ่งห้างท้องถิ่นคาดว่าจากกระแสการตอบรับเช่นนี้ อาจจะต้องมีการรับซื้อผลผลิตเพิ่มเติมโดยเร็วต่อไป
นางประไพ เพชรพงศ์พันธุ์ พาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การซื้อขายมังคุดของจังหวัด ที่กลุ่มมังคุดบ้านน้ำดำ (ชะอวดโมเดล) วิสาหกิจชุมชนกลุ่มมังคุดชะอวดพูนผล รวมถึงติดตามการรับซื้อของผู้ประกอบการล้งในพื้นที่ ได้แก่ ล้งสุชาตินคร ต.กำแพงเซา อ.เมือง ล้งเฮียโจว จิรนันท์ ต.ทอนหงษ์ อ.พรหมคีรี ภาพรวมเกษตรกรรายย่อยมีที่จำหน่ายและได้ราคาที่แน่นอนมากขึ้น และกลุ่มประมูลมีผู้เข้าร่วมประมูลเพิ่มมมากขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งการที่กรมการค้าภายในเร่งนำผู้ประกอบการเข้ามาในพื้นที่ และเข้าประมูลในกลุ่มประมูลและซื้อโดยตรงจากเกษตรกรรายย่อย ได้มีช่วยดูแลราคาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมมากขึ้น