เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 ปิดหีบ เวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ในสัดส่วนของผู้แทนเกษตรกร จำนวน 20 คน มีวาระการดำรงตำแหน่งครบ 4 ปี ไปเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2566 ตามกฎหมายกำหนดให้มีการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร ภายใน 90 วันหลังครบวาระ โดยจัดให้มีการเลือกตั้งจากสมาชิกองค์กรเกษตรกรใน 4 ภูมิภาค ซึ่งคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ได้มีมติเห็นชอบแผนบริการจัดการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกร พ.ศ. 2566
เพื่อจะได้มีผู้แทนของเกษตรกร โดยแบ่งผู้แทนเกษตรกรได้ดังนี้ ภาคเหนือมีผู้แทน 5 คน ภาคกลาง 4 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 คน และภาคใต้ 4 คน แทนชุดเก่าที่หมดวาระไปเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2566 ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้พี่น้องเกษตรกร ร่วมเสนอความคิดเห็น นำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาของเกษตรกรทั้งด้านหนี้สิน การพัฒนาและฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรให้ตรงกับความต้องการของเกษตรกร รวมถึงมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายเพื่อพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรในด้านต่างๆ ด้วย โดยมี มีเกษตรกรสมาชิกที่มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ จำนวนประมาณ 5.2 ล้านคน นั้น
แหล่งข่าวสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ถึงผลการนับคะแนนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากระบบของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ล่ม หลังจากมีการนับคะแนนไปแล้วประมาณ 80-90 % ซึ่งไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไรก็เลยหยุดชะงักไปชั่วโมงกว่า แล้วในเวลานั้นดึกมากแล้ว จึงตัดสินใจหยุดก่อน แต่อย่างไรก็ดีทางกรมการปกครองจะส่งข้อมูลให้ประมาณก่อนเที่ยง ทางสำนักงานจะประกาศผลการเลือกตั้งเวลาบ่ายโมง ของวันนี้ จะทราบผล
แหล่งข่าวอดีตบอร์ดกองทุนฟื้นฯ เผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีการโกงคะแนนกัน เพราะมีผลประโยชน์ในกองทุนฯ มาก เพราะบางคนเมื่อได้เป็นแล้ว จะไปเก็บเงิน หากินกับเกษตรกร ซึ่งมีบางคนไม่ได้เป็นกรรมการหนี้ด้วยซ้ำไป แต่แอบแฝงบอกว่าสามารถสั่งซื้อหนี้ได้ แล้วก็ยอมรับว่ามีกรรมการหนี้บางคนที่ไม่ดีก็ไปเรียกรับเงิน เปลี่ยนคะแนน ซื้อเสียง มีทั้งคนที่เป็นของนักการเมืองก็เข้ามาเป็นบอร์ดด้วย
“เท่าที่พบปัญหา มีหลายประเด็น ยกตัวอย่าง จังหวัดเชียงราย และอำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีหน่วยถึง 2 หน่วยไม่ได้นับคะแนน อ้างว่ามืด ดึกเกินไป นอกจากนั้นคะแนนที่กรมการปกครองนับ กับหน่วยเลือกตั้ง ไปนับมีบัตรเขย่ง บัตรหาย แล้วคะแนนที่คนไปเฝ้าหน่วยกับคะแนนที่คนนับที่อำเภอไม่ตรงกัน”
อนึ่ง ผลการดำเนิงานกองทุนฯ สามารถชำระหนี้แทนเกษตรกรได้ 32,464 ราย 32,923 สัญญา จำนวนเงินกว่า 9,157 ล้านบาท รักษาที่ดินให้แก่สมาชิกได้ 25,212 แปลงรวม 174,219 ไร่ โอนหลักประกันคืนให้เกษตรกร 11,373 แปลง 84,636 ไร่ และเกษตรกรชำระหนี้คืนกองทุนฯแล้วกว่า 2,227 ล้านบาท มีเกษตรมาขึ้นทะเบียนหนี้ 543,613 ราย 797,050 สัญญา มูลหนี้ 113,608 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผลการเลือกตั้งบอร์ดตัวแทนเกษตรกร 20 คน "ฐานเศรษฐกิจ" จะมารายงานต่อความคืบหน้า