นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากนโยบายของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการคุมเข้มมะพร้าวนำเข้า ทั้งนี้ได้มีการประชุมหารือมาตรการนำเข้ามะพร้าว และผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว เข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ด้านการผลิต ราคา การตลาด การนำเข้ากะทิ มะพร้าวแก่ปอกเปลือกจากต่างประเทศ ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าว และตัวแทนเครือข่ายชาวสวนมะพร้าวของไทย จำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศโดยเคร่งครัด
โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษพญานาคราช บูรณาการการตรวจร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมศุลกากร ตำรวจ ทหาร มหาดไทย และหน่วยงานความมั่นคงอื่นๆ เฉพาะอย่างยิ่ง ด่านตรวจพืช กรมวิชาการเกษตร ที่ต้องคุมเข้ม ควบคุมป้องกันการนำเข้ามะพร้าวในโควตา และนอกโควตา
รวมถึงการเฝ้าระวังแมลงศัตรูพืชและการงอกของมะพร้าว โดยทำการตรวจสอบอย่างเคร่งครัด ทำการเปิดตรวจตู้ 100% ทุกชิปเม้นท์ หากพบแมลงศัตรูพืช หรือการงอก ให้ดำเนินการส่งกลับหรือเผาทำลายทันทีทั้งชิปเม้นท์ พร้อมขยายผลตรวจเข้มสินค้าเกษตรอื่นๆ แนวชายแดน ป้องกันลักลอบนำเข้า และขอร่วมมือผู้ประกอบการร่วมปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
ล่าสุด วันที่ 31 มีนาคม 2567 นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้ลงพื้นที่ ณ ด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ เพื่อติดตามการปฏิบัติงานการตรวจสอบการนำเข้ามะพร้าว และผลิตภัณฑ์มะพร้าว เพื่อป้องกัน ควบคุม เฝ้าระวัง โรค และศัตรูพืชที่อาจจะติดมา ที่จะก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของศัตรูพืชร้ายแรง ตลอดจนสร้างความเสียหายแก่พืชเศรษฐกิจ และระบบการผลิตพืชของประเทศไทย
“มะพร้าวแก่ปอกเปลือกที่นำเข้าต้องผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืช และต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงประกาศกรมวิชาการเกษตร ที่เกี่ยวกับการนำเข้ามะพร้าว ปัจจุบันอนุญาตให้นำเข้าผลมะพร้าวแก่ปอกเปลือกเนื้อมะพร้าวสด เนื้อมะพร้าวแห้ง จากมาเลเซีย เวียดนาม สหภาพเมียนมา และอินโดนีเซีย เพื่อการแปรรูปในโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น โดยในปี 2566 มีการนำเข้ารวมประมาณ 127,901 ตัน 1,178 ชิปเมนท์ มูลค่าประมาณ 1,139 ล้านบาท”
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวอีกว่า สินค้ามะพร้าวเป็นสินค้าควบคุมตามกฎหมายที่กระทรวงพาณิชย์กำกับดูแล ได้กำหนดด่านนำเข้าเพียง 2 ด่าน คือ ด่านศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง และด่านศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ ดังนั้น การนำเข้าต้องแจ้งนำเข้า ณ ด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง และด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ เท่านั้น
ทั้งนี้บทบาทหน้าที่ของด่านตรวจพืชกรมวิชาการเกษตร นอกจากจะควบคุมการนำเข้า ณ ด่านที่กำหนดแล้ว อธิบดีกรมวิชาการเกษตรได้สั่งการให้ด่านตรวจพืชทั่วประเทศทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่อื่นๆ ได้แก่ กรมศุลกากร ด่านอาหารและยา หน่วยงานความมั่นคง และองค์กรปกครองในพื้นที่ เฝ้าระวังการลักลอบนำเข้ามะพร้าวแก่ปอกเปลือกจากประเทศเพื่อบ้าน ลดผลกระทบต่อเกษตรกร และอุตสาหกรรมการผลิตกะทิของไทย
“นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ที่สั่งการให้กรมวิชาการเกษตร เข้มงวดในการตรวจสอบ กักกัน และดำเนินคดีสินค้าเกษตรเถื่อนผิดกฎหมาย ซึ่งผมได้กำชับ ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ดำเนินการตามนโยบายอย่างเคร่งครัด โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯมีกำหนดลงพื้นที่ จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดระยอง ในช่วงเดือนเมษายน หลังสงกรานต์ เพื่อคุมเข้มคุณภาพผลไม้ภาคตะวันออก (ทุเรียน มังคุด ลำไย)
และตรวจสอบมาตรฐาน GMP โรงคัดบรรจุ และมาตรฐาน GAP สวนผลไม้ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือฤดูการส่งออกผลไม้คุณภาพภาคตะวันออกไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสั่งการทีมพญานาคราชร่วมกับทีม สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร และจังหวัด ลุยตรวจเข้ม 100% หากตรวจพบทุเรียนอ่อน และผลไม้ไม่มีคุณภาพ สั่งยึดอายัดใบ GMP/GAP ทันที” อธิบดีกรมวิชาเกษตร กล่าวตอนท้าย