climatecenter

นักวิจัยชี้ตัวเต็งสีขยะพลาสติกที่กลายเป็น 'ไมโครพลาสติก' เร็วที่สุด

    นักวิจัยชี้ 'ขยะพลาสติก' สีไหนกลายเป็น 'ไมโครพลาสติก' ได้เร็วกว่าสีอื่น แพร่กระจายปนเปื้อนทั่วโลกจำนวนมหาศาลกว่า 24.4 ล้านล้านชิ้น

ในยุคปัจจุบันที่โลกของเราเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ "ขยะพลาสติก" และ "ไมโครพลาสติก" ได้กลายเป็นภัยร้ายที่ส่งผลกระทบอย่างมหาศาล ตามรายงานขององค์การสหประชาชาติ ในแต่ละปีมีขยะพลาสติกกว่า 300 ล้านตันถูกผลิตขึ้นทั่วโลก และมีเพียงราว 9% เท่านั้นที่ได้รับการรีไซเคิล

 

และทุกปีมีขยะพลาสติกราว 12 ล้านตันถูกปล่อยลงสู่มหาสมุทร แต่จะเห็นเพียงส่วนน้อยบนผิวน้ำ เพราะส่วนใหญ่จมลงก้นทะเลหรือลอยใต้ผิวน้ำ บางชิ้นใช้เวลาย่อยสลายนานถึง 450 ปี เนื่องจากมีน้ำหนักเบาจึงแพร่กระจายไปตามกระแสน้ำและลมได้ไกล ทำให้เก็บกู้ได้ยาก

 

ปัญหาขยะพลาสติกในประเทศไทยถือว่ารุนแรงอย่างยิ่ง จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ ปี 2562 พบว่าประเทศไทยมีขยะพลาสติกสะสมกว่า 2 ล้านตันต่อปี โดยมีขยะพลาสติกประมาณ 25% ที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกวิธี ส่งผลให้มีขยะพลาสติกตกค้างในทะเลอ่าวไทยมากถึง 180,000 ตันต่อปี ซึ่งส่งผลร้ายต่อระบบนิเวศน์ทางทะเลอย่างหนัก

 

ไม่เพียงแค่ขยะพลาสติกขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ "ไมโครพลาสติก" (Microplastics) ซึ่งเป็นเศษพลาสติกขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร ก็กลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของโลก จากรายงานของสหภาพวิทยาศาสตร์นานาชาติแห่งสหประชาชาติ พบว่ามีไมโครพลาสติกปนเปื้อนในน้ำทะเล อากาศ และดินทั่วโลกแล้วมากกว่า 24.4 ล้านล้านชิ้น

 

นักวิจัยชี้ตัวเต็งสีขยะพลาสติกที่กลายเป็น \'ไมโครพลาสติก\' เร็วที่สุด

 

การปนเปื้อนของไมโครพลาสติกมีผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิต ตัวอย่างเช่น การศึกษาเมื่อปี 2562 พบว่าสัตว์ทะเลหายากอย่าง "วาฬ" ตัวหนึ่งมีไมโครพลาสติกอยู่ในระบบย่อยอาหารถึง 30 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า มนุษย์เราอาจได้รับไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายผ่านการหายใจและการบริโภคอาหารทะเลด้วยเช่นกัน


ขณะเดียวกันยังมีหลายประเทศทั่วโลกที่พยายามรณรงค์เพื่อลดการใช้พลาสติกและขยะพลาสติก เช่น ประเทศญี่ปุ่นได้มีนโยบายลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งโดยการเก็บค่าธรรมเนียมกับร้านค้า หรือยุโรปที่มีเป้าหมายให้มีการรีไซเคิลพลาสติกอย่างน้อย 55% ภายในปี 2573

 

นักวิจัยชี้ตัวเต็งสีขยะพลาสติกที่กลายเป็น \'ไมโครพลาสติก\' เร็วที่สุด

 

นอกจากปริมาณของขยะพลาสติกและไมโครพลาสติกแล้ว ยังพบว่าปัจจัยด้านสีของพลาสติกก็มีผลต่ออัตราการสลายตัวเป็นไมโครพลาสติกด้วย จากการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า พลาสติกสีแดง น้ำเงิน และ เขียว มีแนวโน้มจะกลายเป็นอนุภาคไมโครพลาสติกได้เร็วกว่าสีอื่นๆ เนื่องจากสารเติมแต่งสีเหล่านี้ไม่สามารถป้องกันพลาสติกจากการถูกทำลายด้วยรังสียูวีได้ ทำให้พลาสติกเปราะและแตกกระจายได้ง่าย

 

แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความพยายามจากหลายภาคส่วน แต่อัตราการผลิตพลาสติกใหม่กลับยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากรายงานของศูนย์วิจัยระบบพลาสติกและสิ่งแวดล้อม พบว่าในปี 2562 โลกผลิตพลาสติกใหม่กว่า 368 ล้านตัน ซึ่งสูงกว่าปี 2561 ถึง 3.2%

 

ดังนั้น ในการผลิตสินค้าพลาสติกที่มีอายุการใช้งานสั้นหรือต้องโดนแสงแดดจัด เช่น บรรจุภัณฑ์ของเล่นเด็ก เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง นักวิจัยจึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้เม็ดสีแดง น้ำเงิน และ เขียว และ เลือกใช้สีดำ ขาว หรือสีเงินแทน เพื่อชะลอการสลายตัวของพลาสติก นอกจากนี้ ผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกควรพิจารณาให้ความสำคัญกับการออกแบบพลาสติกให้สามารถรีไซเคิลได้ง่ายขึ้นด้วย

 

นักวิจัยชี้ตัวเต็งสีขยะพลาสติกที่กลายเป็น \'ไมโครพลาสติก\' เร็วที่สุด

 

อ้างอิง: