กรณีที่หน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารส่งออก-นำเข้าของจีน หรือ GACC ออกประกาศระงับการนำเข้าสินค้าประเภทน้ำเชื่อม และน้ำตาลผสม เนื่องจากไม่ได้เกณฑ์มาตรฐานตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยอาหารนั้น
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหัวหน้าพรรคกล้าธรรม เผยความคืบหน้าในประเด็นนี้ว่า ได้รายงานความคืบหน้าให้กับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ทราบถึงการแก้ปัญหาของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ หรือ มกอช.ไปแล้ว
ทั้งนี้ มกอช.ได้ดำเนินการรวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการที่มีการส่งออกสินค้าดังกล่าว ในช่วงคาบเกี่ยวกับการประกาศระงับนำเข้าของจีน โดยได้มีหนังสือถึงสำนักงานศุลกากรแห่งประเทศจีน (General Administration of Customs of China : GACC ) ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับกระทรวงที่มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลเรื่องการนำเข้า-ส่งออกสินค้าของจีน ผ่านสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ(สปษ.) ประจำกรุงปักกิ่ง เพื่อขอผ่อนผันการอนุญาตนำเข้าสินค้า
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา มกอช.ได้ร่วมประชุมหารือแก้ไขปัญหากรณี GACC ระงับการนำเข้าน้ำเชื่อมจากไทย กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการค้าต่างประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กรมวิชาการเกษตร สปษ.ปักกิ่ง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กรมศุลกากร การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้แทนภาคเอกชนธุรกิจน้ำตาล และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้ข้อมูลเรื่องการส่งออกสินค้าไซรัปจากไทยที่สูงผิดปกติเนื่องมาจากการหลีกเลี่ยงภาษีและส่งผลกระทบต่อสินค้าน้ำตาลในประเทศจีน และให้ข้อมูลว่า จีนใช้มาตรการที่มิใช่ภาษี(Non tariff barrier) เพื่อปกป้องธุรกิจในประเทศ แต่อาจมีสินค้าที่ด้อยคุณภาพบางส่วนจากไทยที่เข้าสู่จีนโดยโรงงานผลิตบางราย สำหรับสินค้า Premix sugar ที่ผลิตเพื่อส่งออกไปยังโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว
“กรณีที่จีนระงับการนำเข้าน้ำเชื่อมจากไทย เป็นเรื่องที่ต้องมีการบูรณาการทำงานร่วมกันของหลายกระทรวง เช่น พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาล ที่อยู่ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม ,พ.ร.บ.อาหาร ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของกระทรวงสาธารณสุข เพราะน้ำเชื่อมเป็นสินค้าแปรรูปกลุ่มอาหาร ที่อยู่นอกเหนืออำนาจทางกฎหมายของกระทรวงเกษตร ฯโดย มกอช.และทูตเกษตรที่ปักกิ่ง ก็ได้ร่วมให้ข้อมูลทางเทคนิคเพื่อช่วยประสานการเจรจากับหน่วยงานอื่นแล้ว” ศ.ดร.นฤมล กล่าว