“รัฐบาลแพทองธาร”อย่าประมาท ระวังถูกน็อคเอาท์

*** เขย่าขวดตรวจแนวรบข่าวสารบ้านเมืองเวลานี้ ผู้คนเฝ้าติดตามอยู่ 2-3 เรื่อง ว่าด้วยนํ้าท่วม ทนทุกข์ระทม ใครไม่เจอด้วยตัวเองอาจไม่รู้ แต่ใครเจอเข้าก็จะรู้ว่าทุกข์ยากเพียงไหน คาบนี้ยังไม่ต้องพูดถึงการฟื้นฟูความเสียหายที่จะเกิดขึ้น เอาเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันก่อน สิ่งของบรรเทาทุกข์ ถุงยังชีพ ต้องเข้าถึงเร็ว ทุกหน่วยราชการ เอกชน ประชารัฐร่วมใจช่วยภัยนํ้าท่วม ช่วยกันคนละไม้คนละมือ คนไทยไม่ทิ้งกัน เวลานี้ “เนชั่นกรุ๊ปและมูลนิธิเนชั่น” ขันอาสาร่วมกับพันธมิตร ทั้งภาครัฐ เอกชน ลำเลียงถุงยังชีพเข้าถึงพื้นที่นํ้าท่วมโดยด่วนที่สุด ไปสุโขทัยมาแล้ว พะเยา เชียงราย ต้องขอบพระคุณทุกฝ่ายเป็นอย่างสูงที่มาช่วยเหลือกันในยามยาก

*** เนชั่นกรุ๊ปและสื่อในเครือ ยังคงเปิดรับบริจาคทั้งเงินและสิ่งของ ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย คนไทยมีนํ้าใจงามสามารถบริจาคสิ่งของได้ที่ ที่ทำการเนชั่น สถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวีช่อง 22 กม.4.5 ถ.เทพรัตน์ บางนา กทม.จันทร์-ศุกร์ เวลาทำการ ส่วนผู้ประสงค์บริจาคเงิน ไปที่หมายเลขบัญชี ชื่อบัญชีมูลนิธิ เนชั่น ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เลขบัญชี 333-0-01399-6 สอบถามเพิ่มเติมมูลนิธิเนชั่น โทร. 02-3383310

*** เรื่องราวทางการเมืองก็ยังคงติดตามกันกับการเสนอชื่อ ครม.แพทองธาร 1 ที่ตรวจคุณสมบัติกันเข้มข้น ผู้ที่ติดโผ ติดผัง เที่ยวนี้ว่ากันว่าลังเล แคลงใจ มีมากถึง 11 คน พวกแคนดิเดตรัฐมนตรีที่มีชื่อเสียงโด่งดังหวือหวา คาบเส้นคาบเกี่ยวมีคดี มีอิทธิพล มีป.ป.ช.ชี้มูล หรือระหว่างการพิจารณายังไม่ชี้มูล ต้องไม่ลืมมาตรฐานจริยธรรม สูงกว่ากฎหมาย ทางแก้ทางกันพวกนี้ ต้องส่ง “นอมินี” เข้ามานั่งเก้าอี้แทนแล้วตัวเองไปบงการอยู่ข้างหลัง ระบบการเมืองแบบไทยๆ ก็เช่นนี้ว่ากันตามโควต้า ครั้นจะฝ่าด่านจริยธรรมก็หมิ่นเหม่ ขืนนั่งเอง ใครส่งศาลตีความชี้ชะตาขึ้นมา ลามถึงนายกฯ อิ๊ง รัฐบาลจะมีอายุสั้น   

*** ต้องไม่ลืมว่าฝ่ายต้านทักษิณ ก็จ้องฮึ่มๆ ฮั่มๆ ในการสอย นายกฯอิ๊ง เป็นรายถัดไป แม้การประเมินจากบุคคลสำคัญของพรรคเพื่อไทย บอกไม่มีอะไรในกอไผ่ ฝ่ายต้านไม่มีกำลังมากพอและสะสมกำลังไม่ติด แต่ความต้องย้อนกลับไปกล่าว สมัย ทักษิณ นั่งนายกฯเองก็คิดเช่นนี้ สมัย นายกฯสมัคร ก็คิดเช่นนี้ สมัย นายกฯสมชาย ก็คิดเช่นนี้ และมา นายกฯยิ่งลักษณ์ ก็คิดเช่นนี้ ทำให้ย่ามใจเดินเร็ว เดินแรง ผลก็ออกมาอย่างที่เห็น ไม่มีใครกุมอำนาจเบ็ดเสร็จชี้นกชี้ไม้ได้ฝ่ายเดียว ตอนนี้กลายเป็นฝ่ายรอสางแค้น แม้ไม่ถูกกันกัน แต่วาระร่วมกันฟาดฝ่ายทักษิณ สะสมกำลังก่อตัวไปเรื่อยๆ ประมาทเผลอเรอก็น็อคเอาท์

