นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2567 ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ได้ประเมินว่าจะเติบโต 2.6-2.8% ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจ 2 ไตรมาสที่มีการฟื้นตัว ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของไทยฟื้นตัวตาม
ทั้งนี้ จากการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ ทางเอกชน หอการจังหวัด ยังมองว่าเศรษฐกิจยังฟื้นตัวได้ไม่ดี เพราะภาวะเศรษฐกิจรวมยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 แต่มีความหวังว่าในช่วงไตรมาส 1 และ 2 ของปีหน้าเศรษฐกิจจะกลับมาดีขึ้น
“จากมุมมองเศรษฐกิจจะค่อยดีขึ้น ภายใต้ “ทรัมป์” จะไม่ได้มีมาตรการที่ออกมารุนแรงจากที่คาด จากที่ประเมินไว้ว่าขึ้นภาษีนำเข้าของไทยเพียง 10% แต่หากขึ้นมากกว่านี้ สงครามการค้าก็จะเกิดขึ้น และก็คาดหวังว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะดี จีนมีการคาดการณ์เติบโตเศรษฐกิจโต 5% มีนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย และคาดหวังธนาคารกลางทั่วโลกจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง”
ขณะเดียวกัน ได้มีการประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการเติบโต 2.2-2.4% จีนเศรษฐกิจโต ยุโรปฟื้น ซึ่งจะมีผลต่อการส่งออกสินค้าของไทย ขณะที่การท่องเที่ยวคาดว่าปีนี้ 36 ล้านคน และในปีหน้าแตะ 40 ล้านคน รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายในช่วงปลายปี มาตรการลดหย่อนภาษี
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2568 คือการแจกเงิน 10,000 บาทของคนที่มีอายุ 60 ปี วงเงิน 40,000 ล้านบาท มาตรการคุณสู้ เราช่วย คาดว่ามีเงินหมุนในระบบทั้งปี 80,0000-100,000 ล้านบาท มาตรการ 1,000 บาท ช่วยเกษตรกร เงินหมุนเวียน 40,000 ล้านบาท จากมาตรการและเงินหมุนเวียนที่จะเข้ามาระบบเศรษฐกิจ จะมีผลให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาที่ 1 ของปี 2568 ดีขึ้น และจากปัจจัยต่าง ๆ ที่ผลกระทบรวมไปถึงการจับจ่ายและการลงทุนของภาครัฐ จะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของไทยโตได้
ด้านนายวิเชียร แก้วสมบัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยการประมาณการเศรษฐกิจภูมิภาคในปี 2567-2568 ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัว 3.0% (เพิ่มขึ้นจาก 2.6% ในปี 2567) โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักมาจากภาคบริการ (+4.0%)
โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ขณะที่ภาคเกษตรและอุตสาหกรรมฟื้นตัวเล็กน้อยที่ 1.6% และ 1.5% ตามลำดับ