ZIGA จ่อเปิดตัวโปรดักส์ใหม่มั่นใจปีนี้ผลงานฉลุย

15 ก.ย. 2560 | 08:26 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.ย. 2560 | 15:26 น.
ZIGA แย้มไตรมาส 4/60 นี้ เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ มั่นใจลูกค้าตอบรับดี เชื่อเป็นสินค้าทำเงินให้กับบริษัทได้ในระยะยาว พร้อมแจงเงินเพิ่มทุนที่ได้นำมาใช้อย่างคุ้มค่า ใส่เกียร์เดินหน้าธุรกิจตามแผน มั่นใจปีนี้ผลประกอบการยังขยายตัวได้ดี

[caption id="attachment_208283" align="aligncenter" width="503"] นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ[/caption]

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) (ZIGA) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็กโครงสร้างประเภท Pre-zinc ภายใต้แบรนด์ “ZIGA” ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มสินค้าประเภทเดียวกัน รวมถึงท่อเหล็กร้อยสายไฟ ภายใต้แบรนด์ “DAIWA” เปิดเผยว่าในช่วงไตรมาส 4/2560 บริษัทฯเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งมีคุณสมบัติที่สามารถทนการกัดกร่อนได้สูง โดยมีคุณสมบัติที่ทนต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเลได้เป็นอย่างดีในชื่อ Super ZIGA เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าในเขตพื้นที่ภาคใต้และ 23 จังหวัดติดชายทะเล ซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่นี้สามารถนำไปทดแทนการใช้งานเหล็กโครงสร้างที่ทำจากสแตนเลสได้ในราคาที่ถูกกว่า

ทั้งนี้จากคุณสมบัติดังกล่าว บริษัทฯ จึงมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมาย และสินค้าภายใต้แบรนด์ Super ZIGA จะเป็นสินค้าทำเงินตัวใหม่ให้กับ ZIGA อย่างมีนัยสำคัญทั้งในด้านรายได้และกำไรขั้นต้นที่จะขยับสูงขึ้นในอนาคต

"หลังจากบริษัทฯได้รับเงินสดจากการระดมทุนโดยการขายหุ้น IPO ทำให้มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้ให้คุ้มค่าที่สุด โดยกำหนดเงินจำนวน 350 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินและก่อสร้างโรงงาน รวมถึงจัดซื้อเครื่องจักรเพื่อขยายกำลังการผลิต เบื้องต้นคาดว่าในปี 2561 จะขยายกำลังการผลิตได้ประมาณ 30% ของกำลังการผลิต ณ 31 มี.ค.2560 ซึ่งจะผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทฯขยายตัวตามไปด้วย" นายศุภกิจ กล่าว

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในรอบปี 2560 คาดว่าบริษัทฯจะมีอัตราการขยายตัวที่ดีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากในช่วงครึ่งหลังของทุกปีจะเป็นช่วงเวลาที่ดีของ ZIGA เพราะเป็น High Season โดยภาพรวมธุรกิจมักจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก

“ในช่วงสามปีที่ผ่านมาปริมาณการผลิตท่อเหล็กของ ZIGA เติบโตเฉลี่ย 45% ต่อปี โดยในปี 2560 บริษัทฯมีกำลังการผลิตรวมที่ประมาณ 65,000 ตัน นอกจากการเติบโตตามการลงทุนของภาครัฐและเอกชนแล้ว สินค้าของบริษัทฯ ยังสามารถแชร์ส่วนแบ่งการตลาดจากท่อเหล็กดำเพิ่มขึ้นได้ ด้วยคุณสมบัติพิเศษในเรื่องของการประหยัดเวลาและต้นทุนในการนำไปใช้งาน ประกอบกับ ZIGA เป็นแบรนด์ ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้า ดังนั้นจึงทำให้มั่นใจว่าบริษัทฯ มีศักยภาพการเติบโตได้อีกมากในอนาคต”นายศุภกิจ กล่าว