“ฐานเศรษฐกิจ” ยังคงเกาะติดความคืบหน้าเรื่องการระบายข้าวคงเหลือในสต๊อกของรัฐ จากคลังสินค้ากลางกิตติชัย (หลัง 2) และคลังสินค้า บริษัท พูนผลเทรดดิ้ง จำกัด (หลัง 4) ซึ่งเป็นข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 จำนวนประมาณ 15,000 ตัน จำนวน 145,590 กระสอบ
ทั้งนี้เป็นตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้สั่งให้มีการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานอย่างละเอียดรอบคอบก่อนเปิดประมูลและได้นำทีมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการโรงสี ผู้ส่งออกและสื่อมวลชนทุกแขนง ไปร่วมตรวจสอบด้วย และได้ส่่งตัวอย่างข้าวจากทั้งสองโกดังให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบ หลังจากได้รับรายงานผลการตรวจสอบว่าข้าวดังกล่าวปราศจากสารพิษและสารก่อมะเร็งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคและยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ครบถ้วน จึงได้มอบหมายให้องค์การคลังสินค้า(อคส) เปิดประมูลขายข้าวดังกล่าว
แหล่งข่าวกระทรวงพาณิชย์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วันนี้ (21 มิ.ย. 2567) ทาง อคส.จะประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูล ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เจรจาให้บริษัทที่เสนอราคาผ่านในรอบแรก จำนวน 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท วี.เอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด,บริษัท ธนสรรไรซ์ จำกัด,บริษัท ทรัพย์แสงทองไรซ์ จำกัด และบริษัท บี เอ็น เค การเกษตร 2024 จำกัด เข้าสู่กระบวนการเจรจาต่อรองในรอบที่ 2 โดยทั้ง 4 บริษัท สามารถเสนอราคาเพิ่มได้อีกในรอบสุดท้ายที่จะประกาศผู้ชนะประมูลในช่วงเย็นวันนี้จะรู้ผล โดยผู้ชนะประมูลจะต้องเข้ามาทำสัญญาและวางเงินประกันสัญญา 5% ภายในวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 และรับมอบข้าวสารออกจากคลังให้แล้เวเสร็จตามสัญญาในวันที่ 10 สิงหาคม 2567
ต่อกรณีดังกล่าวนี้ นายศุภชัย วรอภิญญาภรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท ธนสรรไรซ์ จำกัด หนึ่งในผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ และผู้เข้าร่วมประมูลข้าวคลังดังกล่าว เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ได้ส่งราคาข้าวไปใหม่เพื่อประมูลข้าวในคลังทั้ง 2 แห่ง ซึ่งต้องรอลุ้นประกาศผลเย็นนี้
ไทม์ไลน์เปิดความพร้อมดำเนินการตรวจสอบข้าวสารก่อนการประมูล