เปิด 9 นโยบาย ฟื้น "ประมงไทย" คัมแบ็กจ้าวสมุทร รายได้เพิ่ม 3 เท่า

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลงานของกรมประมง ในการขับเคลื่อน 9 นโยบายสำคัญ ตามแนวทางของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มุ่งเป้าฟื้นฟูประมงไทย สู่เป้าหมายรายได้เพิ่ม 3 เท่าภายใน 4 ปี

"ร.อ.ธรรมนัส ได้เน้นน้ำมาตลอดว่า นโยบายสำคัญต่างๆ ต้องขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องชาวประมงทั่วประเทศ โดยเรายังคงเดินหน้าเร่งปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าประมงผิดกฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหาสินค้าประมงตกต่ำ ล้นตลาด รวมทั้ง ต้องหามาตรการในการลดต้นทุนเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวประมง เพื่อให้ชาวประมงได้มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตลอดจน มุ่งเป้าขับเคลื่อนเพื่อให้ประมงไทยกลับมาเป็นจ้าวสมุทรอีกครั้ง"

นโยบายสำคัญทั้ง 9 ประการ 

1. จัดตั้งศูนย์บริการประชาชน สนับสนุนศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช และโครงการศูนย์เรียนรู้ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้า เช่น ศูนย์บริการประมงชายฝั่งบางเสร่ จ.ชลบุรี ให้บริการด้านการประมงครบวงจร แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการในพื้นที่

2. ยกระดับสินค้าเกษตรด้านประมง แบรนด์ MR. แก้ไขปัญหาราคาสินค้าสัตว์น้ำตกต่ำ เช่น โครงการยกระดับกุ้งทะเลไทยสู่มาตรฐานสากล สนับสนุนเกษตรกรผลิตกุ้งทะเลคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน

3. ป้องกัน แก้ไข ฟื้นฟู รับมือภัยแล้ง ภัยพิบัติธรรมชาติ แจ้งเตือนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น โครงการสร้างความเข้มแข็งแก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่เสี่ยงภัย ช่วยให้เกษตรกรเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ

4. ปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าประมงผิดกฎหมาย บูรณาการร่วมกับทีมเฉพาะกิจพญานาคราช เช่น จับกุมสินค้าประมงผิดกฎหมายกว่า 100 ตัน ดำเนินคดีผู้กระทำผิดอย่างเฉียบขาด

5. ผลักดันสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง เช่น สนับสนุนเกษตรกรใน จ.สุราษฎร์ธานี พัฒนาปลาทูสด ปลาทูน่ากระป๋อง มุ่งสู่ตลาดต่างประเทศ

6. ส่งเสริมเกษตรกร สถาบันเกษตรกร สนับสนุนโครงการสร้างความเข้มแข็งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น เช่น โครงการพัฒนาศักยภาพกลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชัง จ.นนทบุรี ส่งเสริมการรวมกลุ่ม พัฒนาองค์ความรู้

7. ทำการเกษตรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พัฒนาสินค้าประมงโมเดลเศรษฐกิจ BCG เช่น โครงการเลี้ยงปลาแบบยั่งยืนในพื้นที่ชุ่มน้ำ จ.สมุทรปราการ ส่งเสริมการเลี้ยงปลาที่รักษาสิ่งแวดล้อม

8. สร้างระบบประกันภัย เกษตรกรไทย สุขใจถ้วนหน้า บรรเทาความเดือดร้อน เกษตรกรและชาวประมง เช่น โครงการประกันภัยรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ช่วยเหลือเกษตรกรเมื่อราคาข้าวตกต่ำ

9. บริการทางการเกษตรที่ใช่ เลือกใช้ให้เหมาะสม สนับสนุนโครงการสร้างความเข้มแข็งกลุ่มการผลิตด้านประมง เช่น  โครงการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคการประมง ช่วยให้เกษตรกรเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ตลาด เทคโนโลยี

น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า รัฐบาลโดยการนำของ นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ให้ความสำคัญกับการประมง เพราะเป็นแหล่งสร้างรายได้สำคัญของประเทศ ทั้งการผลิตเพื่อบริโภคภายในประเทศและส่งออก