CEO เดอะมอลล์ ชี้ปี 2566 "มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ" ยังจำเป็น

05 ม.ค. 2566 | 04:00 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ม.ค. 2566 | 15:22 น.

“วรลักษณ์ ตุลาภรณ์” CEO เดอะมอลล์ มองเศรษฐกิจไทย 2566 ผจญเงินเฟ้อ ค่าไฟ น้ำมันแพง แม้ท่องเที่ยวฟื้น บี้เลือกตั้งได้รัฐบาลใหม่ ต้องเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ฐานเศรษฐกิจ สำรวจความคิดเห็นผู้บริหารระดับสูงหลากหลายธุรกิจ เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก และทิศทางในการดำเนินธุรกิจในปี 2566 ภายใต้ปัจจัยบวกและปัจจัยลบที่จะเข้ามากระทบ ภายใต้หัวข้อ CEO Outlook 2023 โดยหนึ่งในบริษัทสำคัญนั่นคือ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจค้าปลีกของประเทศ

ที่ผ่านมาผู้บริหารของ เดอะมอลล์ ประเมินว่า ปี 2565 สถานการณ์เริ่มกลับมาฟื้น หลายกลุ่มสินค้ากำลังอยู่ในทิศทางเติบโต และเชื่อว่าปีนี้จะปิดยอดขายที่ 50,000 ล้านบาท ได้ตามเป้าหมาย หลังประเมินยอดขาย และจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการตอนนี้ เริ่มกลับมาใกล้เคียงปี 2562 ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยข้อมูลน่าสนใจกับฐานเศรษฐกิจว่า ในปี 2566 มีปัจจัยบวก ปัจจัยลบที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก และการดำเนินธุรกิจ ดังนี้

 

ภาพประกอบข่าว เดอะมอลล์ กรุ๊ป

ปัจจัยบวก 

คือ สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่คลี่คลายลงส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว  

โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มหลัก ๆ ที่เข้ามาในประเทศไทยในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวขณะนี้คือ นักท่องเที่ยวกลุ่มอาเซียน กลุ่มชาติตะวันตก และอินเดีย ซึ่งหากประเทศจีนเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ คาดว่าชาวจีนจะมาเที่ยวประเทศไทยเป็นจำนวนมากพร้อมอยู่เที่ยวนานขึ้น อันจะส่งผลธุรกิจในประเทศ และทั่วโลกฟื้นตัวได้มากขึ้น 

 

ปัจจัยลบ

สำหรับปัจจัยลบที่มีผลต่อเศรษฐกิจโลก คือ ภาวะเงินเฟ้อ ที่ขณะนี้กำลังส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย 

นอกจากนี้ยังมีเรื่องอัตราค่าไฟฟ้า และค่าน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับขึ้นราคา ซึ่งปัจจัยด้านพลังงานถือเป็นต้นทุนสำคัญของภาคธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงธุรกิจค้าปลีกด้วยเช่นกัน 

หากมีการปรับตัวขึ้นก็จะส่งผลให้ภาคธุรกิจต้องปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการต่าง ๆ เนื่องจากแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่ไหว เมื่อราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ย่อมส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของผู้บริโภค รวมถึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

 

บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด

ซีอีโอเดอะมอลล์ กรุ๊ป ยอมรับว่า ในปี 2566 มีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ และด้วยสภาพเศรษฐกิจที่มีความผันผวน อาจมีการปรับขึ้นราคาสินค้าเนื่องจากต้นทุนสินค้าสูงขึ้น  

ดังนั้น เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด เดอะมอลล์ กรุ๊ป จะหารือกับคู่ค้า ซัพพลายเออร์ในการตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเพื่อไม่ให้กระทบกับลูกค้า ช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน 

นอกจากนี้เราต้องเตรียมพร้อมรับมือรอบด้าน ต้องดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ ระมัดระวัง และวางแผนควบคุมต้นทุนทางการตลาดให้ดี เพื่อลดผลกระทบด้านต่างๆ

"อยากให้รัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2566 ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แบบมาตรการระยะยาว ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น มาตรการลดภาษีสินค้านำเข้า เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีภาษีนำเข้าสูงกว่าประเทศอื่นๆ หากมีการปรับลดภาษีสินค้านำเข้าคาดว่าจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงคนไทยได้ซื้อสินค้าในราคาที่ใกล้เคียงกับต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยทำให้เศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียน"

ส่วนอีกมาตรการที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยดูแล คือ มาตรการควบคุมอัตราค่าไฟฟ้า และค่าน้ำมัน เพื่อช่วยบรรเทาภาระผู้ประกอบการ เพราะหากมีการปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้า และค่าน้ำมัน จะทำให้ต้นทุนการทำธุรกิจสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมด้านต่าง ๆ ทยอยปรับราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของผู้บริโภค จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาควบคุมดูแลเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน