ผลการศึกษาจากอโกรา เวอร์เคสเวนเดอ (Agora Verkehrswende) หน่วยงานคลังสมองของเยอรมนี พบว่าเยอรมนีอาจประหยัดงบประมาณของการสร้างความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศภายในปี 2045 ได้สูงถึง 6 หมื่นล้านยูโร (ราว 2.4 ล้านล้านบาท) หากดำเนินมาตรการเพิ่มเติมในภาคการขนส่งโดยทันที
รายงานระบุว่าหากพิจารณาจากนโยบายสภาพภูมิอากาศของเยอรมนีในปัจจุบัน ภาคการขนส่งของเยอรมนีอาจพลาดเป้าหมายลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และส่งผลให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ส่วนเกินราว 590 ล้านตันภายในปี 2045
วิบเก ซิมเมอร์ รองผู้อำนวยการอโกรา เวอร์เคสเวนเดอร์ กล่าวว่าความลังเลทางการเมืองมีราคาที่ต้องจ่าย ไม่ด้วยเม็ดเงินก็ก๊าซเรือนกระจก ซึ่งทุกภาคส่วนล้วนเสี่ยงเหมือนกันหมด
สำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งเยอรมนีเผยว่าแม้เยอรมนีที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปกำลังเดินหน้าสู่การบรรลุเป้าหมายสภาพภูมิอากาศโดยรวมที่กำหนดไว้ในปี 2030 แต่ภาคการขนส่งยังคงเหมือนเป็น "เด็กเจ้าปัญหา" โดยเมื่อปี 2023 แม้ภาคการขนส่งของเยอรมนีปล่อยมลพิษลดลงเล็กน้อยแต่ยังคงสูงเกินเป้าหมายที่วางไว้
เมื่อไม่นานนี้ รัฐบาลเยอรมนีแก้ไขกฎหมายคุ้มครองสภาพภูมิอากาศแห่งเยอรมนี ซึ่งเปลี่ยนแกนสำคัญจากเป้าหมายปล่อยมลพิษส่วนบุคคลของแต่ละภาคส่วนเป็นการคำนวณแบบครอบคลุม ต่อเนื่องหลายปี และข้ามภาคส่วน เพื่อเป็นปัจจัยชี้วัดการดำเนินมาตรการเพิ่มเติม
บรรดานักเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศวิพากษ์วิจารณ์การแก้ไขกฎหมายข้างต้นและจะยื่นฟ้องร้อง โดยโอลาฟ แบนด์ต ตัวแทนเครือข่ายเฟรนส์ ออฟ ดิ เอิร์ธ เยอรมนี (Friends of the Earth Germany) ชี้ว่าการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและอิสระของคนรุ่นหลัง
ด้านผลการศึกษาจากสถาบันวิจัยผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศพอตส์ดัมระบุว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะทำให้เศรษฐกิจโลกสูญเสียรายได้ร้อยละ 19 ภายในปี 2050 แม้มีการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างมีนัยสำคัญก็ตาม โดยภูมิภาคส่วนใหญ่ รวมถึงอเมริกาเหนือและยุโรป จะสูญเสียรายได้อย่างมาก โดยเฉพาะเอเชียใต้และแอฟริกาจะได้รับผลกระทบมากที่สุด.
ที่มา: สำนักข่าวซินหัว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง