Dow ตั้งเป้าลด CO2 5 ล้านตันปี 73 บริษัทแม่อัดปีละพันล้านดอลลาร์ หนุน Net Zero

กลุ่มบริษัท ดาว (Dow) ผู้ผลิตวัสดุศาสตร์ชั้นนำของโลก มีประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของ Dow ในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ประกอบด้วย 13 โรงงาน ล่าสุดได้ประกาศเปิดตัวรายงานความยั่งยืน ปี พ.ศ. 2566 และความก้าวหน้าในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคมในประเทศไทย

สอดคล้องกับกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Dow โดยเฉพาะการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือภาวะโลกร้อน ที่บริษัทแม่จะใช้เงินลงทุนเฉลี่ยทั่วโลกปีละ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดช่วงวงจรเศรษฐกิจ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและการลดคาร์บอนในการผลิต

นายฉัตรชัย  เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหารกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า รายงานความยั่งยืนปี 2566 แสดงให้เห็นถึงการทำงานของกลุ่มบริษัทอย่างจริงจังในด้านสิ่งแวดล้อมสังคม และการกำกับดูแลกิจการผ่านความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์และการทำงานเชิงกลยุทธ์ร่วมกับพันธมิตร

โดยในปี 2568 Dow Thailand มีแผนที่จะขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่วางไว้ เพื่อสร้างความยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งมั่นที่จะต้านโลกร้อน เปลี่ยนขยะเป็นผลิตภัณฑ์ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน และส่งเสริมวงจรรีไซเคิล โดยการพัฒนานวัตกรรมด้านวัสดุศาสตร์ที่สามารถรีไซเคิลหรือนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ได้

สำหรับในปี 2568 กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย จะเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อมุ่งไปสู่การบรรลุเป้าหมายด้านความอย่างยั่งยืนทั้ง 7 หัวข้อ เพื่อเพิ่มคุณค่าทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ประกอบด้วย ส่งมอบนวัตกรรมลํ้าสมัย ยกระดับเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นผู้นำระดับโลกในการปฏิบัติงาน ให้ความสำคัญกับธรรมชาติ เป็นผู้นำแผนแม่บท สร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับโลก มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบในระดับชุมชนและบุคคล โดยตั้งเป้าหมายภายในปี 2573 Dow จะลดการปล่อยคาร์บอนลง 15% หรือ 5 ล้านต้น และภายในปี 2593 Dow จะปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์

รวมถึงภายในปี 2573 จะผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกใช้แล้วและวัสดุหมุนเวียนให้ได้ 3 ล้านต้นต่อปี ครอบคลุมเป้าหมายเดิมที่จะช่วยให้ขยะ 1 ล้านตันถูกนำกลับมาใช้ใหม่ หรือรีไซเคิลได้ และภายในปี 2578 ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Dow ที่นำไปผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์จะต้องนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้

นอกจาก Dow จะพัฒนาและสร้างผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนแล้ว ยังคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับโลกและช่วยส่งเสริมให้ลูกค้ามีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ด้วยการส่งมอบความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีให้กับลูกค้าและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนตํ่าและโลกที่ยั่งยืน

ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้ดำเนินงานส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเป็นรูปธรรม เป็นที่มาของการจัดตั้งโครงการ Smart Recycling Hub ในปี 2566 ซึ่งบูรณาการเทคโนโลยีและนวัตกรรมในประเทศและองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ

พร้อมทั้งปรับให้เหมาะสมกับบริบทการจัดการขยะปัจจุบันของประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนจาก PPP Plastics และ The Alliance to End Plastic Waste (AEPW) ซึ่งตั้งเป้านำพลาสติกใช้แล้วคุณภาพสูงกลับเข้าสูระบบรีไซเคิล อย่างน้อย 50,000 ตันต่อปี ภายในปี 2569 ดำเนินการในพื้นที่นำร่องกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และจังหวัดในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง

สำหรับการดำเนินงานปี 2566 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึง 31,800 ตัน ผ่านการปรับปรุงกระบวนการผลิตโพลิเอททิลีน โพรพิลีนออกไซด์ และโพลียูริเทนในพื้นที่เขตนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยบริษัท สยามโพลิเอกทีลิน จำกัด ได้รับการรับรองให้เป็นองค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าชเรือนกระจก (climate Action Leading Organization) ในระดับทอง จากองค์การบริหารจัดการก๊าชเรือนกระจก (องค์การมหาชน)

รวมถึงการได้ปลูกป่าชายเลนจำนวน 31,000 ต้น พร้อมมีแผนระยะยาวในการจัดการและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน ภายใต้โครงการ Dow & Thailand Mangrove Alliance อีกทั้งได้รับการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์และฉลากลดโลกร้อน เพิ่มขึ้นอีก 7 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งรวมแล้วทำให้มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองทั้งหมด 47 ผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาโรงงานผลิตไพโรไลซิสขนาดเล็ก เพื่อเปลี่ยนขยะพลาสติกเป็นนํ้ามันที่สามารถนำไปผลิตเม็ดพลาสติกต่อได้ของกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ถือเป็น 1 ใน 7 ประเทศ ของ Dow ทั่วโลกที่ได้รับทุน Dow. Business Impact Fund และได้มีการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อจัดการและแปรรูปวัสดุรีไซเคิลครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทยที่อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เพื่อรวบรวมวัสดุใช้แล้วกลับเข้าสู่ระบบให้ได้ 1,000-1,200 ตันต่อปี และเก็บและคัดแยกขยะได้มากกว่า 136 ตัน จากโครงการต่าง ๆ ตลอดปี เป็นต้น