"พิชัย" ถก ทูตสหรัฐ ชวนลงทุนในไทย เร่งต่ออายุสิทธิ GSP

17 ต.ค. 2567 | 02:44 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ต.ค. 2567 | 03:45 น.

"พิชัย" รมว.พาณิชย์ ถตทูตสหรัฐฯ ชวนลงทุนในไทยเพิ่ม พร้อมเป็นศูนย์กลางธุรกิจดิจิทัล ชู Food Security Hub เร่งสหรัฐฯ ต่ออายุ GSP หวังกระตุ้นการค้าสองฝ่าย

วันนี้ (17 ตุลาคม 2567) นายพิชัย  นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับนายโรเบิร์ต เอฟ โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย และเน้นย้ำว่าไทยและสหรัฐฯ เป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์พร้อมให้ความร่วมมือกับสถานทูตสหรัฐฯ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ระหว่างกัน

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

ทั้งนี้ จากการหารือกระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ เสริมสร้างบรรยากาศที่ดีสำหรับการค้าและการลงทุนและพร้อมต้อนรับการมาเยือนของคณะนักธุรกิจ USABC (U.S.-ASEAN Business Council - USABC) ในเดือนพฤศจิกายน 2567 

ขณะเดียวกัน ไทยพร้อมเป็นพันธมิตรด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการเป็นฐานการผลิตในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของสหรัฐฯ เช่น ดิจิทัล AI อิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ และสหรัฐฯ ก็พร้อมสนับสนุนภาคเอกชนของสหรัฐฯ ให้เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น 

ขณะที่ ปัจจุบันทราบว่าบริษัท HP ของสหรัฐฯ ก็อยู่ระหว่างการเข้ามาลงทุนในไทย บริษัทดิจิทัลสัญชาติสหรัฐฯ อย่างบริษัท Google และ Amazon ที่ได้ยืนยันแผนการลงทุนในธุรกิจ Data Center และ Cloud Service ในไทย ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจดิจิทัลของภูมิภาค พร้อมทั้งได้เชิญชวนบริษัทดิจิทัลสัญชาติสหรัฐฯ อื่นๆ เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่ม

 

\"พิชัย\" ถก ทูตสหรัฐ ชวนลงทุนในไทย เร่งต่ออายุสิทธิ GSP

 

นอกจากนี้ ไทยยังมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางความมั่งคงทางอาหาร (Food Security Hub) โดยเป็นคลังสินค้าและส่งออกอาหารให้กับทุกประเทศที่ต้องการ

นายพิชัย กล่าวต่ออีกว่า ไทยได้ขอให้สหรัฐฯพิจารณาเร่งรัดการต่ออายุการให้สิทธิ GSP (สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร) ที่ได้หมดอายุไปเมื่อปลายปี 2563 ให้เสร็จโดยเร็วเนื่องจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ อีกทั้งได้แสดงความยินดีต่อการสรุปผลแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IP Work Plan) ที่ทั้งสองประเทศได้ดำเนินการร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การปลดไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (WL)

 ทั้งนี้ ด้านการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ พบว่า ในปี 2566 สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 2 ของไทย รองจากจีน โดยมีมูลค่าการค้ารวม 67,659.89 ล้านดอลลาร์ โดยสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย มีมูลค่าการส่งออก 48,352.79 ล้านดอลลาร์ มีสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่

  • เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
  • ผลิตภัณฑ์ยาง 
  • เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 
  • อุปกรณ์กึ่งตัวนำ 
  • ทรานซิสเตอร์และไดโอด 
  • อัญมณีและเครื่องประดับ 
  • รถยนต์และส่วนประกอบ 
  • เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ

ขณะที่สหรัฐฯ เป็นแหล่งนำเข้าลำดับ 3 ของไทยมีมูลค่าการนำเข้าจากสหรัฐฯ 19,307.10 ล้านดอลลาร์ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ 

  • น้ำมันดิบ 
  • เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 
  • เคมีภัณฑ์ 
  • ก๊าซธรรมชาติ 
  • แผงวงจรไฟฟ้า 
  • เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ 
  • ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์