*** เพลานี้คาดการณ์ กะเก็ง วิเคราะห์กันไปแล้ว นายกฯอิ๊ง อยู่ได้กี่เดือน กี่ปี ครบเทอมที่เหลือวาระสภาฯ หรือไม่ ดูหน้าตารัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยเองพอจัดพอฟัดไปได้ ไม่เหมือนคราวก่อนที่รัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ทำเสียท่า นายกฯ เศรษฐา ตกเก้าอี้ เที่ยวนี้พอไหว ...น่าจะยาวไปหลังกลางเดือนก.ย.โน่น ถึงจะได้แถลงนโยบาย แล้วเริ่มต้นทำงานกันแบบเต็มไม้เต็มมือเสียที

*** งานด่วน งานที่รอไม่ได้การ “แจกเงินดิจิทัล” ที่ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบ กันมาแจกเงินสดก้อนแรกให้กับผู้ที่เดือดร้อนมากๆ โดยตรงก่อน เพราะงบประมาณสิ้นสุดก.ย.นี้ ฉะนั้นต้องทำเร็ว แต่คราวนี้ก็มีปัญหาอีกว่าการลงทะเบียนที่ผ่านมา ผ่านแอพทางรัฐ จะยังคงใช้ได้หรือไม่ ถูกต้อง ตรงตัวหรือไม่ หรือจะใช้การแจกผ่านระบบ รูปแบบไหน เรื่องที่ว่าทุกขั้นตอนต้องละเมียด บอกเลยมี “นักร้อง” เตรียมร้องอยู่ทั้งสิ้น

*** เรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง เรื่องหนี้สิน หนักหนาสาหัสจริงๆ อย่าไปหลงใหลได้ปลื้มเอากับกำลังซื้อคนระดับกลาง-บนบางส่วน ต้องลงไปดูพื้นที่ชนบท หัวเมือง ธุรกิจ ห้างร้าน เอสเอ็มอี ชีพจรอ่อนแรง หายใจรวยรินเต็มที ปัญหาที่ “นายกฯอิ๊ง” ต้องนำทัพฝ่าฟัน หาช่องหาทางบูท บิวท์ขึ้นมาใหม่ให้ได้ 

*** น่าสนใจ ธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ยํ้าโอกาสด้านการลงทุนระหว่างไทย-สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งสามารถพัฒนาต่อยอดได้อีกมาก รวมถึงศักยภาพของไทยที่พร้อมรับการลงทุนจากต่างชาติ ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทรัพยากรมนุษย์ และความต่อเนื่องของนโยบายสนับสนุนการลงทุนของรัฐบาล มีการจัดงานThailand-ROK Investment Forum งานนี้มีบรรยายเกี่ยวกับศักยภาพด้านลงทุนระหว่างไทย-สาธารณรัฐเกาหลี และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากบีโอไอ พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทเอกชนไทย อย่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย และสถาบัน Korea Institute for International Economic Policy (KIEP) ของสาธารณรัฐเกาหลี มีการจับคู่ธุรกิจเอกชนไทยบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บี กริม และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับเอกชนเกาหลีด้วย

*** ปิดท้ายด้วยงานนี้ต้องไปฟัง เมื่อองค์กรส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรมและต่อต้านการผูกขาด จัดสัมมนา องค์กรส่งเสริมการแข่งขันฯถกปมไฟฟ้าแพง ประชาชนเดือดร้อนเพราะใคร ? งานนี้ระดมนักวิชาการอิสระชื่อดัง นักกฎหมาย และผู้แทนมูลนิธิผู้บริโภค ร่วมถก วันที่ 4 กันยายนนี้ ที่โรงแรมเอส 31 มาทั้ง น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานองค์กรส่งเสริมการแข่งขัน ที่เป็นธรรมและต่อต้านการผูกขาด ทั้ง รศ.ดร.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์ ตัวแทนสภาองค์กรของผู้บริโภค เมธา มาสขาว ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาธิปไตย นายณัชพล สุพัฒนะ (มาร์ค พิทบูล) นักวิจารณ์อิสระ นายรณกาจ ชินสำราญ นักวิชาการด้านไฟฟ้า นายสุนทร เอกพันธ์ รองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และวิศวกรประจำโรงไฟฟ้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายนิพัทธ์ เหลืองดำรงค์ รองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง นายรพีพัฒน์ อิงคสิทธิ์ หัวหน้าทีมวิจัยประจำ Climate Finance Network Thailand น.ส.จริยา เสนพงศ์ หัวหน้างานรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน กรีนพีซ ประเทศไทยและอีกหลายๆ คนมาร่วมถกเถียงกัน...