ดร.จิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group เปิดเผยว่า EGCO Group ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าและพลังงาน ตามทิศทาง “Cleaner, Smarter and Stronger to drive sustainable growth” ที่ให้ความสำคัญกับการร่วมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ซึ่งเป็นประเด็นที่มีผลกระทบรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยได้ประกาศเป้าหมายและแนวทางมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ 3 ระยะ ประกอบด้วย
ทั้งนี้ EGCO Group ผลักดันแนวทางมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการลงทุนที่สำคัญในสหรัฐฯ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการปรับปรุงโรงไฟฟ้า Linden Cogen หน่วยที่ 6 กำลังผลิต 172 เมกะวัตต์ ในเมืองลินเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์
โดย EGCO Group ถือหุ้น 28% ให้สามารถรองรับก๊าซที่มีไฮโดรเจนเป็นองค์ประกอบ มาใช้เป็นเชื้อเพลิงผสมกับก๊าซธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโรงไฟฟ้านี้ลงประมาณ 10% และการลงทุนในสัดส่วน 17.46% ในบริษัท เอเพ็กซ์ คลีน เอ็นเนอร์ยี โฮลดิ้ง แอลแอลซี (APEX) ผู้พัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ ที่มีกำลังผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ไฮโดรเจน
และระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ ใน Pipeline รวมกว่า 200 โครงการ กำลังผลิตรวมกว่า 56,000 เมกะวัตต์ APEX จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ EGCO Group สามารถเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่มีสัดส่วน 21% ของ Portfolio ในปัจจุบัน เป็น 30% ภายในปี 2030
นอกจากนี้ EGCO Group ได้ดูแลสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ ผ่านการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เช่น โรงไฟฟ้าขนอม จ.นครศรีธรรมราช มีโครงการจัดทำข้อมูลฐานสัตว์บ่งชี้ความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นต้น ตลอดจนดำเนินงานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าต้นน้ำที่สำคัญของประเทศไทย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของพลังงาน ผ่านมูลนิธิไทยรักษ์ป่า องค์กรสาธารณกุศลที่ EGCO Group ก่อตั้งและสนับสนุนการดำเนินงานมากว่า 22 ปี รวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนให้สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างสมดุลและยั่งยืน เช่น โครงการพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติในพื้นที่ป่าต้นน้ำใน จ.เชียงใหม่ และ จ.นครศรีธรรมราช และโครงการ “ฟื้นฟูป่า รักษาตาน้ำ” จ.ชัยภูมิ เป็นต้น
ดร.จิราพร กล่าวอีกว่า EGCO Group มุ่งดูแลสิ่งแวดล้อมและสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ขององค์กรในปี 2050 ควบคู่กับการสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ของประเทศไทยในปี 2065 ซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่ที่ต้องการกลไกการส่งเสริมใน 6 ด้าน ประกอบด้วย
นอกจากนี้ ยังมีส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในสังคม ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำร่วมกันอย่างยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง