environment

วันหนี้นิเวศโลก 2024: สัญญาณเตือนภัยจากธรรมชาติที่ไม่ควรมองข้าม

    1 สิงหาคม 2024 'วันหนี้นิเวศโลก' (Earth Overshoot Day) วันที่มนุษย์ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเกินกว่าที่โลกสร้างขึ้นใหม่ได้ในปีนี้

วันที่ 1 สิงหาคม 2024 ถูกกำหนดให้เป็น "วันหนี้นิเวศโลก" หรือ Earth Overshoot Day ประจำปีนี้ วันสำคัญนี้บ่งชี้ว่า มนุษยชาติได้ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเกินกว่าที่โลกสามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ในรอบปี นับเป็นสัญญาณเตือนภัยที่ชัดเจนถึงการใช้ทรัพยากรอย่างไม่ยั่งยืนของเรา และเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน

 

Global Footprint Network องค์กรวิจัยระดับนานาชาติ เป็นผู้คำนวณและประกาศวันนี้ โดยอาศัยข้อมูลจากหลายแหล่ง รวมถึง National Footprint and Biocapacity Accounts ภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัยยอร์ค การคำนวณนี้พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนวันในปี รอยเท้านิเวศของโลกในปัจจุบัน และปริมาณทรัพยากรทางนิเวศที่มนุษย์ยังสามารถเข้าถึงได้ในปีนั้นๆ

ข้อมูลบ่งชี้ว่า ปัจจุบันมนุษยชาติใช้ทรัพยากรธรรมชาติเร็วกว่าที่ระบบนิเวศสามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ถึง 1.7 เท่า หมายความว่า ด้วยอัตราการใช้ทรัพยากรในปัจจุบัน เราต้องการโลกถึง 1.7 ใบ จึงจะเพียงพอต่อความต้องการของประชากรโลกอย่างยั่งยืนในหนึ่งปี การที่มนุษย์ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเร็วกว่าที่ธรรมชาติสร้างขึ้นใหม่ได้ เปรียบเทียบได้เหมือนการถอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์เร็วกว่าที่ดอกเบี้ยงอกเงย ทำให้ 'เงินต้น' หรือทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ

 

ผลกระทบของการใช้ทรัพยากรเกินขีดจำกัดนี้เห็นได้ชัดเจนในหลายด้าน เช่น...

  • การตัดไม้ทำลายป่า: พื้นที่ป่าไม้ลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพและการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์
  • การพังทลายของดิน: การทำเกษตรกรรมเชิงเดี่ยวและการใช้สารเคมีทำให้คุณภาพดินเสื่อมโทรม
  • การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ: สิ่งมีชีวิตหลายชนิดกำลังเผชิญกับภาวะใกล้สูญพันธุ์
  • การเพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ: นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น
  • ผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา "วันหนี้นิเวศโลก" มีแนวโน้มเกิดขึ้นเร็วขึ้นทุกปี โดยในปี 2023 วันหนี้นิเวศโลกตรงกับวันที่ 2 สิงหาคม ในปี 2022 ตรงกับวันที่ 28 กรกฎาคม และในปี 2021 ตรงกับวันที่ 29 กรกฎาคม และวันที่มนุษย์ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเกินกว่าที่โลกสามารถผลิตได้ในหนึ่งปีในปี 1971 อยู่ในช่วงเดือนธันวาคม แสดงให้เห็นว่าโลกกำลังถูกใช้ทรัพยากรเร็วขึ้นเรื่อยๆ และหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ แนวโน้มนี้อาจนำไปสู่วิกฤตทางนิเวศวิทยาที่รุนแรงในอนาคตอันใกล้

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีความหวัง ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ายังสามารถ "เลื่อน" วันหนี้นิเวศโลก ให้ช้าลงได้ด้วยการดำเนินการใน 5 ด้านหลัก:

1. เมือง: การวางผังเมืองอย่างยั่งยืน การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ และการเพิ่มพื้นที่สีเขียว

2. พลังงาน: การเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

3. อาหาร: ลดการสูญเสียอาหาร ส่งเสริมการบริโภคอาหารที่ยั่งยืน และพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

4. ประชากร: การให้การศึกษาและการวางแผนครอบครัว

5. โลก: การอนุรักษ์ระบบนิเวศและฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรม

 

การลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากเชื้อเพลิงฟอสซิลลง 50% จะช่วยเลื่อนวันหนี้นิเวศออกไปได้ถึงสามเดือน แสดงให้เห็นถึงผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญที่การเปลี่ยนแปลงเพียงด้านเดียวสามารถสร้างได้

 

ลูอิส อาเคนจิ สมาชิกคณะกรรมการ Global Footprint Network และสมาชิกของ Club of Rome กล่าวว่า "การใช้ทรัพยากรมากเกินไปจะสิ้นสุดลง คำถามคือทำอย่างไร: โดยการออกแบบหรือโดยภัยพิบัติ การเปลี่ยนแปลงที่วางแผนไว้ทำให้เรามีความปลอดภัยที่ดีกว่าการยอมจำนนต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกที่สูญเสียสมดุลเนื่องจากการใช้ทรัพยากรมากเกินไป”

 

วันหนี้นิเวศโลก เป็นเครื่องเตือนใจที่ทรงพลังว่าเราต้องเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตและการพัฒนาเศรษฐกิจของเรา เพื่อให้สอดคล้องกับขีดจำกัดของโลก การกระทำของเราวันนี้จะกำหนดอนาคตของโลกใบนี้ ดังนั้นทุกคนจึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลง ตระหนักถึงผลกระทบของกิจกรรมมนุษย์ต่อโลก และถึงเวลาแล้วที่ต้องลงมือทำอย่างจริงจัง เพื่อการจัดการการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนในอนาคต

 

อ้างอิง: