ยึดกฎหมาย เมตตาธรรม ดูแลการชุมนุม ทางการเมือง

ยึดกฎหมาย

เมตตาธรรม

ดูแลการชุมนุม

ทางการเมือง
 

     อุณหภูมิร้อนแรงในบ้านในเมืองลดฮวบลงทันที เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน แสดงท่าทีที่ชัดเจนของรัฐบาล ในการดูแลการนัดชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมในวันเสาร์ที่ 19 ก.ย.2563 นี้
 

     โดยกล่าวว่า ไม่ต้องเตรียมรับมืออะไรกับลูกหลาน เมื่อเห็นว่าไม่ผิดกฎหมายก็ทำไป แต่ถ้าผิดกฎหมายขึ้นมาแล้วมาบอกว่ารัฐบาลรังแก ใช้กฎหมายไปกดทับ อย่างนี้ไม่เป็นธรรมกับตน รวมทั้งยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรให้เกิดความรุนแรง โดยได้บอกกับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานไปแล้วว่า ต้องดูแลให้ทุกคนปลอดภัยและอย่าให้ใครมาใช้ประโยชน์ในการชุมนุมไปในเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะจัดที่ธรรมศาสตร์หรือที่ไหนก็ต้องดูแล

     สังคมหวั่นวิตกทันทีเมื่อมีการประกาศจัดการชุมนุมครั้งนี้ เมื่อกลุ่มผู้จัดการชุมนุมประโคมแผนใหญ่โตว่า จะอภิปรายในเรื่องอ่อนไหวยิ่งขึ้นกว่าที่เคยจัดมาก่อนหน้า โดยมีแผนจะปักหลักค้าง 1 คืนในธรรมศาสตร์ หากคนมาร่วมมากจะยึดสนามหลวง และเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาลในวันรุ่งขึ้นทั้งที่เป็นวันหยุด
 

     สถานการณ์เขม็งเกลียวขึ้นไปอีก เมื่อผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีมติไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่จัดชุมนุม ขณะแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมก็ยืนยันตามแผนเดิม หากปิดประตูคล้องโซ่ก็จะตัดโซ่พังประตูเข้าไป เร้าสถานการณ์ย้อนรอยประวัติศาสตร์เดือนตุลาฯ จนทำให้ศิษย์เก่าและสมาชิกประชาคมธรรมศาสตร์แตกความเห็นเป็น 2 ซีก เปิดวิวาทะดุเดือดเรื่อง “เปิด-ไม่เปิด” ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยในการชุมนุม
 

     การประกาศท่าทีของรัฐบาล ที่ใช้หลัก “เมตตาธรรม-กฎหมาย” ในการดูแลการชุมนุมทางการเมืองครั้งนี้ เป็นบทบาทที่ถูกต้องแล้ว ทั้งการประกันความปลอดภัยในการชุมนุมทุกพื้นที่ คลายแรงกดดันที่ผู้ชุมนุมดึงดันต้องใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้ได้ ส่งสัญญาณป้องกันเหตุมือที่ 3 ไม่ว่าจะมาจากฝ่ายไหน ที่อาจแทรกซ้อนเข้าก่อเหตุรุนแรงเพื่อปั่นสถานการณ์ ควบคู่กับการกำกับดูแลให้ทุกภาคส่วนทำกิจกรรมภายใต้กรอบกฎหมาย รวมถึงกระแสข่าวแนวทางไม่ปิดรั้วสนามหลวงหากผู้ชุมนุมจะเข้ายึดพื้นที่ เป็นการเปิดทางระบายผ่อนสถานการณ์ให้คลายตัวลง
 

     ไม่เพียงรัฐบาลแต่รวมถึงทุกฝ่าย ต้องเอื้อเฟื้อบ้านเมืองด้วยการยึดหลัก “กฎหมาย-เมตตาธรรม”