สหรัฐอเมริกา-จีน เปิดศึกชิงเจ้าเทคโนโลยีโลก ยุทธศาสตร์ส่วนหนึ่งคือการทำสงครามเซมิคอนดักเตอร์ หรือไมโครชิปซึ่งเป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เปรียบเสมือนสมอง และหัวใจของเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ใช้ในเกือบทุกอุตสาหกรรมสมัยใหม่ โดยมีการขยายการลงทุนด้านเซมิคอนดักเตอร์ทั้งในสหรัฐและจีนเอง รวมถึงในประเทศที่เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญของทั้งสองมหาอำนาจยักษ์ใหญ่โลก
รองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการอิสระ และผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ปัจจุบันบริษัทชิปยักษ์ใหญ่ของสหรัฐที่ลงทุนในภูมิภาคอาเซียนแล้วมีหลายบริษัท เช่น Intel ลงทุนแล้วในมาเลเซีย และมีแผนลงทุนเวียดนาม, Qualcomm ลงทุนแล้วในเวียดนาม, Analog Devices ลงทุนแล้วในไทย และ Nvidia มีแผนลงทุนในมาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม เป็นต้น
ล่าสุดจากที่นางจีนา เอ็ม. เรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เดินทางเยือนไทย ได้ประกาศสนับสนุนภาคเอกชนของสหรัฐขยายการลงทุนเซมิคอนดักเตอร์ในไทยเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในซัพพลายเชนของสหรัฐ ลดความเสี่ยงชิปขาดแคลนที่อาจจะเกิดขึ้น(เหมือนที่เคยขึ้นช่วงโควิด) ซึ่งยังต้องลุ้นว่าการตั้งฐานผลิตในไทยของภาคเอกชนสหรัฐจะได้รับความสนใจหรือจะมีการลงทุนที่เป็นรูปธรรมมากน้อยเพียงใดในอนาคต
อย่างไรก็ดี รองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์ กล่าวว่า หากมีการขยายการลงทุนด้านเซมิคอนดักเตอร์ในไทยเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนจากสหรัฐ จีน หรือจากประเทศอื่น ๆ จะส่งผลบวกต่อประเทศไทยในหลายด้าน ทั้งการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายในการเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจใหม่ให้กับประเทศที่ภาครัฐและเอกชนไทยอยู่ระหว่างเร่งผลักดัน เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) หุ่นยนต์ อิเล็กทรอนิกส์อัจริยะ การบินและศูนย์ซ่อม เกษตรสมัยใหม่ และอื่น ๆ ที่ใช้ชิปเป็นสมองหรือหัวใจของเทคโนโลยีในการผลิต ประมวลผลข้อมูล และในระบบสั่งการต่าง ๆ
นอกจากนี้จะได้อานิสงส์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล และการขับเคลื่อน 8 วิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีที่มุ่งเป้าพัฒนาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลกและเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนทั้งด้านการท่องเที่ยว การรักษาพยาบาลและสุขภาพ อาหาร การบิน การผลิตยานยนต์แห่งอนาคต เทคโนโลยี และการเงิน เพราะทั้ง 8 วิสัยทัศน์ต้องใช้เครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้าไปช่วย ซึ่งชิปอยู่ในทุกห่วงโซ่ของเป้าหมายดังกล่าว
“การที่ต่างชาติจะมาลงทุนตั้งฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ หรือชิปที่มีเทคโนโลยีในหลายระดับในไทยเพิ่มมากขึ้น อุตสาหกรรมต่อเนื่องในประเทศจะได้รับอานิสงส์ และจะช่วยให้อุตสาหกรรมแห่งอนาคต เศรษฐกิจดิจิทัล และ 8 วิสัยทัศน์ของนายกฯ สามารถขับเคลื่อนและเป็นจริงได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังจะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกในกลุ่มสินค้าเซมิคอนดักเตอร์ให้กับไทยได้มากขึ้น จากปัจจุบันไทยมีการส่งออกสินค้าในกลุ่มนี้ ทั้งที่เป็นอุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และแผงวงจรรวม ปีละมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 1.5-2 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี รวมถึงจะส่งออกสินค้าจากอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ได้เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต”