วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงลิมา ศูนย์ประชุมลิม่าคอนเวชั่นเซ็นเตอร์ เวลา 17.00 น. (เวลาท้องถิ่นเปรู) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือกับแอลเจอร์นอน เยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ฯ ฮ่องกง ระหว่างก่อนเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปค และการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ระหว่างวันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู
นายพิชัย กล่าวว่า การหารือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยกับฮ่องกง โดยเฉพาะในด้านสินค้าเกษตรและอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตสูงในตลาดฮ่องกง รวมถึงการส่งเสริมสินค้าและบริการผ่าน Soft Power ที่ไทยเดินหน้าประชาสัมพันธ์หลากหลายช่องทาง โดยเฉพาะการจัดคอนเสิร์ตศิลปินไทยในฮ่องกง อาทิ LISA และ Thai Pop Concert ในปลายปีนี้รวมถึงการจัดการแข่งขันมวยไทยที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากชาวฮ่องกง
ทั้งนี้ ไทยยังได้ผลักดันบทบาทของประเทศในฐานะ "ครัวโลก" เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับฮ่องกง ซึ่งไทยมีสินค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคชาวฮ่องกงที่ใส่ใจสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่ ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช รวมถึงผลไม้ไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดฮ่องกงมาอย่างยาวนาน
ขณะเดียวกัน ไทยได้เชิญชวน SMEs และบริษัทฮ่องกงให้พิจารณามาลงทุนรวมทั้งมาตั้งสำนักงานภูมิภาคในไทย โดยชูจุดแข็งทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน และมาตรการจูงใจทั้งการยกเว้นภาษีเงินได้เพิ่มและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ซึ่งสอดรับกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2024 ของฮ่องกงที่ส่งเสริมให้ SMEs ขยายการลงทุนไปต่างประเทศ สำหรับอุตสาหกรรมที่ทางฮ่องกงสนใจเข้ามาลงไทยเป็นอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI เซมิคอนดักเตอร์
อย่างไรก็ดี ในปี 2566 ฮ่องกงเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 13 ของไทย โดยมีมูลค่าการค้ารวม 13,708 ล้านดอลลาร์ โดยฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกอันดับ 7 ของไทย มีมูลค่าการส่งออกไปยังฮ่องกง 11,096 ล้านดอลลาร์ โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่
ขณะที่ฮ่องกงเป็นแหล่งนำเข้าลำดับ 25 ของไทย มีมูลค่าการนำเข้าจากฮ่องกง 2,612 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่